เป็นที่คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเรื่องราวการช่วยเหลือชีวิตของทีมหมูป่าจากถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปด้วยดีนั้นจะต้องมีการหยิบเอาไปทำเป็นภาพยนตร์แน่นอน ด้วยเรื่องราวที่ทำให้คนต้องลุ้น และสร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้เราได้เห็นคนจากทุกมุมโลกเดินทางมาเพื่อช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอย่างพร้อมใจกัน ทำให้ค่ายหนังคริสเตียนนอกกระแสอย่าง Pure Flix Entertainment ที่สร้างภาพยนตร์อย่าง Samson (2018) และ The Wager (2007) ประกาศหยิบเรื่องราวทีมหมูป่ามาทำเป็นภาพยนตร์ค่ายแรก แต่ไม่ใช่ค่ายเดียวเท่านั้นที่เล็งทำภาพยนตร์จากเรื่องราวสุดประทับใจครั้งนี้ ล่าสุดผู้กำกับจาก Now You See Me 2 อย่าง Jon M. Chu ก็พร้อมร่วมมือกับ Ivanhoe Pictures เพื่อสร้างภาพยนตร์ทีมหมูป่าเช่นเดียวกัน
เหตุผลที่ Pure Flix Entertainment ประกาศทำหนังให้ทีมหมูป่าด้วยความรวดเร็วก็เพราะ หนึ่งในหุ้นส่วนใหญ่ของค่าย Michael Scott อาศัยอยู่ในประเทศไทย และได้เดินทางไปที่ถ้ำหลวงเพื่อช่วยเหลือทีมกู้ภัยด้วยตัวเองมาแล้วกว่า 4 วัน ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และตัดสินใจทำเรื่องขอลิขสิทธิ์ในการสร้างภาพยนตร์
Michael Scott ยังกล่าวในวิดีโอที่ถ่ายบริเวณถ้ำหลวงว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีความหมายมากสำหรับผมที่คอยติดตามข่าวอยู่ การที่ผมได้เห็นความกล้าหาญ และการช่วยเหลือทุกคนออกมาได้มันช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ และการที่หยิบเรื่องราวนี้มาทำเป็นภาพยนตร์จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอีกหลายล้านคนรอบโลกได้” จากคลิปวิดีโอที่ทวิตเตอร์ของ Pure Flix ได้ทวีตเอาไว้ Michael Scott ยังเล่าว่า ภรรยาของเขาเองก็รู้จักกับ จ.อ. สมาน กุนัน อดีตหน่วยซีลที่เสียชีวิตจากการดำน้ำขณะปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าอีกด้วย
Pure Flix joins the rest of the world in thanking God for answering prayers for the successful rescue of those trapped in the cave in Thailand.
Managing partner Michael Scott, from his home in Thailand, has been helping at the cave rescue in Chiang Rai the past 4 days. pic.twitter.com/htt1vN9oU1
— Pure Flix (@PureFlix) July 10, 2018
นอกจากนี้ David A.R. White หนึ่งในเจ้าของ Pure Flix Entertainment ก็ให้สัมภาษณ์กับ Wall Street Journal ว่า ค่าย Pure Flix กำลังเริ่มเจรจาหานักแสดง คนเขียนบท และผู้ลงทุนที่จะมาร่วมสร้างภาพยนตร์ทีมหมู่ป่านี้ด้วยกัน ซึ่งขณะนี้ก็มีผู้ที่สนใจและติดต่อ Pure Flix มามากมาย รวมทั้งนักลงทุนชาวไทยด้วย David A.R. White กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเราคือการหยิบสถานการณ์ดังกล่าวมาเล่าอย่างละเอียดอ่อน เพราะมันเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างส่วนตัวและเซนสิทีฟ เราไม่ต้องการที่จะทำให้เรื่องนี้ออกมาเสียๆ หายๆ ไม่ว่าในทางใดก็ตาม และเราต้องการที่จะให้เกียรติทุกบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
แต่เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้ อีกค่ายหนังยักษ์ใหญ่ Ivanhoe Pictures ก็จับมือกับผู้กำกับดัง Jon M. Chu ผู้กำกับภาพยนตร์อย่าง Now You See Me 2, Step Up 2: The Streets และ Step Up 3D เพื่อสร้างภาพยนตร์ทีมหมูป่าเช่นเดียวกัน โดยทั้งสองฝ่ายเพิ่งจะร่วมมือกันสร้างภาพยนตร์จากหนังสือโรแมนติกคอเมดี้ที่มีตัวเอกเป็นเอเชียอย่าง Crazy Rich Asians ซึ่งกำลังจะเข้าฉายปลายปีนี้ด้วย
โดยทีมผู้สร้างกำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเกี่ยวกับโปรเจกต์การกู้ภัยของทีมหมูป่า รวมทั้งเจรจากับสตูดิโอหลายรายที่สนใจร่วมทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
Photo: www.ibtimes.co.uk
แต่ที่น่าติดตามที่สุดคือ การที่ผู้กำกับชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายเอเชียอย่าง Jon M. Chu ออกมาทวีตในทวิตเตอร์ส่วนตัวที่เหมือนตอกกลับค่าย Pure Flix ว่า “ผมจะไม่ยอมให้ฮอลลีวูด #WhiteWashOut เรื่องราวการกู้ภัยของไทยแน่นอน ไม่มีทาง นี่เป็นเรื่องราวของมนุษย์ที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ดังนั้นถ้าใครคิดจะหยิบเรื่องนี้มาทำหนังก็ควรจะหาวิธีเข้าถึงอย่างถูกต้องและให้เกียรติ”
I refuse to let Hollywood #whitewashout the Thai Cave rescue story! No way. Not on our watch. That won’t happen or we’ll give them hell. There’s a beautiful story abt human beings saving other human beings. So anyone thinking abt the story better approach it right & respectfully.
— Jon M. Chu (@jonmchu) July 11, 2018
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าจะมีค่ายหนังเจ้าไหนจากทั้งต่างประเทศและประเทศไทยของเราเองที่วางแผนจะหยิบเรื่องราวการกู้ภัยทีมหมูป่ามาทำเป็นภาพยนตร์อีกหรือไม่ และกระแสบนโลกออนไลน์จะเป็นอย่างไรเมื่อเรื่องราวการช่วยชีวิตคน 13 คน จะถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตามเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วยย้ำเตือนให้เรารู้ว่า โลกใบนี้ยังคงเต็มไปด้วยความปรารถนาดี และน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ทั่วทุกมุมโลกจริงๆ
