สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวานนี้ (9 กุมภาพันธ์) มีกลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำ หลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ที่บริเวณลานสกายวอล์ก หน้าศูนย์การค้า MBK แยกปทุมวันนั้น
วันนี้ (10 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นขณะนี้ได้รับรายงานข้อมูลว่า พ.ต.อ. พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ปทุมวัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกำลังพลที่ควบคุมดูแลการชุมนุมเมื่อวานนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีดังกล่าวกี่นาย หรือมีทรัพย์สินของทางราชการและเอกชนเสียหายหรือไม่ ก่อนที่จะรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด ในข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน
ซึ่งคดีนี้ ตำรวจ สน.ปทุมวันมีข้อมูลพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ทั้งภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกได้ในขณะเกิดเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุม เพื่อออกหมายเรียกหรือหมายจับผู้ก่อเหตุกับเจ้าหน้าที่ตามขั้นตอน
นอกจากนี้ ยังเตรียมดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเมื่อวานนี้ ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เรื่องห้ามการชุมนุมอันเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้เจ้าพนักงานไม่สามารถอนุญาตให้มีการชุมนุมที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ. การชุมนุมได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ระบุว่ามีการกระทำความผิดทั้งหมด 3 ส่วน ส่วนแรกคือการประกาศเชิญชวนให้มีการชุมนุมทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งผิดตามกฎหมาย ส่วนที่ 2 คือมีการมั่วสุมบริเวณสถานที่ดังกล่าว ซึ่งผิดตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อ และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และส่วนที่ 3 คือ การที่ผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญา
พล.ต.ต. ปิยะ ยืนยันว่า ทุกรายที่ถูกพิสูจน์ทราบจะต้องถูกดำเนินคดี และต้องรับผิดชอบการกระทำที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยขณะนี้ทางผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน มีการรวบรวมพยานหลักฐานและจะมีการแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้ เบื้องต้นพบผู้กระทำความผิดร่วมกันกว่า 10 รายที่พิสูจน์ทราบได้
ด้าน พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า ช่วงเวลาที่มีการชุมนุมเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนและโรงเรียนเปิด อาจมีผลกระทบด้านการจราจรในจุดที่ชุมนุมวันนี้ จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จนเสร็จสิ้นการชุมนุม
สำหรับเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ บริเวณถนนพระรามที่ 1 (แยกเฉลิมเผ่า-แยกเจริญผล), ถนนพญาไท (แยกราชเทวี-แยกจุฬาฯ 12) โดยให้ใช้เส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร บริเวณถนนเพชรบุรี, ถนนราชดำริ, ถนนบรรทัดทอง, ถนนวิทยุ, ถนนพระรามที่ 4 ซอยจุฬาลงกรณ์ 9, ถนนอังรีดูนังต์ ซอยจุฬาลงกรณ์ 12 ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เบอร์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล