×

ประยุทธ์ย้ำ ตราบใดที่ประเทศชาติไม่เรียบร้อยคงไม่มีความสุข แต่ต้องอยู่ในกรอบรับผิดชอบตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นก็ตีกัน

โดย THE STANDARD TEAM
27.11.2020
  • LOADING...
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (27 พฤศจิกายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่าเป็นการลงนามร่วมกันระหว่างไทยกับประเทศผู้ผลิตและค้นคว้าวิจัยโควิด-19 กับทางมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ซึ่งเป็นสัญญาการจองซื้อ ซึ่งบริษัทแอสตราเซเนกาและบริษัทคู่สัญญาถือว่ามีความก้าวหน้าในระดับที่สูง และมีแนวโน้มว่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้ภายในต้นปีหน้า

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเตรียมความพร้อมภายในประเทศ ทั้งการนำเข้าสู่บรรจุภัณฑ์ การขนย้ายวัคซีน การเก็บรักษา ในส่วนของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ของไทย ซึ่งเป็นบริษัทในพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกิดขึ้นจากพระราโชบายว่า จะต้องมีบริษัทที่ผลิตยาและวัคซีนให้กับคนไทย เพื่อให้เกิดความทั่วถึงภายในประเทศ ถือเป็นสายพระเนตรอันยาวไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงสืบสานรักษาและต่อยอด พร้อมกับพระราชทานพระราชานุญาตให้บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เป็นบริษัทที่ทำการผลิตและถ่ายทอดเทคโนโลยี 

 

นายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า ในวันข้างหน้าตนไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ถือได้ว่าการลงนามในวันนี้เป็นความพร้อมของประเทศไทย ตนขอให้คนไทยทุกคนได้ช่วยกัน ทำให้ทุกอย่างนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี 

 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีระบุว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนได้ไปเยี่ยมประชาชนบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งทุกคนก็มีความสุขตามอัตภาพพอสมควร คนที่เดือดร้อน รัฐบาลก็จะดูแลตามขั้นตอนไป พร้อมกับยังกล่าวอีกว่าขอให้ทำสิ่งดีๆ วันไหนได้ทำอะไรในสิ่งที่ไม่มีปัญหา ตนก็มีความสุข ตราบใดที่ประเทศชาติยังไม่เรียบร้อย คนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีคงไม่มีความสุข อยากเห็นคนไทยมีความสุข แต่ความสุขต้องอยู่ในกรอบที่ควรจะเป็น หน้าที่ สิทธิเสรีภาพ ความรับผิดชอบตามกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทุกอย่างมีหมด ไม่อย่างนั้นประเทศก็ตีกันตาย

 

ส่วนแนวโน้มการขยายโครงการคนละครึ่งเข้าไปในระดับนักเรียนชั้นมัธยมนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้กำลังหารือกันอยู่ว่าควรจะให้อะไรใครอย่างไร ความจริงก็อยากจะให้ทุกคน แจกให้ 70 ล้านกว่าคนคงไม่ไหว แต่เดี๋ยวต้องไปดูก่อน โครงการนี้เป็นโครงการให้สำหรับคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งอย่างน้อยก็ยังได้มีอาหารการกินที่ราคาถูกลง หรือซื้อของได้ถูกลงเป็น 2 เท่า และรัฐบาลจะดำเนินต่อไปในเดือนมกราคมนี้ และจะขยายมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือน ทุกอย่างจะต้องเดินหน้า การใช้จ่ายงบประมาณครั้งละ 3 เดือน และใช้งบประมาณให้เพียงพอ

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising