สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดในโลกและมี ‘แบรนด์’ ที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่ง เตรียมรับข้อเสนอในการซื้อกิจการสโมสรที่มีการขีดเส้นตายไว้ภายในวันศุกร์นี้ (17 กุมภาพันธ์) โดยมีผู้ที่เตรียมยื่นข้อเสนอที่น่าจับตามองอย่างกลุ่มทุนจากกาตาร์ และ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของ INEOS บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ที่มีการประเมินมูลค่าขั้นต่ำเอาไว้ 4 พันล้านปอนด์ หรือ 1.64 แสนล้านบาท
ข่าวการเตรียมขายหุ้นของทีมฟุตบอลที่ครองแชมป์ลีกสูงสุดอันดับ 1 ของอังกฤษ 20 สมัย และเป็นสโมสรที่มีหุ้นอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กำลังเป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง หลังจากที่ทางด้านตระกูลเกลเซอร์ซึ่งเข้ามาซื้อกิจการสโมสรไปตั้งแต่ปี 2005 ได้ประกาศที่จะขายสโมสรเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยมอบหมายให้ธนาคาร Raine Group รับหน้าที่ในการดำเนินการ เวลานี้กำลังจะถึงเส้นตายสำหรับการยื่นข้อเสนอเข้ามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กาตาร์ทุ่ม 4.5 พันล้านปอนด์ ซื้อแมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเกิดขึ้นจริงหรือไม่?
- จับตา ‘INEOS’ เปิดตัวเจ้าแรก ลุยเทกโอเวอร์แมนฯ ยูไนเต็ด
- แมนฯ ยูไนเต็ดแถลง ‘ตระกูลเกลเซอร์’ เปิดรับข้อเสนอขาย-ร่วมลงทุนสโมสร หลังบริหารทีมมานาน 17 ปี
ก่อนหน้านี้ Raine Group ซึ่งทำหน้าที่ในการเจรจาขายสโมสรเชลซี ที่มีการเปลี่ยนถ่ายเจ้าของจาก โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมพลังงาน มาเป็น ทอดด์ โบห์ลี เจ้าของทีมเบสบอลลอสแอนเจลิส ดอดเจอร์ส และ Clearlake Capital กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจติดต่อเพื่อขอข้อมูลทางการเงินของแมนฯ ยูไนเต็ดมาระยะหนึ่ง ซึ่งมีหลายกลุ่มทุนที่ให้ความสนใจ
อย่างไรก็ดี คาดว่าคู่แข่งที่มีโอกาสสูงในการต่อสู้เพื่อชิงสโมสรฟุตบอลเก่าแก่ที่มีฐานแฟนบอลมากที่สุดทีมหนึ่งของโลกในเวลานี้คือกลุ่มทุนจากกาตาร์ โดยตามรายงานจากต่างประเทศระบุว่า เชค ตะมีม บิน ฮาหมัด อัล ซานี หรือเจ้าผู้ครองนครกาตาร์ ต้องการที่จะได้แมนฯ ยูไนเต็ดมาครอบครองเพื่อเสริมโปรไฟล์ของประเทศกาตาร์ในด้านกีฬา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 มาแล้ว
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกรณีปัญหาที่อาจขัดต่อกฎของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ UEFA ในประเด็นเรื่องการถือครองสโมสรฟุตบอลหลายแห่ง ซึ่ง UEFA มีข้อห้ามไม่ให้สโมสรฟุตบอลที่มีเจ้าของเดียวกันลงแข่งขันในรายการระดับยุโรป เช่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ซึ่งก่อนหน้านี้กาตาร์ได้มีการลงทุนกับสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ทีมฟุตบอลดังของฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 2011 ผ่านกองทุน Qatar Sports Investments (QIS) แล้วทำให้อาจผิดกฎ แต่มีรายงานข่าวว่า UEFA ได้เปิดทางให้กาตาร์สามารถเข้าเทกโอเวอร์ได้หากพิสูจน์ได้ว่าเงินทุนไม่มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง
หากเป็นไปตามรายงานข่าวเชื่อว่าทางด้านเชค ตะมีมจะอนุมัติให้กองทุนของกาตาร์แห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจอยู่ใต้ร่มของ Qatar Investment Authority หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติกาตาร์เป็นผู้ยื่นข้อเสนอ โดยมีรายงานข่าวว่ากาตาร์ต้องการเทกโอเวอร์กิจการสโมสรทั้งหมดมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้ร่วมลงทุนเท่านั้น และยินดีที่จะยื่นข้อเสนอขั้นต่ำ 4 พันล้านปอนด์ หรือ 1.64 แสนล้านบาท หรืออาจจะยื่นข้อเสนอใกล้เคียงกับที่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของแมนฯ ยูไนเต็ดต้องการที่ 5 พันล้านปอนด์ หรือราว 2.05 แสนล้านบาท
ขณะที่คู่แข่งสำคัญคือ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของ INEOS ซึ่งประกาศตัวเป็นแฟนของแมนฯ ยูไนเต็ดมาตลอด แต่เคยพยายามที่จะยื่นข้อเสนอซื้อเชลซีด้วยเมื่อปีกลาย เพียงแต่ช้าเกินไป โดยเชื่อว่ามหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษจากความสำเร็จในธุรกิจพลังงาน และเป็นผู้สนับสนุนทีมกีฬามากมายพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่แน่นอน
อีกคนที่มีชื่อโผล่มาด้วยในกระแสข่าวคือ อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla, SpaceX และล่าสุดเพิ่งซื้อกิจการของ Twitter ยักษ์ใหญ่วงการโซเชียลมีเดียเมื่อปีกลาย แต่มีความเป็นไปได้น้อย โดยก่อนหน้านี้มัสก์เคยทวีตว่า “ผมกำลังจะซื้อแมนฯ ยูไนเต็ด” จนสร้างความฮือฮาไปทั่ว ก่อนจะรีบแก้ข่าวว่าก็แค่เล่นมุกตลกเท่านั้น
อ้างอิง: