×
SCB Omnibus Fund 2024

PTT – พรีวิว 1Q66 คาดกำไรเพิ่มขึ้นสู่ค่าเฉลี่ย 5 ปี

08.05.2023
  • LOADING...
หุ้น ปตท

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 1Q66 ของ บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 11 พฤษภาคม 2566

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT ปรับลดลง 0.80%MoM อยู่ที่ระดับ 31.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลดลง 1.76%MoM อยูที่ระดับ 1,549.31 จุด 

 

พรีวิวผลประกอบการ 1Q66:

ผลประกอบการ 1Q66 คาดว่ากำไรสุทธิของ PTT จะเติบโต 32%QoQ สู่ 2.35 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับกำไรสุทธิรายไตรมาสเฉลี่ย 5 ปีที่ 2.25 หมื่นล้านบาท แม้ว่ายังลดลง 8%YoY โดยจะได้แรงหนุนจากกำไรที่ดีขึ้นจากธุรกิจก๊าซ และธุรกิจการตลาดน้ำมันของบริษัทย่อย (OR) นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่น (P&R) ก็พลิกกลับมามีกำไรเพราะ GRM แข็งแกร่งขึ้นและขาดทุนจากสินค้าคงเหลือและสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันลดลง 

 

แม้ราคาน้ำมันลดลงใน 1Q66 แต่ผลการดำเนินงานของธุรกิจ E&P จะช่วยสนับสนุนกำไรโดยรวมอย่างต่อเนื่อง โดย PTTEP รายงานกำไรเติบโต 83%YoY และ 24%QoQ เพราะต้นทุนต่อหน่วยลดลงและไม่มีขาดทุนพิเศษจำนวนมาก ผลการดำเนินงานของธุรกิจ P&R ก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน QoQ โดยได้แรงหนุนจาก Market GRM ที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 30%QoQ) 

 

และกำไรจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน แม้ว่าจะถูกลดทอนไปบางส่วนโดยขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ บริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมียังคงได้รับแรงกดดันจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ แม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดประเทศของจีน

 

ด้านปริมาณการขายก๊าซจะเพิ่มขึ้น QoQ ใน 1Q66 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.4%QoQ สู่ 4,078mmcfd แม้ว่ายังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 4,505mmcfd ค่อนข้างมาก โดยได้แรงหนุนจากความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น (เพิ่มขึ้น 7%QoQ) เนื่องจากมีการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลง ราคาก๊าซที่ลดลงเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดีเซลก็ช่วยกระตุ้นให้โรงไฟฟ้าหันกลับมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงใน 1Q66 

 

ส่วนปริมาณการขายที่โรงแยกก๊าซ (GSP) คาดว่าจะลดลง 3%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟินส์ของ PTTGC ตามแผน ทั้งนี้ก๊าซธรรมชาติมูลค่าสูงถูกส่งผ่านจาก GSP ไปยังโรงไฟฟ้าโดยตรงเพื่อลดการนำเข้า LNG ใน 1Q66 ส่วนแบ่งขาดทุนธุรกิจ NGV ที่ลดลงก็ช่วยสนับสนุนกำไรโดยรวมของธุรกิจก๊าซ โดยเกิดจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและราคาขายที่สูงขึ้น (ปรับขึ้นในเดือนธันวาคม 2565)

 

สำหรับกำไรจากธุรกิจน้ำมันจะเพิ่มขึ้น QoQ เพราะค่าการตลาดดีขึ้น ซึ่งธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของ PTT ที่ดำเนินการผ่าน OR คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 1Q66 โดยเกิดจากค่าการตลาดที่ดีขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง เมื่อรวมกับขาดทุนจากสินค้าคงเหลือที่ลดลง จึงคาดว่ากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจาก 0.48 บาทต่อลิตร สู่ 0.9 บาทต่อลิตร 

 

ปริมาณการขายน้ำมันเบนซินและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่สูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นต่อลิตรปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเกิดจาก Lag Time ในการปรับราคาและการแทรกแซงที่ลดน้อยลงโดยรัฐบาล นอกจากนี้ยังคาดว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น 0.3%QoQ สู่ระดับที่ทำสถิติสูงสุดที่ 7 พันล้านลิตรใน 1Q66 เนื่องจากปริมาณการขายน้ำมันดีเซลที่ลดลงจะถูกชดเชยโดยปริมาณการขายน้ำมันเบนซินและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่เพิ่มขึ้น

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปี 2566 ของ PTT ลดลง 10% เพื่อสะท้อนประมาณการที่ปรับใหม่สำหรับบริษัทย่อยและบริษัทร่วมหลังจากได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันลดลง โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 34% ในปี 2566 โดยมีสาเหตุมาจากกำไรที่ลดลงจากธุรกิจ E&P แม้ว่าจะได้รับการชดเชยบางส่วนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจก๊าซและธุรกิจการตลาดน้ำมัน 

 

นอกจากนี้ยังปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี Sum-of-the-Parts ใหม่เป็น 45 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อน Valuation ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม PTT ด้วย แม้มองว่าตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงของรัฐบาล แต่ Valuation ไม่แพงและผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจ ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ Outperform สำหรับหุ้น PTT

 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์พลังงานและปิโตรเคมี ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต๊อกมากขึ้น แต่มองว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น 

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising