×

Promising Young Woman (2020) หญิงร้ายเพราะชายสารเลว

15.03.2021
  • LOADING...
Promising Young Woman (2020) หญิงร้ายเพราะชายสารเลว

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • Promising Young Woman เป็นภาพยนตร์ที่เจริญรอยตามแนวทางที่ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงทศวรรษ 1970 ที่ใครๆ เรียกว่า Rape Revenge Fantasy หรือภาพยนตร์ที่นำเสนอเนื้อหาว่าด้วยเหยื่อที่ถูกกระทำทารุณทางเพศ ผู้ซึ่งไม่ยอมจำนนให้กับความเลวทรามต่ำช้าที่เกิดขึ้น และลุกขึ้นแก้แค้นบรรดานักข่มขืนอย่างชนิดสาสมแก่โทษานุโทษของแต่ละคน
  • เรื่องหนึ่งที่ภาพยนตร์ของเฟนเนลล์จุดประเด็นได้อย่างน่าครุ่นคิด คือการชี้ชวนให้ผู้ชมได้ตระหนักว่า การล่วงล้ำก้ำเกินทางเพศไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคนแต่อย่างใด แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตกว่านั้นที่เรียกว่า Rape Culture หรือวัฒนธรรมการข่มขืน ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนรอบข้างที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือมีส่วนรู้เห็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นแต่กลับไม่ทำอะไร กระทั่งมองเป็นเรื่องปกติธรรมดา 
  • อีกข้อหนึ่งที่ควรขีดเส้นใต้สองเส้น และเป็นสิ่งที่ภาพยนตร์ของเฟนเนลล์ถ่ายทอดเอาไว้ได้แนบเนียนก็คือ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักข่มขืนมักจะไม่ใช่คนที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์สกปรก กักขฬะ น่าสะพรึงกลัว ตรงกันข้าม พวกเขาเหล่านั้นมักจะได้แก่คนที่ดูธรรมดาสามัญและปลอดภัย และนั่นยิ่งทำให้นี่เป็นภัยคุกคามที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

 

ฉากเปิดของภาพยนตร์เรื่อง Promising Young Woman ผลงานกำกับเรื่องแรกของ เอมเมอรัลด์ เฟนเนลล์ เริ่มต้นด้วยสถานการณ์ที่ทั้งเรียกร้องความสนใจ ตลอดจนตั้งคำถามและชวนค้นหาคำตอบอย่างฉับพลัน

 

ชายหนุ่มสามคนสังสรรค์หลังเลิกงานในร้านเหล้าที่ผู้คนดื่มกินกันอย่างสรวลเสเฮฮา ระหว่างนั้นเองที่พวกเขาสังเกตเห็น ‘สาวออฟฟิศ’ นั่งโอนไปเอนมาอยู่ตามลำพังในสภาพที่เกือบจะครองสติไม่อยู่ แล้วหัวข้อสนทนาของทั้งหมดก็หันเหมาพูดถึงเรื่องของเธอคนนี้ทันที ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะ ‘แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ’ ด้วยการเข้าไปพูดคุยด้วย และเสนอตัวพาหญิงสาวคนดังกล่าวไปส่งบ้าน เพราะดูท่าทางแล้วเธอคงจะไม่ไหวจริงๆ

 

 

แต่ระหว่างที่นั่งรถแท็กซี่ไปด้วยกัน ชายหนุ่มก็ชักชวนหว่านล้อมหญิงสาวซึ่งพูดจาอ้อแอ้และเกือบจะฟังไม่รู้เรื่องไปดื่มต่อที่ห้องพักของเขา จนถึงตรงนี้ จึงไม่จำเป็นต้องสะกดออกมาเป็นคำพูดตรงๆ ผู้ชมก็คงบอกได้ว่าเจตนาอันฉ้อฉลและบิดเบี้ยวของหมอนี่คืออะไร

 

ประเด็นที่น่าอภิปรายต่อก็คือ เงื่อนไขปัจจัยอะไรที่ดลใจให้ตัวละครที่ดูเหมือนจะเป็นสุภาพบุรุษผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความปรารถนาดีในตอนต้น กระทำการอันอุกอาจแบบนี้ คำตอบก็เป็นอย่างที่ใครๆ น่าจะบอกได้ มันไม่ได้เป็นเรื่องของความเย้ายวนทางเพศของหญิงสาวหรืออะไร เพราะว่ากันตามจริง เธอดูหมดสภาพเอามากๆ ในทางกลับกัน รูปการณ์เบื้องหน้า อันได้แก่การที่หญิงสาวปล่อยปละละเลยขนาดนี้ และกระทั่งอยู่ในภาวะช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายทึกทักและตีความเอาเองว่า นี่คือใบอนุญาตหรือเครื่องหมายเชื้อเชิญให้เขาสามารถทำอะไรตามใจชอบ และหญิงสาวก็เปรียบได้กับลูกไก่ในกำมือ บีบก็ตาย คลายก็รอด หรืออีกนัยหนึ่ง การชำเราทางเพศแทบจะร้อยทั้งร้อยล้วนแล้วปะทุขึ้นเพราะฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าอีกฝ่ายหนึ่งอย่างมากมายมหาศาลนั่นเอง

 

แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่สาธยายข้างต้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนอารัมภบทของสิ่งที่เกิดขึ้น และยังไม่ได้บ่งบอกถึงเนื้อหาที่แท้จริงของภาพยนตร์ ซึ่งหากจะจำแนกหมวดหมู่อย่างกว้างๆ Promising Young Woman เป็นภาพยนตร์ที่เจริญรอยตามแนวทางที่ได้รับความนิยมมากๆ ในช่วงทศวรรษ 1970 ที่ใครๆ เรียกว่า Rape Revenge Fantasy (หัวหอกได้แก่เรื่อง I Spit on Your Grave ซึ่งออกลูกออกหลานเป็นตอนต่อและนำมาสร้างใหม่อีกหลายเรื่อง หรืออีกเรื่องที่โด่งดังมากๆ เมื่อครั้งมาฉายบ้านเราเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้วก็คือ Lipstick หรือภาพยนตร์ที่นำเสนอเนื้อหาว่าด้วยเหยื่อ หรือในกรณีของ Proming Young Woman เพื่อนของเหยื่อที่ถูกกระทำทารุณทางเพศผู้ซึ่งไม่ยอมจำนนให้กับความเลวทรามต่ำช้าที่เกิดขึ้น และลุกขึ้นแก้แค้นบรรดานักข่มขืนอย่างชนิดสาสมแก่โทษานุโทษของแต่ละคน

 

ปัญหาของภาพยนตร์จำพวกนี้อยู่ตรงที่เอาเข้าจริงๆ แล้ว แทนที่มันจะร่วมอยู่ในขบวนการต่อต้านการคุกคามทางเพศ กลับเป็นภาพยนตร์ที่ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเกี่ยวดอกผลจากการนำเสนอเรื่องเซ็กซ์และความรุนแรงอย่างน่าละอาย จนไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่มันจะถูกขนานนามว่าเป็นภาพยนตร์ฉวยโอกาสหรือ Exploitation

 

ข้อที่ทำให้ภาพยนตร์ของเอมเมอรัลด์ เฟนเนลล์ ผิดแผกแตกต่างออกไป ได้แก่การที่มันไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหาเศษหาเลยแบบนั้น หรือพูดอีกนัยหนึ่ง เนื้อหาของภาพยนตร์อาจจะเปิดช่องให้ผู้สร้างขับเน้นเรื่องเพศ ทว่าในแง่ของแท็กติกและกลวิธี และโดยเฉพาะงานกำกับภาพ กลับไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อปรนเปรอหรือตอบสนองความสุขในการมองเห็นของผู้ชมโดยเฉพาะเพศชายแต่อย่างใด

 

ผู้ชมน่าจะรู้สึกทะแม่งๆ กับหลายช็อตในช่วงเปิดเรื่องที่เป็นภาพการยักย้ายส่ายสะโพกของบรรดาหนุ่มออฟฟิศในร้านกินดื่ม ซึ่งไม่มีทั้งท่วงท่า ลีลา หรือความเย้ายวนชวนมอง หรือในฉากช่วงหลังจากนั้นที่เรียกว่าเป็นห้วงเวลาของการเข้าด้ายเข้าเข็มระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว กล้องก็ไม่ได้แสดงออกในลักษณะแทะโลมแบบเดียวกับที่เรามักจะพบเห็นในภาพยนตร์อีโรติกที่มักจะใช้ภาพ (และเสียง) สร้างบรรยากาศของการปลุกเร้าและยั่วยุแต่อย่างใด หรือสรุปอย่างรวบรัด เครดิตตากล้องของภาพยนตร์อาจจะเป็นชื่อของผู้ชาย (เบนจามิน คราคูน) ทว่า ‘สายตาที่จับจ้อง’ โน่นนี่นั่นของผู้สร้างกลับสะท้อน ‘โลกทัศน์’ ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผู้ชมมักจะถูกกำหนดให้รับรู้และคุ้นชิน

 

หรือว่ากันตามจริงแล้ว การบอกว่า Promising Young Woman เป็นภาพยนตร์แนวแก้แค้นก็อาจจะไม่ได้สะท้อนภาพที่ครอบคลุมเท่าไรนัก เพราะว่าไปแล้ว การสรุปแบบเหมารวมอย่างนั้นก็นับว่าไปลดทอนความซับซ้อนของหนึ่งในปมขัดแย้งของภาพยนตร์ที่ดูเหมือนทวีความเข้มข้นและชวนให้ติดตามมากขึ้น อันได้แก่การที่ตัวเอกของเรื่องที่ชื่อคาสแซนดร้าหรือแคสซี (แครีย์ มัลลิแกน) ดำเนินชีวิตคู่ขนาน ซึ่งเจ้าตัวปกปิดซ่อนเร้นจากคนรอบข้าง และดูเหมือนมีแต่ผู้ชมเท่านั้นที่ล่วงรู้

 

 

หมายความว่าในห้วงเวลาปกติ แคสซีในวัยสามสิบยังคงอยู่กับพ่อแม่ และทำงาน (ที่ดูสิ้นหวังและไร้อนาคต) ณ ร้านกาแฟของเพื่อนทรานส์ผิวสีของเธอ ขณะที่ยามค่ำคืนของทุกๆ สัปดาห์ (ข้อมูลนี้ปรากฏอยู่ในเทรลเลอร์ของภาพยนตร์) เธอจะออกไปแกล้งทำเป็นเมารั่วในคลับสักแห่งเพื่อว่าชายหนุ่มผู้หวังดีทั้งหลายจะถือวิสาสะหิ้วเธอกลับบ้าน และนั่นเป็นโอกาสที่เธอจะได้หยิบยื่นบทเรียนอันสาสม และถ้าหากจะประมวลจากสถิติที่เธอจดเอาไว้ในบัญชีหนังหมาส่วนตัว มันก็ช่วยยืนยันว่า ชายหนุ่ม ‘จิตใจงดงาม’ เหล่านั้นล้วนแล้วพกพาวาระซ่อนเร้นแทบทั้งสิ้น

 

หรือพูดง่ายๆ ว่า ผู้ชมไม่เหลือข้อสงสัยว่าทัศนคติของแคสซีต่อเพศชายเป็นอย่างไร หรืออีกนัยหนึ่ง ผู้ชายทุกคนสารเลวพอกัน จนกระทั่งถึงตอนที่เธอได้พบกับไรอัน (โบ เบอร์นัม) เพื่อนสมัยที่เธอเรียนที่โรงเรียนแพทย์ (ซึ่งเจ้าตัวลาออกกลางคันด้วยเหตุผลบางประการ) เขาดูสะอาดสะอ้าน ไม่มีพิษมีภัย ข้อสำคัญ นอกจากไม่โชว์ออฟความแมนแล้ว ยังยอมจำนนทีละน้อย ความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองก็ค่อยๆงอกงาม และนั่นส่งผลให้สมดุลของชีวิตนางเอกเปลี่ยนแปลงไป

 

แต่ก็นั่นแหละ ผู้ชมน่าจะบอกได้ว่าเรื่องของไรอันไม่ได้ถูกใส่เข้ามาอย่างเลื่อนลอย เพราะจนแล้วจนรอด มันมีส่วนคุ้ยเขี่ยบาดแผลและความเจ็บปวดแต่หนหลัง และยิ่งกลายเป็นปมขัดแย้งมหึมา ซึ่งพูดในที่สุดแล้ว คงต้องปล่อยให้ผู้ชมไปสำรวจและค้นหากันเอาเอง

 

ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องหนึ่งที่ภาพยนตร์ของเฟนเนลล์จุดประเด็นได้อย่างน่าครุ่นคิด ก็คือการชี้ชวนให้ผู้ชมได้ตระหนักว่า การล่วงล้ำก้ำเกินทางเพศไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคนแต่อย่างใด และมันเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตกว่านั้นที่เรียกว่า Rape Culture หรือวัฒนธรรมการข่มขืน ซึ่งว่าไปแล้ว เกี่ยวข้องกับคนรอบข้างที่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือมีส่วนรู้เห็นเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นแต่กลับไม่ทำอะไร กระทั่งมองเป็นเรื่องปกติธรรมดา หรือย่ำแย่ไปกว่านั้น รู้สึกสมน้ำหน้าและมองว่าเป็นพฤติการณ์รนหาที่ของตัวเหยื่อนั่นเอง (การแต่งเนื้อแต่งตัวไม่รัดกุมจนถึงการปล่อยให้ตัวเองเมาจนสัมปชัญญะหลุดลอย)

 

อีกข้อหนึ่งที่ควรขีดเส้นใต้สองเส้น และเป็นสิ่งที่ภาพยนตร์ของเฟนเนลล์ถ่ายทอดเอาไว้ได้แนบเนียนก็คือ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักข่มขืนมักจะไม่ใช่คนที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์สกปรก กักขฬะ น่าสะพรึงกลัว ตรงกันข้าม พวกเขาเหล่านั้นมักจะได้แก่คนที่ดูธรรมดาสามัญและปลอดภัย และนั่นยิ่งทำให้นี่เป็นภัยคุกคามที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น

 

 

ใครที่อ่านมาจนถึงตรงนี้และยังไม่มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์หรือได้เห็นเทรลเลอร์ ก็อาจจะด่วนสรุปได้ว่า มู้ดและโทนของ Promising Young Woman น่าจะหม่นมืดและสถานการณ์ตามท้องเรื่องก็น่าจะตึงเครียดและกดดัน ข้อเท็จจริงก็คือ แพ็กเกจที่ห่อหุ้มเนื้อหากลับตรงข้าม บรรยากาศของภาพยนตร์ค่อนข้างสดใส และสีสันของเสื้อผ้าหน้าผมตลอดจนการจัดแสงก็ค่อนข้างฉูดฉาดบาดตา อีกทั้งภาพของความรุนแรงก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสหรือระคายเคืองความรู้สึกแต่อย่างใด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง  Promising Young Woman ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ตั้งหน้าตั้งตาโหมกระพือความคลุ้มคลั่งหรือสาแก่ใจซะทีเดียว

 

อันที่จริงแล้ว สไตล์การนำเสนอของภาพยนตร์ที่ขัดแย้งกับเนื้อหาส่งผลให้ภาพยนตร์ดูมีความพิสดารในตัวมันเอง หรือดูเหนือจริง ซึ่งว่าไปแล้วก็นับว่าสอดคล้องกับความเป็นภาพยนตร์ ‘แฟนตาซี’ ว่าด้วยการแก้แค้นอย่างเหมาะเหม็งลงตัว หนึ่งในฉากที่ดู ‘พิลึกพิลั่น’ สุดๆ (หรือบางทีจะเรียกว่า ‘เหวอแ-ก’ ก็ได้) ได้แก่ โมเมนต์ที่คนทำภาพยนตร์ใช้เพลงอันแสนอ่อนหวาน Something Wonderful จากละครเพลงเรื่อง The King and I ประกอบเหตุการณ์ที่ตอกย้ำความโหดร้ายและเลือดเย็นของตัวละคร ช่วยไม่ได้ที่การผสมผสานแบบผิดที่ผิดทางนี้จะส่งผลให้คนดูสังหรณ์ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

 

ทำนองเดียวกัน การแคสต์แครีย์ มัลลิแกนในบทหญิงร้าย ก็นับว่าเหนือความคาดหมายทีเดียว เพราะว่าไปแล้ว เธอดูไม่มีรังสีอำมหิตอย่างที่เรามักจะรู้สึกหรือสัมผัสได้กับบทแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละ ภาพยนตร์ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาขับเน้นความร้ายกาจเท่ากับการถ่ายทอดความเจ็บปวดขื่นขมของตัวละคร และมันตอกย้ำความอ่อนไหวเปราะบางที่ซุกซ่อนอยู่ข้างใน

 

รวมๆ แล้ว Promising Young Woman เป็นภาพยนตร์ว่าด้วยการแก้แค้นสีลูกกวาดที่หลบเลี่ยงกับดักและหลุมพรางของความซ้ำซากจำเจได้ฉลาดและแยบยล กระทั่งสามารถพลิกผันให้เรื่องเคร่งขรึมจริงจัง และคอขาดบาดตายกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีบรรยากาศร่าเริงแจ่มใสแบบภาพยนตร์สุขนาฏกรรม

 

Promising Young Woman (2020)

กำกับ-เอมเมอรัลด์ เฟนเนลล์ ผู้แสดง-แครีย์ มัลลิแกน, โบ เบอร์นัม

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising