เมื่อวานนี้ (17 ธันวาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองว่ารัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเต็มที่
โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหา วัสดุที่เหลือจากการเกษตร เช่น อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ ก็ให้นำมาทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเกิดประโยชน์มากขึ้น หรือนำไปเป็นวัสดุเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กในชุมชนแทนการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงใช้มาตรการและวิธีการใหม่ๆ ที่เหมาะสมในการดูแลจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงการขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีปัญหาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
สำหรับการใช้รถขนส่งสาธารณะทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รวมทั้งการก่อสร้างก็มีความก้าวหน้าโดยลำดับ หลายเส้นทางก็ได้มีการเปิดใช้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้รถส่วนตัวลงได้บ้างเพื่อผลดีต่อการจราจร
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าตนเข้าใจถึงบางกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียน แต่ขอความร่วมมือในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หากไม่มีความจำเป็นมากนักก็ให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะบ้าง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลและส่งเสริมรถบริการสาธารณะให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆ ไปกับการเร่งดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน ถนน เส้นทางต่างๆ ทั้งเส้นทางถนนปกติและทางด่วนพิเศษที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงบริการและรับความสะดวกอย่างทั่วถึงตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
นอกจากนี้ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2562 โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 44 สถานี สามารถตรวจวัดค่าได้ 28-77 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) พบปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 9 สถานี ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกันเกือบทุกสถานี โดยทางกรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังสุขภาพ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษจะรายงานสถานการณ์และแจ้งประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ ‘ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติอย่างเร่งด่วน’ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองให้กลับสู่สถานการณ์ปกติ
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ air4thai.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ bangkokairquality.com
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์