เมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงสรุปลำดับเหตุการณ์และแนวทางการปฏิบัติของตำรวจต่อการชุมนุมของมวลชนเสื้อเหลืองและกลุ่มราษฎรที่รัฐสภา เกียกกาย ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวว่า ตำรวจยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่วันนี้เป็นไปตามขั้นตอนและกฎหมาย ตั้งแต่การเตือนผู้ชุมนุมผ่านแกนนำและสื่อมวลชน พอเกิดการชุมนุมก็ตั้งแนวตามระยะทางการเดินของผู้ชุมนุม แต่มีการฝ่าแนวกั้น รื้อถอนทำลายรั้วหนามและแบริเออร์เข้าเขต 50 เมตรของรัฐสภา มีการใช้กำลังประทุษร้ายต่อตำรวจ มีผู้ปาพลุควันพลุไฟเข้ามา จึงต้องฉีดน้ำเตือนตามมาตรการกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่หยุดการกระทำ ตำรวจจึงใช้น้ำผสมสารเคมีฉีดเตือนผู้ชุมนุม ก่อนจะใช้แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง แล้วตำรวจก็ถอยร่นไปจนถึงหน้าประตูรัฐสภา ยืนยันว่ามาตรการต่างๆ นั้นใช้ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายใหญ่โตในบ้านเมือง อะไรที่ไม่จำเป็นจะยังไม่ใช้ โดยเลือกใช้เฉพาะวิธีที่เหมาะสมกับการชุมนุม ยืนยันไม่มีการใช้กระสุนยางและกระสุนจริงในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้แน่นอน
ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 26 คน เป็นทั้งตำรวจและผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย และมีอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังตรวจสอบว่าบาดเจ็บจากการถูกกระสุนปืนยิงที่ถนนทหารจริงหรือไม่ ซึ่งแพทย์กำลังตรวจรักษา คาดว่าจะเป็นกลุ่มวิ่งเข้าไปที่ชุมนุมวัดใหม่ทองเสน เพราะก่อนเกิดเหตุมีการเปิดเพลงยั่วยุระหว่างกลุ่มอาชีวะทั้งสองฝ่าย
ส่วนเหตุผลที่ตำรวจไม่สกัดกั้นการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย เนื่องจากตำรวจพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะเนื่องจากเป็นคนกลาง พร้อมพยายามจัดผู้ชุมนุมสองฝ่ายอยู่ที่ถนนทหาร ส่วนคณะราษฎรอยู่ที่ถนนประชาราษฎร์สาย 1 ยืนยันว่ายึดหลักนิติศาสตร์และยุทธศาสตร์ควบคู่กันไป โดยตำรวจได้นำแผงเหล็กมากั้นระหว่างมวลชนสองฝ่ายที่ถนนทหารตามที่ปรากฏตามสื่อไปแล้ว
ส่วนคนที่บาดเจ็บนั้น หากใครมีพยานหลักฐานว่าถูกใครทำร้ายให้นำมามอบกับตำรวจเพื่อไปประกอบสำนวนได้ อีกทั้งที่เกิดเหตุก็มีกล้องวงจรปิด
สำหรับความเสียหายทางทรัพย์สินราชการ เบื้องต้นมีรถตำรวจและทรัพย์สินกรุงเทพมหานคร รั้วเหล็กต่างๆ มีจำนวนมากพอสมควร ขณะเดียวกันก็กำลังตรวจสอบเหตุที่พบไอซ์และยาเสพติดในรถ สน.บุคคโล เช่นกัน
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ กล่าวว่า มีการชุมนุม 4 กลุ่ม มี 3 กลุ่มแจ้งการชุมนุม มีกลุ่มเดียวที่ไม่แจ้งการชุมนุม ซึ่งเป็นกลุ่มที่พยายามฝ่าแนวกั้นตำรวจหน้าประตูทางเข้ารัฐสภา ถนนสามเสน ตำรวจจึงประสานและเจรจาต่อรองกับแกนนำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมเกินกว่าระยะ 50 เมตรตามกฎหมาย สุดท้ายเจรจาไม่เป็นผล มวลชนฝ่าแนวกั้นเข้ามา กระทั่งเวลา 14.17 น. ตำรวจจึงเริ่มใช้รถฉีดน้ำ ทั้งน้ำเปล่า น้ำผสมแก๊สน้ำตาสลับการเจรจาหลายครั้ง เพื่อสั่งห้ามเข้าพื้นที่หรือทำลายสิ่งกีดกั้น มีการเผชิญหน้าเป็นระยะๆ ส่วนอีกเหตุที่แยกเกียกกายในเวลาใกล้เคียงกัน ตำรวจได้ประกาศผ่านรถขยายเสียงแล้วไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมฝ่าแนวกั้นตำรวจ กระทั่งเวลา 15.13 น. ตำรวจจึงใช้รถฉีดน้ำยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าพื้นที่ควบคุม ก่อนจะเจรจาต่อรอง
ต่อมาเวลา 17.10 น. เกิดเหตุปะทะระหว่างมวลชนสองกลุ่มที่แยกเกียกกาย ซึ่งตำรวจได้ถอยร่นออกมา ก่อนเกิดการเผชิญหน้ากับมวลชนที่ประตูทางเข้ารัฐสภาเป็นระยะ จนเวลา 21.00 น. มวลชนประกาศยุติการชุมนุม
อย่างไรก็ตาม มีรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้ของศูนย์เอราวัณ เวลา 23.00 น. มียอดล่าสุดที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล 37 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 คน โรงพยาบาลพระรามเก้า 2 คน โรงพยาบาลเพชรเวช 1 คน รวม 41 ราย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า