×

Queenmaker ฉันจะปั้นราชินี ซีรีส์ ‘การเมือง’ ที่สุดท้ายก็ไม่ต่างจาก ‘การแสดง’

29.04.2023
  • LOADING...
Queenmaker

HIGHLIGHTS

  • “ยังสงสัยอยู่เลยว่าเธอทำอะไรอยู่ที่ไหน มาอยู่ในนรกแบบนี้เองสินะ ที่เขาว่าเป็นศูนย์รวมคนบาปหนาในชาติก่อน ชาตินี้จึงต้องเกิดเป็นสัตว์ประหลาดผู้มาพร้อมกับความยากจน” – ประธานซน
  • “เหล่าเศรษฐีกลายเป็นพระราชา คำหลอกลวงของพวกเขาถูกบังตาด้วยคำสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกคือความจริงอันแสนน่ากลัว” – ผู้สมัครโอกยองซุก

Queenmaker ฉันจะปั้นราชินี เป็นซีรีส์ที่เรียกว่าเข้มข้นที่สุด และเข้ากับสถานการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยเวลานี้ที่สุดอีกเรื่องหนึ่งด้วย เพราะพล็อตเรื่องว่าด้วยตัวแทนจากตระกูลแชโบลของประเทศประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีกรุงโซล นั่นทำให้ ฮวังโดฮี ที่เคยเป็นมือขวาประธานซนยองชิมแห่งอึนซองกรุ๊ป และรู้ดีว่าตระกูลนี้จอมปลอมและเลวร้ายอย่างไร จึงโดดเข้าไปเป็นผู้จัดการแคมเปญเลือกตั้งให้กับ โอกยองซุก หญิงแกร่งที่จะทำให้คนในกรุงโซลมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ โดยไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

ซีรีส์ปูเรื่องในช่วง 1-2 อีพีแรกให้เห็นพื้นฐานตัวละครแต่ละภาคส่วนอย่างรวดเร็ว และคนดูเองก็คิดตามได้ไม่ยาก ซึ่งเราอยากให้ลองมองลึกลงไปในเหล่าตัวละครซีรีส์ Queenmaker ที่แยกออกเป็นหลายภาคส่วน แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นกำลังสะท้อนความจริงในสังคมที่การเลือกตั้งก็เหมือนกับฉากละครเรื่องหนึ่ง!

 

 

อึนซองกรุ๊ป กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในรัฐบาล ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคง และยังมีอำนาจในการควบคุมสื่อมวลชน

ซีรีส์ Queenmaker วางให้อึนซองกรุ๊ปเป็นกลุ่มแชโบลระดับประเทศ โดยมีประธานซนยองชิมเป็นเจ้าของสูงสุด พร้อมด้วยลูกสาวสองคนที่กำลังแย่งตำแหน่งผู้บริหารห้างปลอดภาษี โดยที่ตระกูลนี้มีการจัดตั้งฝ่ายกลยุทธ์เพื่อคอยทำหน้าที่สร้างภาพลักษณ์และกำจัดข่าวเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งยังช่วยอึนซองกรุ๊ปพลิกคดีที่มีความเสียหายให้กลายเป็นผลประโยชน์ทางการค้าได้มหาศาล ขณะเดียวกัน แพคจีมิน ลูกเขยของประธานซน ก็ได้เริ่มต้นแผนการปีนขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด โดยใช้เงินทองและอำนาจของตระกูลเป็นฐาน

 

“ยังสงสัยอยู่เลยว่าเธอทำอะไรอยู่ที่ไหน มาอยู่ในนรกแบบนี้เองสินะ ที่เขาว่าเป็นศูนย์รวมคนบาปหนาในชาติก่อน ชาตินี้จึงต้องเกิดเป็นสัตว์ประหลาดผู้มาพร้อมกับความยากจน” – ประธานซน

 

มุมมองที่ประธานซนและครอบครัวมีต่อผู้คนในระดับที่ต่ำกว่าพวกเธอนั้น รวมถึงฮวังโดฮีที่ทำงานให้บริษัทมานับสิบๆ ปี คือการเป็นเพียงเบี้ยบนกระดาน การเป็นสุนัขรับใช้ เป็นสัตว์เลี้ยงที่เพียงโยนเศษอาหารให้ก็เพียงพอแล้ว ความยากจนคือสิ่งที่คนบาปหนาใช้ชีวิตอยู่ในนรก และอย่างไรเสียก็ไม่มีวันลืมตาอ้าปากมาทำอะไรพวกเธอที่อยู่บนหอคอยสูงเสียดฟ้าได้ หรือถ้าจะมีใครมาต่อกร ก็เพียงปิดปากด้วยทรัพย์สินเงินทองในจำนวนที่ไม่ว่าใครก็ตามไม่มีวันปฏิเสธ

 

 

ทนายสิทธิมนุษยชน โอกยองซุก ที่มาพร้อมอุดมการณ์ในการช่วยเหลือเหล่าประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อเกมการเมืองและนายทุน 

ทนายสิทธิมนุษยชนในเกาหลีใต้ที่เราได้เห็นผ่านซีรีส์มาโดยตลอดมักจะอยู่ในบริษัทเล็กๆ สำนักงานเก่าๆ และคดีความส่วนใหญ่ก็เป็นไปเพื่อประชาชนโดยแท้ เพราะเอาเข้าจริงๆ ยังมีชนชั้นแรงงานมากมายที่ถูกเอาเปรียบ ถูกกระทำ ยอมตกเป็นเครื่องมือเพียงเพราะผลประโยชน์เรื่องเงินทองอันหอมหวาน อุดมการณ์ในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับมนุษย์ทุกชนชั้นจึงเป็นหัวใจหลักที่โอกยองซุกในซีรีส์ Queenmaker ยึดถือ

 

“ตอนนี้กรุงโซลของเรากำลังเผชิญหน้ากับความรุนแรงอยู่ พลังของเงินและแรงแห่งอำนาจกำลังเหยียบย่ำพวกเราอยู่ เหล่าเศรษฐีกลายเป็นพระราชา คำหลอกลวงของพวกเขาถูกบังหน้าด้วยคำสัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงโลก คือความจริงอันแสนน่ากลัว และเพื่อแก้ไขความจริงดังกล่าวนี้ได้ทันการณ์ โอกยองซุกผู้ไม่มีวันตาย จะลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงโซลค่ะ”

 

ทนายโอกยองซุก เจ้าของฉายาแรดผู้ไม่มีวันตาย กลายเป็นหนึ่งในแคนดิเดตผู้สมัครนายกเทศมนตรีกรุงโซล จากความสมบูรณ์พร้อมในการเป็น ‘คนของประชาชน’ ที่พร้อมจะพุ่งชนทุกสิ่งอย่างเพื่อให้สังคมนี้ดีขึ้นให้ได้ โดยในอีพีแรกๆ เราจะได้เห็นว่าโอกยองซุกเป็นคนจริงขนาดไหน จากการปักหลักประท้วงบนดาดฟ้าห้างอึนซองยาวนานเพียงลำพังและหนาวเหน็บ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกลุ่มพนักงานชั่วคราวที่โดนให้ออกจากงานกะทันหัน

 

ซึ่งกรณีที่พนักงานสัญญาจ้างของห้างปลอดภาษีโดนปลดฟ้าผ่านั้น หากทนายโอกยองซุกไม่เข้ามาช่วยเหลือ พนักงานกว่า 50 ชีวิตนั้นก็คงยอมพ่ายแพ้ ยอมโดนให้ออกจากงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างชดเชย หรือไม่ได้รับคำตอบเลยสักครั้ง ว่าทำไมพวกเธอจึงมีสิทธิ์ได้เป็นเพียงพนักงานชั่วคราว และระบบสังคมที่กดให้พวกเธอเติบโตไปได้สูงสุดก็เพียงตำแหน่งพนักงานสัญญาจ้างในห้างปลอดภาษีที่คนรวยมาใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยด้วยซ้ำ

 

นี่คือการแสดงให้เห็นว่า เจ้าแรดโอกยองซุก ทำให้ได้ทุกอย่างเพื่อประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เพียงคำพูดสวยหรูไปวันๆ 

 

“สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความรุนแรงคือการที่เราเคยชินกับความรุนแรงนะคะ ทุกคนถามทางห้างตั้งแต่แรกหรือเปล่า ทำไมเราถึงไม่ได้เป็นพนักงานประจำ” – ทนายสิทธิมนุษยชนโอกยองซุก

 

 

พรรคการเมืองที่เล่นการเมืองเก่ง และทีมนักการเมืองที่น้ำเน่าไม่เห็นเงาจันทร์พอๆ กัน

พรรคไหนๆ ก็มีนายทุนหนุนหลัง ในซีรีส์ Queenmaker บอกแบบนั้น กระทั่งผู้สมัครอิสระอย่าง แพคจีมิน ก็มีอึนซองกรุ๊ปเป็นเจ้าภาพสนับสนุนการหาเสียงออกหน้าออกตา 

 

ซีรีส์นำเสนอความเป็นไปในแวดวงการเมืองเกาหลีได้เจ็บแสบ มองเห็นระบบการทำงานแบบอุปถัมภ์พึ่งพิง ตั้งแต่ตัวนักการเมืองที่อาจจะเริ่มต้นด้วยอุดมการณ์และมือขาวสะอาด ทำไปทำมาก็หลงติดกับอำนาจ ชื่อเสียงเงินทอง จนลืมเลือนอุดมการณ์เหล่านั้นไปเสียหมด เช่นเดียวกับ มาจุงซอก อดีตสามีของฮวังโดฮี ที่บอกออกมาเองว่าการเมืองเกาหลีต้องการคนแบบโอกยองซุก และเขาก็ดีใจที่ยังมีคนแบบโอกยองซุกหลงเหลืออยู่

 

นอกจากนี้เรายังได้เห็นระบบการทำงานของพรรคที่สืบทอดมาหลายรุ่น ไหลตัวเองไปตามความสำเร็จในการได้รับเลือกตั้ง หาเงินทุนสนับสนุนจากนายทุน แลกเปลี่ยนกับข้อตกลงบางอย่าง การทำงานแบบอุปถัมภ์เช่นนี้วนไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นระบบที่ยากจะแก้ไข ทำให้คนที่ยังมีความคิดดีๆ ต่อบ้านเมือง สุดท้ายก็ต้องยอมไหลตามน้ำ กลายเป็นปลาเน่าอีกตัวในวังวนนั้น

 

โอกยองซุกจึงเกิดอาการหัวร้อนเกินทน เมื่อต้องไปรับประทานอาหารพร้อมคุยเรื่องเงินทุนสนับสนุนจากนายทุนใหญ่คนหนึ่ง และประกาศชัดเจนว่าเธอไม่เล่นด้วย!

 

“คนบ้าที่ไหนในเกาหลีใต้จะเปิดเผยชื่อจริงตอนสนับสนุนเงินการเมือง ท่านประธานนั่นแหละค่ะคือปัญหาใหญ่ที่สุดของระบบการเมืองเกาหลี ถ้าสนับสนุนฝ่ายสีแดงก็กลัวโดนฝ่ายสีฟ้าหาเรื่องจับผิด แต่ถ้าสนับสนุนฝ่ายสีฟ้าก็กลัวว่าฝ่ายสีแดงจะเล่นงานอีก ถ้าจะกลัวกันขนาดนั้นก็ไม่ต้องทำสิคะ เข้าใจไหม” 

 

 

นักข่าวคือสุนัขเฝ้าบ้าน คือกระจกส่องสังคม คือผู้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น? 

ฝ่ายหนึ่งที่มีบทบาทน่าเห็นอกเห็นใจคือฝ่ายของนักข่าวและสื่อมวลชน ที่ในซีรีส์ Queenmaker ดูเหมือนจะเป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกใช้ในการปลุกปั่นกระแสสังคม สาดโคลน รายงานข่าวปลอม ปล่อยคลิปเสียงลับเสียมากกว่า 

 

นอกจากจะไม่เห็นการทำงานลงพื้นที่ข่าวหรือวิเคราะห์เจาะลึกอย่างจริงจัง เรายังได้เห็นว่าข่าวส่วนใหญ่ที่ได้ก็ล้วนมาจากคนที่ต้องการจะปล่อยมันตามเวลาที่ต้องการ และกระทั่งนักข่าวเอง คนที่จะไต่เต้าขึ้นสู่ระดับสูงได้คือการสร้างผลงานฮือฮาที่ส่งผลต่อกระแสสังคม 

 

อึนซองกรุ๊ป มีนักข่าว สำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ที่เป็นพันธมิตรกันอยู่ด้วยการจ่ายเงินค่าโฆษณามหาศาลในแต่ละเดือน ผู้จัดการสถานีก็เป็นที่รู้จักกันดี นั่นทำให้ที่ผ่านมาอึนซองกรุ๊ปจึงรอดพ้นจากข่าวเสียหายมากมาย และไม่ได้มีแค่พันธมิตรเป็นสื่อมวลชน อึนซองกรุ๊ปยังมีทีมกลยุทธ์ของตัวเองที่คอยดูแล จัดทำข่าว ส่งข่าว เผยแพร่ข่าวในช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเองอีกต่างหาก

 

ภาพตัดต่อ การสร้างมีมเพื่อป้ายสี บิดเบือนข่าว กระทั่งแฮ็กเข้าไปปรับเปลี่ยนตัวเลขในบัญชีก็เป็นสิ่งที่ทำได้ เพื่อการสร้างข่าวหรือกลบข่าว โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งที่ทีมกลยุทธ์ของทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด อึนซองกรุ๊ปได้เชิญ คาร์ล ยุน หนึ่งในเซียนกลยุทธ์การเลือกตั้งที่ไม่เคยแพ้ มาต่อสู้กับฮวังโดฮี และทำให้เราได้เห็นการใช้ข้อมูลมาดึงกระแสสังคมตลอดระยะเวลาการหาเสียง จนกระทั่งการใช้หมัดน็อกเอาชนะในช่วงคืนหมาหอนก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่ชั่วโมง

 

“นี่แหละคือความสนุกของการเลือกตั้ง ฮีโร่ของวันนี้ที่กำเนิดจากน้ำค้างยามเช้าต้องสละตำแหน่งให้ฮีโร่ของวันพรุ่งนี้ผู้กำเนิดจากน้ำค้างยามค่ำคืน” – คาร์ล ยุน

 


ใครกันล่ะที่ยืนอยู่ข้างประชาชน?

Queenmaker อาจจะเดาตอนจบได้แต่แรกอยู่แล้ว เพราะอย่างไรธรรมะก็ย่อมชนะอธรรม แต่ถึงอย่างนั้น แมสเสจสำคัญที่ซีรีส์ Queenmaker พยายามสื่อสารก็คือ ในเกมการเมือง การเลือกตั้ง ทุกอย่างล้วนเป็นการแสดง การควบรวมเส้นสาย คานอำนาจ เงินทอง ผลประโยชน์ของฝ่ายตนเป็นที่ตั้ง สำหรับประชาชนแล้วกลายเป็นเพียงที่มาของคะแนนเสียงที่จะไร้ประโยชน์ทันทีเมื่อการเลือกตั้งสิ้นสุดลง 

 

ประชาชนในซีรีส์ Queenmaker เองก็เหมือนคนทั่วโลกที่อยากอยู่ในสังคมที่ดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาเองก็ไหลไปตามข้อมูลข่าวสารและกระแสสังคมที่เกิดขึ้น และเช่นเดียวกัน ใครหรือพรรคไหนที่มอบผลประโยชน์ที่ดีกว่าก็ย่อมได้รับความสนใจและคะแนนเสียงไปครอบครอง 

 

แม้เราจะผ่านประสบการณ์การเลือกตั้งมานับสิบๆ ครั้ง สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเรื่องของเทคโนโลยี ชื่อของพรรคและนักการเมือง แต่ความตั้งใจจะเข้ามาทำงานเพื่อเปลี่ยนให้สังคมนี้ดีขึ้นมันไม่เคยเปลี่ยน ยังคงเป็นเพียงคำหวานที่โปรยหว่านเอาไว้เพียงเท่านั้น ใช่หรือเปล่า?

 

“ความยุติธรรมที่ปราศจากอำนาจนั้นไร้ประโยชน์ และอำนาจที่ปราศจากความยุติธรรมนั้นไม่ต่างอะไรกับความรุนแรง” 

 

ตัวอย่างซีรีส์ Queenmaker ฉันจะปั้นราชินี

 

 

ภาพ: Netflix

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising