วันนี้ (15 พฤศจิกายน) พล.ต.ต. ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการชุมนุมของกลุ่มม็อบเฟสต์, กลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มผู้หญิงปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าได้แบ่งการกระทำความผิดออกเป็น 3 ส่วน คือ
- การทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกด้ามธงตีศีรษะ 1 นาย มีอาการปวดบวม และอีกรายถูกของแข็งกระแทกที่ใบหน้า ริมฝีปากแตก ใบหน้ามีรอยฟกช้ำ ซึ่งเข้าข่ายข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่, การร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามมาตรา 215 โดยตำรวจทั้ง 2 นาย แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์
- การนำผ้าไปคลุมและปีนขึ้นไปบนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งอาจเป็นการทำให้เสียหาย หรือทำให้เสื่อมค่า หรือไร้ประโยชน์ และอาจเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โบราณสถาน และ พ.ร.บ. ความสะอาด ซึ่งขณะนี้ทางผู้ดูแลคือกรุงเทพมหานครและกรมศิลปากรกำลังตรวจสอบความเสียหายอยู่ และจะเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สน. สำราญราษฎร์ ต่อไป
- กรณีผู้จัดการชุมนุมฝ่าฝืนเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานได้แจ้งไว้และความผิดอื่นๆ เช่น การกีดขวางทางจราจร, พ.ร.บ. ความสะอาด
พล.ต.ต. ปิยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด เบื้องต้นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นหน้าที่ต้องควบคุมจัดการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และปราศจากเหตุร้ายใดๆ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล