วันนี้ (1 ธันวาคม) สืบเนื่องจากกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ดำเนินคดีกับขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (หมู) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบ เป็นคดีพิเศษที่ 59/2566 หลังจากได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (เนื้อสุกรแช่แข็ง) ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน
กระทั่งขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าสินค้าหรือชิปปิ้งเอกชน จำนวน 10 ราย (จับกุมครบแล้ว) ในความผิดฐานนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
และได้จับกุม 2 ผู้ต้องหา วิรัชและธนกฤต ในฐานะกลุ่มนายทุน ล่าสุดออกหมายเรียกนายทุนเพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นหนึ่งในกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการสรุปสำนวนผู้ต้องหากลุ่มแรกกว่า 20 ราย โดยเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบริษัทเอกชนที่นำเข้าสินค้าประเภทซากสุกร
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอศาลออกหมายจับอีก 2 บริษัท (1 กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม) ได้แก่ บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เนื่องจากพบว่าทั้งสองแห่งนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าตู้หมูเถื่อนรวม 41 ตู้ มีเงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท
วันนี้ เวลา 10.00 น. บริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พร้อมด้วยทีมฝ่ายกฎหมาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ปากคำชี้แจงถึงการนำเข้าหมู
ภายหลังให้ปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาในความผิดฐานนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558