20.51 น.
ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกคุมตัวมา สน.ปทุมวัน ทั้งหมดแล้ว รุ้งประกาศเป้าหมายปีนี้ นำมวลชน 2 ล้านคนลงถนน ก่อนยุติการชุมนุม
ครูใหญ่-อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำราษฎร ประกาศว่า เยาวชน 2 คนที่ถูกควบคุมตัวที่ สน.ปทุมวัน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทำให้มวลชนที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการชุมนุมวันนี้ทั้ง 10 คน ได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดแล้ว พร้อมระบุว่า มวลชนต้องไม่ลืมเพื่อนของเราคือแกนนำอีก 4 คน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
จากนั้น รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้ปราศรัยว่า วันนี้คือการประกาศเปิดศักราชการชุมนุมอีกครั้ง และขอให้ยึดมั่นแนวทางการต่อสู้อย่างสันติวิธี พร้อมประกาศว่า เป้าหมายปีนี้คือทำให้คนลงถนน 2 ล้านคน พร้อมระบุว่า จะเคลื่อนไหวอย่างไรจะแจ้งวันต่อวัน หรือล่วงหน้าบ้างหากแจ้งก่อนได้ และจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาในวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์นี้ แต่จะที่ไหนอย่างไรให้รอการแจ้งอีกครั้ง
ต่อมารุ้ง ปนัสยา ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 21.03 น.
20.50 น.
มีกลิ่นแก๊สน้ำตาบริเวณใกล้ สน.ปทุมวัน ตำรวจถอนแนวกำลังควบคุมฝูงชน หลังผู้ชุมนุมเคลื่อนจากแยกปทุมวันมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณจุฬาซอย 16 มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนตั้งแนวอยู่ และมีเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อมีเสียงดังคล้ายระเบิดและมีกลิ่นแก๊สน้ำตากระจายทั่วบริเวณดังกล่าว
พ.ต.ท. สมยา เจริญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.3 ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนพยายามจะขอเปิดทางเคลื่อนที่ไปป้องกัน สน.ปทุมวัน เท่านั้น ยืนยันว่า ไม่มีคำสั่งให้ใช้กำลังใดๆ ส่วนแก๊สน้ำตายืนยันว่า ตำรวจตรงจุดนี้ไม่ได้ใช้ และไม่ทราบว่ามาจากจุดไหน โดยตำรวจเองบางส่วนก็ถูกแก๊สน้ำตาเช่นกัน
จากนั้นผู้ชุมนุมและตำรวจได้เจรจากัน และตำรวจยอมถอนกำลังออกจากบริเวณดังกล่าว
20.20 น.
เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดด้านหลัง สน.ปทุมวัน หลายครั้ง ตำรวจประกาศให้มวลชนไปรวมตัวหน้า สน. การ์ดตั้งแนวป้องกันไม่ให้มวลชนเข้าพื้นที่
19.50 น.
มวลชนเคลื่อนขบวนถึงหน้า สน.ปทุมวันแล้ว แกนนำระบุ มีผู้ถูกควบคุมตัวจำนวน 10 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว 8 คน ยังคงเหลือผู้ชุมนุมอีก 2 คนที่ยังถูกควบคุมตัว
โดยแกนนำประกาศว่า เวลา 20.30 น. ถ้ายังไม่มีการปล่อยตัวทั้งหมด ขอให้มวลชนบุกเข้าไปภายใน สน.ปทุมวัน
19.30 น.
มวลชนราษฎรเคลื่อนขบวนมุ่งหน้า สน.ปทุมวัน หลังมีรายงานว่ามีผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวระหว่างการชุมนุมในวันนี้
17.55 น.
ชาวเมียนมารวมตัวที่หน้าหอศิลปกรุงเทพฯ แสดงพลังต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นจากกองทัพ ระหว่างที่กลุ่มราษฎรจัดการชุมนุม #ตีหม้อไล่เผด็จการ
17.27 น.
มวลชนที่มาร่วมชุมนุม #ตีหม้อไล่เผด็จการ ที่บริเวณหน้าหอศิลปกรุงเทพฯ ได้นำอุปกรณ์คือ หม้อทำอาหาร ค้อน และหม้อหุงข้าวเก่าที่ชำรุด มาร่วมกันตีเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีเสียงดังไปทั่วทั้งบริเวณพื้นที่ชุมนุม
17.06 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ยุติการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่บริเวณสกายวอล์กในวันนี้ เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. โรคติดต่อ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมมั่วสุมใดๆ
ระหว่างประกาศ มวลชนที่มาชุมนุมได้ตะโกนและแสดงความไม่พอใจต่อการประกาศของเจ้าหน้าที่
16.40 น.
ภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรวันนี้ว่า “เป็นการร่วมกับปีกแรงงาน มาชุมนุมเนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับการเยียวยาอย่างแท้จริง และการขังเพื่อนเราด้วยมาตรา 112 ที่ไม่เป็นไปตามหลักสากล ศาลและรัฐบาลยังใช้มาตรา 112 จำกัดสิทธิผู้เห็นต่างทางการเมือง เรามาเรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา และหยุดใช้สถาบันฯ เป็นเครื่องมือจำกัดสิทธิ”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอแก้มาตรา 112 ในวันนี้ว่าได้อ่านเนื้อหาหรือยังและมีความเห็นอย่างไร ภานุพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดูเนื้อหา แต่หากแก้ได้ก็ควรแก้ แต่หากแก้ไม่ได้ก็ควรยกเลิก
เมื่อถามว่ากิจกรรมในวันนี้จะใช้เวลานานหรือไม่ ภานุพงศ์ กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ แต่วันนี้เท่าที่ดูมีตำรวจมาจำนวนมาก แต่ยืนยันการชุมนุมอย่างสันติวิธี ตลอดเวลาที่ชุมนุมมาไม่มีใครติดโควิด-19 การติดมาจากความผิดพลาดของรัฐบาลทั้งนั้น กิจกรรมจะดำเนินไปเรื่อยๆ โดยมีผู้ปราศรัยสับเปลี่ยนกันไป และฝากถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เวลามาเล่น tik tok แต่เป็นเวลาที่ควรรับฟังประชาชนมากที่สุด