สรุปทีมในพรีเมียร์ลีกที่แฟนบอลเข้าสนามได้-เข้าไม่ได้ เกมไหนจะเป็นนัดแรก และเกณฑ์ในการพิจารณา

เพราะฟุตบอลที่ไร้แฟนบอลก็เหมือนร่างกายที่ไร้หัวใจ ข่าวการอนุญาตให้แฟนบอลกลับเข้าสู่สนามได้อีกครั้งจากรัฐบาลอังกฤษจึงถือเป็นข่าวดีที่ทุกฝ่ายรอคอยอย่างแท้จริง

สโมสรเองก็ต้องการแฟนบอลมาสูบฉีดเลือดหล่อเลี้ยงบ้าง แม้จะยังไม่มากก็ยังดี แฟนบอลเองก็อยากจะคืนสนามเพราะห่างหายกันไปนานร่วม 8 เดือนแล้ว ขณะที่นักฟุตบอลก็อยากจะลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลเหมือนกัน

แต่เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างเรียบร้อยเท่าเทียมกัน นั่นทำให้ทางรัฐบาลอังกฤษต้องมีเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตให้แฟนบอลกลับเข้าสนาม

โดยเกณฑ์ที่จะยึดถือคือ การพิจารณาตามการระบาดในพื้นที่ ซึ่งเดิมมีการจัดระดับเอาไว้อยู่แล้ว 3 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่ Tier 1-3

สโมสรใดที่อยู่ในพื้นที่ Tier 1 จะได้รับอนุญาตให้แฟนบอลเข้าสนามได้จำนวน 4,000 คน ส่วน Tier 2 จะเข้าสนามได้ 2,000 คน และ Tier 3 ต้องแสดงความเสียใจด้วยที่จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าสู่สนามได้

แล้วสโมสรใดอยู่ในระดับไหนบ้าง และเกมใดที่จะเป็นเกมนัดแรกที่เราจะได้เห็นแฟนบอลคืนสู่สนาม?

ตามการเปิดเผยล่าสุดของพรีเมียร์ลีกร่วมกับรัฐบาลอังกฤษ มีดังนี้

Tier 1

ไม่มี

Tier 2

อาร์เซนอล
ไบรท์ตัน
เชลซี
คริสตัล พาเลซ
เอฟเวอร์ตัน
ฟูแลม
ลิเวอร์พูล
เซาแธมป์ตัน
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

Tier 3

แอสตัน วิลลา
เบิร์นลีย์
เลสเตอร์ ซิตี้
ลีดส์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

โดยแฟนบอลจะเริ่มกลับเข้าสนามได้อีกครั้งหลังวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งเกมนัดแรกที่คาดว่าแฟนบอลจะกลับคืนสนามได้นับตั้งแต่ห้ามเข้าสนามเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 เริ่มหนักคือ เกมยูฟ่ายูโรปาลีกระหว่างอาร์เซนอล พบ ราปิด เวียนนา

ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกที่คาดว่าแฟนบอลจะได้คืนสนามจะเป็นเกมในสุดสัปดาห์ของวันที่ 5 และ 6 ธันวาคม ซึ่งคาดว่าจะมี 4 เกมด้วยกันที่แฟนบอลจะได้คืนสนาม (เพราะนอกนั้นแข่งในพื้นที่ Tier 3 หมด) ได้แก่

ไบรท์ตัน พบ เซาแธมป์ตัน (ดาร์บีแดนใต้)
เชลซี พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟส์
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แฟนบอลแมนฯ ซิตี้ ยังต้องดูเกมจากที่บ้านต่อไปก่อน

การที่มีแฟนบอลเข้าสนามได้เป็นบางคู่ทำให้เกิดคำถามอยู่บ้างในเรื่องของความเท่าเทียม ความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการแข่งขัน ซึ่งทางด้าน สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

“ผมคิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรม” บรูซกล่าว เช่นเดียวกับ มาร์เซโล บิเอลซา ผู้จัดการทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ไม่เห็นด้วยนัก

“บางทีน่าจะมีกฎที่ระบุว่า ถ้าแฟนบอลไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสนามเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่ควรจะได้รับอนุญาตจนกว่าทุกทีมจะได้รับอนุญาตให้ต้อนรับแฟนบอลกลับเข้าสนามได้

“เราควรที่จะรักษาความเท่าเทียมของการแข่งขันเอาไว้ให้ได้มากที่สุดในสิ่งที่ควบคุมได้ ผมแค่มองหาความปกติในเรื่องนี้ ซึ่งดูเหมือนตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้น เพราะการมีแฟนบอลนั้นส่งผลต่อผลการแข่งขันได้”

แล้วแฟนบอลที่จะเข้าสนามจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

ก่อนอื่นแฟนบอลจะต้องลุ้นว่าจะได้สิทธิในการเข้าชมไหม ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละสโมสรว่าจะมีเกณฑ์ในการคัดสรรอย่างไร
แฟนบอลจะต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างที่ถูกต้องให้แก่สโมสร เพื่อให้สามารถมีการ Test-and-Trace ตรวจหาเชื้อและติดตามตัวได้
ถ้าพบว่ามีอาการของโควิด-19 จะต้องกักตัวและห้ามเข้าสนาม
ต้องสวมหน้ากากอนามัยที่ทางเข้าและทางออก รวมถึงเมื่อเข้าสนามจะต้องปฏิบัติตามกฎการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดตลอดเวลา
ห้ามกอดหรือสัมผัสมือกับแฟนบอลคนอื่น
ไม่มีการห้ามร้องเพลงหรือตะโกนเชียร์ แต่จะมีการควบคุมเรื่องอาหารและเครื่องดื่มในสนาม

อาจจะดูยุ่งยาก วุ่นวาย และมีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด แต่อย่างน้อยที่สุดก็ถือเป็น ‘ก้าวแรก’ ที่สำคัญสำหรับวงการฟุตบอลอังกฤษและวงการฟุตบอลทั่วโลก

ว่าทุกอย่างกำลังกลับมาอย่างช้าๆ

และอีกไม่นานเราจะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติเสียที

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: