×

รัฐจ่อคลอดแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ดัน ‘คนละครึ่ง’ เฟส 3 เริ่มใช้มิถุนายนนี้ ยืนยันเปิดประเทศตามแผนเดิม

20.04.2021
  • LOADING...
คนละครึ่ง

สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อหามาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ว่ามาตรการต่างๆ จะออกมาเป็นแพ็กเกจภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเริ่มใช้ได้ในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ส่วนใหญ่ยังคงเป็นมาตรการเดิม เช่น คนละครึ่ง เฟส 3 โดยจะให้ผู้ได้รับสิทธิกดยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ

 

นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เช่น พ.ร.ก. การให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ หรือสินเชื่อฟื้นฟู และมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ หรือพักทรัพย์-พักหนี้ วงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท 

 

ขณะเดียวกันรัฐบาลยังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการใหม่เพื่อสนับสนุนให้คนมีเงินออม ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราวๆ 6-7 แสนล้านบาท ให้ออกมาใช้จ่ายกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือร่วมกับทางกระทรวงการคลัง

 

สุพัฒนพงษ์กล่าวย้ำว่า ในเรื่องของงบประมาณเพื่อนำมาดูแลเศรษฐกิจนั้นยืนยันว่ามีเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 2 แสนล้านบาท แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของโรคว่าจะยาวนานแค่ไหน ถ้างบประมาณไม่เพียงพอก็ต้องหามาเพิ่ม

 

ส่วนแผนการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น สุพัฒนพงษ์กล่าวย้ำว่า ยังเป็นไปตามกำหนดเดิม โดยเฉพาะที่จังหวัดภูเก็ตที่จะเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเองยังมีความต้องการที่จะเดินทางมาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยว

 

สุพัฒนพงษ์กล่าวด้วยว่า การระบาดของโควิด-19 รอบนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก โดยนักลงทุนและนักท่องเที่ยวยังเชื่อมั่นในประเทศไทย และเชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจะค่อยๆ ลดลงไป 

 

นอกจากนี้เขายังรายงานความคืบหน้าของแผนการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเพื่อมาลงทุนในประเทศ โดยมี ม.ล.ชโยทิต กฤดากร เป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการเชิงรุกและทาบทามบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ลงทุนสนใจหลายราย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

 

สำหรับผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (20 เมษายน) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. มีความเห็นชอบเปลี่ยนแปลงโครงการเราชนะ ขยายกลุ่มเป้าหมายและกรอบวงเงิน จากกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 31.1 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 210,200 ล้านบาท เป็นกลุ่มเป้าหมายจำนวนประมาณ 33.5 ล้านคน กรอบวงเงินไม่เกิน 213,242 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,042 ล้านบาท และขยายระยะเวลาใช้จ่ายได้ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2564

 

นอกจากนี้ ครม. ยังรับทราบแนวทางการจัดการเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลการทบทวนสิทธิที่อาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และการกำหนดกรอบระยะเวลารับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว โดยให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากประชาชนภายในวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 ด้วย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising