×

ใครดูดใครกันแน่! เมื่อ พลเอก ประยุทธ์ เยือนถิ่นเนวิน กลเกมการเมืองที่เห็นกับตา

09.05.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 MINS READ
  • ผ่านมาแค่ 5 เดือนของปี 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เดินสายพบปะประชาชนไปแล้ว 10 จังหวัด
  • คำถามถึงการเดินสายไปบุรีรัมย์ถูกโยนขึ้นกลางอากาศว่า นี่คือปฏิบัติการดูดกลุ่มก้อนทางการเมืองหรือไม่ แม้พลเอก ประยุทธ์ จะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่การหาเสียงทางการเมืองก็ตาม แต่ภาพที่ปรากฏระหว่างเนวิน-ประยุทธ์ก็ชวนคิดต่อว่า หากมีการดูดจริง ใครดูดใครกันแน่…ที่บุรีรัมย์

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘เนวิน ชิดชอบ’ คือนักการเมืองคนหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับแวดวงการเมืองไทยไม่น้อยด้วยผลงานและชื่อชั้น โดยเฉพาะการเดินเกมชนิดไร้ร่องรอยที่บรรดาอดีตนายกฯ หลายต่อหลายคนของประเทศนี้เคยได้เห็นเขาช่วยทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและคีย์แมนคนสำคัญของกลุ่มก้อนการเมือง ก่อนที่จะแยกย้ายม้วนเสื่อกันมานักต่อนัก

 

ในงานวันเกิดของเนวินเมื่อปี 2555 ที่บ้านบุรีรัมย์ เขาเคยประกาศชัดเจนว่า ‘ขอวางมือทางการเมือง’ และขอตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข โดยจะให้เวลากับฟุตบอล 70% และมอเตอร์ไซค์ 30% และเนวินก็เดินหน้าพัฒนาทีมฟุตบอลและจังหวัดบุรีรัมย์แบบก้าวกระโดด สำเร็จเสร็จสมทั้งแชมป์และเมืองใหญ่ที่มีอะไรให้ผู้คนต้องมาเยือน

 

หลังรัฐบาล คสช. ที่นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าควบคุมอำนาจรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวทักษิณ อดีตนายกฯ ผู้พี่ที่เนวินเคยเคียงบ่าเคียงไหล่จนทักษิณเคยปรารภว่าเป็นคนที่เขารักมากคนหนึ่ง เนวินได้เคยให้สัมภาษณ์กับ ประชาชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2558 ว่า “ไม่ว่ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งหรือยึดอำนาจ ไม่ต่างกัน สำหรับชาวบ้าน ความสำคัญที่สุดคือปากท้อง”

 

 

เนวิน…หลับสบายกว่าใครในรอบหลายปี

หลังรัฐประหารอดีตนายกฯ ทักษิณโดย คมช. เมื่อปี 2549 เนวินเคยบอกกับสื่อว่าถูกคุมตัวเข้าค่ายและจับแก้ผ้า ด้วยมีภาพเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทักษิณในเวลานั้น แต่ถัดมาไม่ถึง 10 ปี ประเทศไทยก็มีรัฐประหารอีกครั้งในปี 2557 โดย คสช. แต่ทว่าคราวนี้เนวินไม่ต้องตกที่นั่งลำบากแบบนั้นแล้ว หลายคนบอกว่าเขานอนหลับสนิทกว่าใคร และรอวันเฉิดฉายเมื่อเวลามาถึง

 

เพียงเกือบครบ 4 ปีที่รัฐบาลซึ่งนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้สวมหมวกนายกฯ และหัวหน้า คสช. เข้ามาบริหารประเทศ มีการประกาศปฏิรูปขนานใหญ่ในหลายแวดวง ไม่เว้นแม้แต่ความพยายามที่จะสร้างกฎเกณฑ์กติกาให้มีการคัดกรองเอานักการเมืองเลวออกไป และให้ ‘คนดี’ ‘นักการเมืองน้ำดี’ มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ภาพของรัฐบาล คสช. เป็นภาพที่ชิงชังนักการเมืองขั้วเก่าเป็นอย่างมาก

 

 

แต่แล้วอีกไม่กี่วันที่กำลังจะครบรอบ 4 ปี ซึ่งมีวาระเท่ากับครบเทอมของรัฐบาลเลือกตั้ง เพียงผ่านพ้นต้นปี 2561 เข้าสู่เดือน 5 พลเอก ประยุทธ์ ก็เดินสายสัญจรประชุมในต่างจังหวัดและพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องแล้ว 10 จังหวัด เรียกว่าครบทุกภูมิภาคตั้งแต่ แม่ฮ่องสอน, ตราด, จันทบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, เพชรบุรี, หนองบัวลำภู, ปัตตานี, สุรินทร์ และบุรีรัมย์

 

ภาพที่ดูจะเหมือน ‘ทัวร์นกขมิ้น’ ของทักษิณในยุคหนึ่งจึงถูกนำมาวางเปรียบเทียบ เมื่อนั่นคือกลยุทธ์และยุทธวิธีแวะถึงเรือน มาเยือนถึงถิ่น ของทักษิณที่ลงไปคลุกคลีกับชาวบ้าน สร้างฐานเสียงคะแนนนิยมเพื่อหวังโกยแต้มในการเลือกตั้ง แต่พลเอก ประยุทธ์ ปฏิเสธเสียงแข็งมาโดยตลอดว่า “นี่ไม่ใช่การมาหาเสียงในทางการเมือง” กลเกมการเมืองแบบนี้แม้จะเสียงแข็งว่าไม่ใช่ แต่นายกฯ เคยประกาศแล้วว่าตนเองคือ ‘นักการเมือง’ จึงหนีเงาตัวเองไปไม่ได้อย่างแน่นอน

 

 

เหตุเกิดที่บุรีรัมย์ จัดหนัก จัดเต็ม

เหตุเกิดที่เมืองบุรีรัมย์ถิ่นเนวิน ผู้มีฉายาอันโด่งดังทางการเมืองว่า ‘ยี้ห้อย ร้อยยี่สิบ’ แถมมีอัตลักษณ์อันเป็นที่มาของอีกหนึ่งฉายาว่า ‘ชื่อพม่า หน้าลาว เว้าเขมร’ จึงมิใช่ความบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่ได้นัดหมายกันมาล่วงหน้าแล้ว

 

แม้จะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะให้ลงล็อกในห้วงเดียวกับ ‘กระแสพลังดูด’ ที่มาแรงในการเมืองยามนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่พลเอก ประยุทธ์ เดินสายมาเยือนบุรีรัมย์จะไม่มีเรื่องนี้ในกอไผ่ เพราะก่อนหน้านี้หากใช้คันฉ่องส่องย้อนกลับไป ช่างประหนึ่งบุพเพสันนิวาสที่ได้หมายมั่นกันไว้ก่อนหน้าแล้ว เพราะกลุ่มก้อนทางการเมืองถูกแกนนำหลายคนในรัฐบาล คสช. บุกหาถึงถิ่น ที่ชัดเจนที่สุดคือตระกูลคุณปลื้มที่เปิดหน้าเข้าร่วมงานอย่างเต็มตัวพร้อมๆ กับ ‘สกลธี ภัททิยกุล’ ที่ทิ้งประชาธิปัตย์ไปเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการแต่งตั้งโดยมาตรา 44

 

ภาพการจัดสถานที่ต้อนรับ พลเอก ประยุทธ์ ของสองเกลอ ‘อนุทิน-เนวิน’ จึงอลังการงานสร้างในฐานะเจ้าบ้าน ในฐานะทางการเมืองที่เป็นคนเล่นใหญ่ ในฐานะที่เมื่อมีแขกแวะถึงเรือน มาเยือนถึงถิ่น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ลำพังศักยภาพวงศ์วานว่านเครือของชิดชอบในบุรีรัมย์ก็จัดงานได้อย่างสบายๆ ถ้าพี่ใหญ่เนวินออกปากเหมือนที่หลายคนได้เห็นภาพมวลชนในสนามช้างอารีนาของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เขาเป็นประธาน มากันทุกอำเภอ แถมเนวินลงทุนซาวด์เช็กเสียง ‘ลุงตู่สู้ๆ’ ด้วยตัวเอง

 

 

ย้อนประวัติศาสตร์ได้ชิดยิ่งชอบ ทักษิณ-อภิสิทธิ์ ก็เคยถูกเนวินจัดเต็ม

ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ 10 ปีทางการเมืองไทย เนวินคือผู้พยุงหลังนายกรัฐมนตรีประเทศนี้มาแล้ว 2 คน คนหนึ่งคือนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร อีกคนมีภาพกอดกันกลมพร้อมกับวลีปรามาสว่าต้องตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร นั่นคือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งครั้งหลังนี้เนวินถือไพ่เหนือ แม้เป็นพรรคร่วม แต่กวาดกระทรวงใหญ่มาให้ภูมิใจไทยบัญชาการ

 

และใช่ว่าสองนายกฯ ที่เขาเคยพยุงหลังให้นั้นจะไม่เคยมาเยือนถิ่นบุรีรัมย์ เพราะเมื่อปี 2548 เคยนำ ครม. ทักษิณไปนั่งประชุมที่ปราสาทพนมรุ้งมาแล้ว และย้อนไปเมื่อ มีนาคม 2549 ภาพประวัติศาสตร์ทางการเมืองก็เกิดขึ้น เมื่อเนวินจัดให้นายใหญ่ทักษิณทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาขี่ ‘พลายบัว’ ช้างวัย 35 ปี ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส. สุรินทร์ พรรคไทยรักไทย ตามความเชื่อคนท้องถิ่นที่ว่า ผู้ได้ขึ้นบนหลังช้างจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ โดยมีเขาเดินนำขนาบข้างขบวนในฐานะ ‘คนเลี้ยงช้าง’ และยิ่งกว่านั้นคือในฐานะ ‘ผู้อารักขาทักษิณ’

 

ขณะที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เคยไปเยือนถิ่นอีสานได้สำเร็จ ซึ่งว่ากันว่าเป็นภูมิภาคที่เขาถูกประชาชน ‘ยี้’ มากที่สุด ด้วยเป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยอันมีทักษิณกุมบังเหียนอยู่เบื้องหลัง โดยเลือกไปประชุม ครม. สัญจรที่อีสานใต้ ปักธงบุรีรัมย์ได้สำเร็จ แม้ไม่เห็นเนวินออกหน้า แต่ใครก็รู้ว่าเขานี่แหละคือผู้จัดให้

 

ปี 2561 ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เมื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ได้ชื่อว่าเป็นอภิมหาพลังดูดไปเยือน

 

ใครดูดใครกันแน่…ที่บุรีรัมย์

แต่อนิจจลักษณะหนึ่งที่เที่ยงแท้ถาวรในทางการเมืองมาโดยตลอดและมักมีคนพูดอยู่เสมอก็คือ ‘การเมืองนั้นไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร’ หากมองผ่านตัวตนคนชื่อเนวินแล้วย่อมมองเห็นภาพประจักษ์ชัดได้อยู่บ้าง

 

คำพูดของพลเอก ประยุทธ์ ที่บอกว่า “ผมจะไปพบใครที่ไหน หรือพูดจากับประชาชนในสถานที่ไหน ทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่เป็นผู้เตรียมการทั้งหมด ผมไม่ได้สั่งการว่าจะเป็นที่นี่ที่นั่น” แม้เป็นการปฏิเสธในทางการ แต่มีหรือที่นายกฯ จะไม่รู้ว่าไปไหน ไปทำไม ไปแล้วได้อะไร

 

“ขอให้อดทนต่อแสงแดดและความร้อนเพื่อตอนนี้นายกฯ ลุงตู่ที่เดินทางมาบุรีรัมย์ และจะให้ส่งเสียงดังๆ เพื่อให้นายกฯ ลุงตู่อนุมัติงบประมาณลงพื้นที่บุรีรัมย์หมื่นล้าน ขอให้ร่วมกันให้กำลังใจ” คือสิ่งที่เนวินพูดกับมวลชนที่เขาเชื้อเชิญมารอรับนายกฯ และนี่คือแบบฉบับของนักการเมืองผู้สร้างสีสันซ่อนเร้นกลเกมได้อย่างแนบเนียน แต่อาจไม่เนียนพอ

 

 

การเดินทางไปบุรีรัมย์ของพลเอก ประยุทธ์ ดูจะผิดแปลกไปจากจังหวัดอื่นๆ ที่ฝ่ายข้าราชการดูจะเป็นโต้โผใหญ่จัดการต้อนรับเต็มที่ นักการเมืองก็ได้แค่เปิดวงถกพูดคุยตามที่เชิญมาหารือกันแบบที่เราเห็นภาพในข่าว แต่ที่บุรีรัมย์นี้ ‘เนวิน’ คือภาพชัดของคนจัดการ

 

“วันนี้ไม่มีวาระเรื่องการเมือง มีแต่วาระประชาชน ไม่มีการเมือง ไม่ต้องถามอะไร” เมื่อสื่อยืนไมค์ถามเนวินจึงได้คำตอบชัดเจนฉะฉาน แต่บางคนบอกว่าขัดกับภาพที่ปรากฏ

 

 

หลายคนบ่นเสียดายว่าอดเห็น ‘กอดการเมือง’ ตามแบบฉบับเนวิน แต่หลายคนบอกว่านี่คือเนวินปี 2018 ที่แอ็กทีฟและพับลิค เปิดหน้าการเมืองอย่างเต็มที่สุดๆ แล้ว

 

คำถามที่โยนขึ้นกลางอากาศ กลางสนามช้างอารีนาของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นคำถามดังๆ ทั่วสารทิศว่าสรุปแล้วเป็น ‘หมอผีเขมร’ อีกหนึ่งฉายาของเนวิน หรือบิ๊กตู่-พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันแน่ที่นำมาซึ่งพลังดูด กลเกมการเมืองครั้งนี้ ใคร่ครวญให้ดีจะเห็นชั้นเชิงว่า ‘ใครดูดใคร’ ในทางการเมืองกันแน่!

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising