บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. คาดปี 2564 ราคาน้ำมันดิบยืนที่ระดับ 44-49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รับอานิสงส์เศรษฐกิจโลกฟื้น-โอเปกพลัสลดกำลังการผลิต
พรรณพร ศาสนนันทน์ ผู้จัดการฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์ ปตท. เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ว่า บริษัทคาดว่าภายในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 44-49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปีนี้ที่คาดจะอยู่ที่ระดับ 40-45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น ซึ่งมีผลต่อความต้องการใช้น้ำมันและปิโตรเคมีให้ฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับคาดว่าจะได้ปัจจัยบวกจากการขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่อาจส่งผลต่อทิศทางของราคาปรับตัวสูงขึ้นได้
ขณะที่ในส่วนของค่าการกลั่น อ้างอิงตลาดสิงคโปร์ คาดว่าปีหน้าจะปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1-2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 0.2-1.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มผ่อนคลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ปริมาณสำรองที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบันยังเป็นปัจจัยกดดันการเพิ่มขึ้นของค่าการกลั่นอยู่
นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการลงทุนของบริษัทยังมี 2 โครงการหลัก ได้แก่ 1. การลงทุน เช่น โครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 5 ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2564 และ 2. การก่อสร้างคลังเก็บ LNG ใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ PTT LNG เทอร์มินัล เฟส 2 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตและขนาดความจุอีก 7.5 ล้านตัน จากเดิมที่อยู่ระดับ 11.5 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงปี 2565
ลักษณะธุรกิจของ ปตท.
ธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีครบวงจร โดยผ่านธุรกิจที่ดำเนินงานเอง และธุรกิจที่ลงทุนผ่านบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ การสำรวจและผลิต จัดหาและจัดจำหน่าย ขนส่ง และแยกก๊าซธรรมชาติ ดำเนินกิจการค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันและปิโตรเคมี และมีการลงทุนในธุรกิจการกลั่นและปิโตรเคมีในประเทศ และดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
รายงาน: ปริวัฒน์ หินพลอย
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล