วันนี้ (16 มีนาคม) ที่ลานอเนกประสงค์หน้าเทศบาลเมืองระนอง จังหวัดระนอง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมือง จังหวัดระนอง พร้อมกล่าวพบปะประชาชนตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นโอกาสดีอีกครั้งได้เดินทางมาจังหวัดระนอง ขอบคุณในการต้อนรับและการมาพบปะกันในวันนี้ ทุกครั้งที่มามีความสุข โดยเฉพาะดินแดนภาคใต้เป็นดินแดนแห่งความสงบสุข ดินแดนแห่งธรรมชาติและความสวยงาม เป็นเพชรเม็ดงามของประเทศไทย ดินแดนของเราภาคใต้ ผู้คนก็น่ารัก ความรัก ความสามัคคี เราอยู่กันด้วยสังคมพหุวัฒนธรรม มีความรัก ความใส่ใจซึ่งกันและกัน
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญปัญหาที่ทุกคนเดือดร้อน ในฐานะตนเป็นนายกฯ มีการติดตามรับเรื่องกำกับดูแล ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรในช่วงรัฐบาลก่อน และมีกฎหมายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ออกมา ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เพื่อมาดูแลพวกเราให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาหมด เพราะเป็นพื้นที่ป่า วันนี้ได้แก้ไปหลายพื้นที่เพื่อทำให้ประชาชนมีที่อยู่ที่อาศัย ที่ทำกิน และเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติไปให้ได้ควบคู่กัน อย่างไรก็ตาม ตรงไหนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน เป็นสิ่งที่รัฐบาลดูแลและเป็นสิ่งที่ตั้งใจมาตลอดตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ แม้วันนี้จะเป็นช่วงสุดท้ายก็ตาม ก็คงทราบดีอยู่แล้วเป็นเรื่องของกติกาว่ากันไป
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่ออีกว่า ขอให้ทุกอย่างยึดกติกา จะได้ไม่ต้องมาระแวดระวัง ต้องทำให้ถูกตามกฎหมาย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด บรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด หลายเรื่องตนจะรับไปพิจารณาให้ว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่รัฐบาลจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแล ปัญหาเยอะ โครงการเยอะมาก แต่ก็รับไปว่าจะดูแลให้ ขอย้ำว่าวันนี้ประเทศไทยเราเดินมามากแล้ว ใช้เวลามาหลายปีที่เราพัฒนาวางยุทธศาสตร์ของเราว่าจะทำอะไร เหมือนที่เราจะเดินทางไปไหนต้องวางแผนการเดินทางเหมือนกัน เราจะนำพาประเทศไปทางไหนต้องวางแผนหรือวางยุทธศาสตร์ วันนี้สิ่งที่เราทำได้ค่อนข้างจะดีพอสมควรคือเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเรื่องถนนต่างๆ ดีขึ้นเยอะ เปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง แต่ก็ยังคงต้องทำต่อ
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้อยากให้เรียนรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากพอสมควร ทั้งที่หลายประเทศยังไม่ผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ เช่น เรื่องโควิด ที่เราอยู่ในประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่แก้ปัญหาได้เร็วกว่าคนอื่น เปิดประเทศได้เร็วกว่าคนอื่น และมันต้องดีขึ้นหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ส่งเสริมเรื่องรายได้ชุมชนท้องถิ่น ทั้งหมดทุกรัฐบาลต้องทำแบบนี้
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอีกว่า มาวันนี้มีความสุขและดีใจที่เห็นรอยยิ้มพวกเราทุกคนทุกที่ที่มาตั้งแต่เช้า เห็นทุกคนยิ้ม เอาแค่รอยยิ้มนายกฯ ก็พอใจแล้ว ไม่ต้องการอย่างอื่นไปมากกว่านี้อีกแล้ว นี่คือสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ดังนั้นสิ่งอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดีๆ ทั้งหลาย หวังว่ามีคนทำต่อเรื่องพวกนี้แล้วกัน
“บางทีก็พูดไม่ค่อยออก มันเต็มตื้นเพราะพวกเรา เห็นรอยยิ้ม เห็นความรักที่มีให้กันผมก็ปลื้ม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องมารักผมทั้งหมด ท่านต้องรักครอบครัวของท่าน รักพ่อ แม่ ลูก เมียของท่าน และรักชาติศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน นั่นคือประเทศไทยของเราไม่ว่าภาคไหนดินแดนไหนก็ตาม เราอยู่ในแผ่นดินเดียวกัน แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินธรรม แผ่นดินทองผืนนี้ เกิดที่นี่ ตายที่นี่ เว้นแต่พวกไปอยู่ต่างประเทศ ถ้าจะไปก็ไปอยู่ต่างประเทศโน้น ผมหมายความว่าไปเรียนหนังสือหรือไปประกอบอาชีพอยู่ต่างประเทศ อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวหาว่าผมไปพูดอะไรอีก ไม่ใช่ เดี๋ยวมีเรื่องอีก ขี้เกียจพูด มันหาเรื่องจริงๆ ไอ้ปากเนี่ย” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
จากนั้น พล.อ. ประยุทธ์ ถามประชาชนว่ามีอะไรจะถามนายกฯ หรือไม่ พร้อมกล่าวว่า “ถ้ามีอะไรก็ไปถามนายกฯ ในโทรทัศน์ตอนกลางคืน นายกฯ ออกทุกวัน บางทีนายกฯ ยังไม่ได้พูดอะไร ก็ออกอยู่นั่นว่านายกฯ พูดอย่างนั้นพูดอย่างนี้ บางทีมันก็อยู่ในหัวสมองนายกฯ เหมือนกัน ถ้าเรารักกันซะอย่างก็ฟังบ้างไม่ต้องไปฟังบ้าง เป็นเรื่องที่ใจเราถึงกันก็จบแล้ว ขอให้เชื่อมั่นหัวใจของผู้ชายคนนี้ และดูแลคนดีๆ เขา ใครที่จะมาดูแลช่วยกันบ้านเมืองก็ดูแล ผมไม่รังเกียจใครสักคนเลยถ้าช่วยกันทำให้บ้านเมืองนี้ ทำให้แผ่นดินนี้ดีขึ้น ผมชื่นชมทุกคน”
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งมีประชาชนได้คนตะโกนแสดงความรู้สึก “รักลุงตู่” พล.อ. ประยุทธ์กล่าวตอบว่า “เอาละเอย วันนี้เดินน้ำตาลไหลทั้งตัวแล้ว เชื่อมตลอดทางมีแต่คนรักลุงตู่ รักให้จริงก็แล้วกัน ถ้ารักกันซะอย่างไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ความรักเหนือสิ่งอื่นใด รักชาติ ศาส์น กษัตริย์ และบ้านเมืองของประชาชน นั่นคือหลักชัยของประเทศเรา ทุกอย่างต้องรักจังฮู้ รักแรง นี่คือนายกฯ ของท่าน เป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่ใช่พระเอก ไม่ใช่ใครจากไหน ไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ นี่คือมนุษย์คนหนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งรักทุกคน”
