×

นายกฯ ร่วมรำลึก 100 ปี ยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 ท่ามกลางผู้นำโลก

โดย THE STANDARD TEAM
12.11.2018
  • LOADING...

ในพิธีรำลึกครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 และพิธีเปิดการประชุมสันติภาพ (Peace Forum) ​ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และภริยา ได้เดินทางเข้าร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย

 

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “วันรำลึกถึงการครบรอบ 100 ปีของการยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 ถือเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราจะต้องไม่ทำให้โศกนาฏกรรมร้ายแรงแสนสาหัสแก่มวลมนุษยชาติเช่นนี้เกิดขึ้นอีก สันติภาพของโลกจะเกิดขึ้นได้ต้องมีพื้นฐานจากการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน ทั้งนี้ประเทศไทยได้ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาและสันติภาพที่ยั่งยืนโดยทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน ผมจึงขอมอบหนังสือ 3 เล่มซึ่งมีสาระสำคัญสะท้อนแนวคิดดังกล่าวไว้ ณ ที่นี้”

 

โดยหนังสือ 3 เล่มที่นายกฯ กล่าวถึงคือ

  1. Sufficiency Thinking: Thailand’s Gift to an Unsustainable World
  2. Thailand’s Sustainable Development Sourcebook
  3. A Call to Action: Thailand and The Sustainable Development Goals
    ซึ่งได้นำมาส่งมอบให้กับห้องสมุดสันติภาพพร้อมกับลายเซ็น

 

วันที่ 11 เดือน 11 ปี 2018 ถือเป็นวันครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยในช่วงสงคราม ประเทศไทยหรือสยาม (ในขณะนั้น) ได้ส่งทหารอาสาไปร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในสมรภูมิยุโรปในสงครามโลกครั้งที่ 1 นับเป็น 1 ใน 3 ประเทศเอเชียที่ประกาศร่วมสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร

 

โดยสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นยืดเยื้อยาวนานถึง 4 ปี จนกระทั่งเยอรมนีได้ติดต่อฝ่ายสัมพันธมิตรขอเจรจาสงบศึก ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสงบศึกบนรถไฟ ณ เมืองคองเปียน ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 (พ.ศ. 2461) จึงถือให้ทุกวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกปีเป็นวันยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ

 

ภายหลังหลังสงครามสิ้นสุด สยามได้ก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งประชาคมโลก ได้เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติ (League of Nations) เมื่อปี 1919 (พ.ศ. 2462) ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาสำคัญในการฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยและเสรีภาพทางการค้ากับตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเปิดทางสู่การแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่างๆ

 

โดยในพิธีรำลึกจะประกอบด้วยพิธีสำคัญ เช่น การตรวจแถวธงและการตรวจแถวทหาร การขานนามผู้สละชีวิตเพื่อฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 การแสดงทางวัฒนธรรมและดนตรี การเติมน้ำมันไฟบริเวณหลุมศพทหารนิรนามตรงกลางประตูชัยโดยประธานาธิบดี ในขณะที่ผู้นำแตะไหล่ของผู้นั่งข้างไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเติมน้ำมันไฟร่วมกัน การวางพวงมาลาโดยประธานาธิบดี

 

ทั้งนี้ฝรั่งเศสได้เชิญผู้นำประเทศและผู้นำรัฐบาลของประเทศที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมถึงหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศรวมทั้งหมดกว่า 120 คนเข้าร่วมพิธี เช่น กัมพูชา เวียดนาม อินเดีย กาตาร์ เยอรมนี ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฯลฯ เพื่อให้ทุกประเทศมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

 

ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส (Paris Peace Forum) ณ หอประชุมใหญ่ Grande Halle de La Villette โดยมีประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นประธาน

 

การประชุมสันติภาพปารีสถือเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคประชาสังคมในการร่วมเสนอแนวทางธรรมาภิบาลโลกรูปแบบใหม่ที่จะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายในยุคปัจจุบันได้

 

ทั้งนี้ฝรั่งเศสได้เชิญผู้นำประเทศและผู้นำรัฐบาลกว่า 114 คนเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส โดยการประชุมครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อหาข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมร่วมกันด้านสันติภาพและการปกครองในทุกมิติ ซึ่งจะมีทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม องค์การอาสาสมัครเอกชน สมาคม และหน่วยงานที่เป็นแหล่งความคิด (Think Tank)

 

โดยฝรั่งเศสมุ่งหวังจะจัดการประชุมสันติภาพปารีสทุกปีหลังจากนี้ เพื่อเป็นเวทีสำหรับการระดมสมองด้านสันติภาพ ธรรมาภิบาล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising