×

ประยุทธ์สั่งทุกหน่วยงานระดมกำลังแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน PM2.5 ภาคเหนือเร่งด่วน เตรียมบังคับใช้กฎหมายลงโทษ

โดย THE STANDARD TEAM
27.03.2023
  • LOADING...
ปัญหาไฟป่า หมอกควัน PM2.5

วันนี้ (27 มีนาคม) อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือที่วิกฤต ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน กระทบต่อสุขภาพของประชาชนในขณะนี้

 

โดย พล.อ. ประยุทธ์ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นวงกว้างอย่างเร่งด่วนให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทำความผิดในการเผาป่าหรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่าอย่างไม่ละเว้น

 

อนุชากล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือในขณะนี้ ภาครัฐโดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนเทียมต่อเนื่องในพื้นที่ประสบปัญหา 5 จังหวัดทางภาคเหนือที่วิกฤตหนักเกินมาตรฐานต่อเนื่อง ที่ล่าสุด PM2.5 ทะลุ 525 ไมครอน โดยใช้เครื่องบินเกษตร ชนิด Casa จำนวน 2 ลำ ขึ้นปฏิบัติการช่วงเวลาตั้งแต่ 10.15 น. ของวานนี้ (26 มีนาคม) ทำฝนหลวงในบริเวณพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 26 พื้นที่ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ต้องการน้ำ

 

โดยเน้นไปยังพื้นที่ป่าไม้ตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ที่อำเภอพร้าว ต่อไปยังพื้นที่ป่าไม้ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย และพื้นที่การเกษตร อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย แล้วบินกลับมาทำฝนหลวงทางตอนใต้ของพื้นที่ป่าไม้ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน รอยต่อพื้นที่ป่าไม้ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะลงไปทำฝนหลวงต่อยังพื้นที่การเกษตร อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ ทำให้ต้องเร่งทำให้เกิดฝนตกลงมาเพื่อชะล้างฝุ่นควัน ลดปริมาณฝุ่นควันให้ลดลง พร้อมกับทำความชุ่มชื้นในพื้นที่ป่า เพื่อไม่ให้ไฟป่าเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ค่ามลพิษทางอากาศภาคเหนือเวลานี้มีเกินมาตรฐานท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

 

อนุชากล่าวต่อไปว่า สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียม Suomi NPP ของวันที่ 26 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน (Hot Spots) มากที่สุด 5,572 จุด สูงสุดในรอบ 5 ปี จากการเก็บสถิติที่ผ่านมา ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างเมียนมา มีจุดความร้อนสูงถึง 10,563 จุด ตามด้วย สปป.ลาว 9,652 จุด กัมพูชา 1,342 จุด เวียดนาม 870 จุด และมาเลเซีย 22 จุด

 

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 2,982 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,785 จุด พื้นที่เกษตร 376 จุด พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 207 จุด พื้นที่เขต สปก. 202 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 20 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ น่าน 638 จุด แม่ฮ่องสอน 558 จุด และอุตรดิตถ์ 430 จุด

 

นอกจากนี้ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศได้รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2566 ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ อุทัยธานี บึงกาฬ หนองคาย เลย อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู ชัยภูมิ และอุบลราชธานี

 

ทั้งนี้ ภาคเหนือเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 37-537 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกินค่ามาตรฐาน 8 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31-218 มคก./ลบ.ม.

 

อนุชากล่าวอีกว่า พล.อ. ประยุทธ์ ขอความร่วมมือไปยังประชาชนที่ทำการเกษตรหรือทำอาชีพในพื้นที่ป่า ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้ง ขอให้ช่วยกันระวัง ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าจุดไฟโดยเฉพาะในพื้นที่ป่า เพราะหากเกิดเหตุแล้วความสูญเสียจะประมาณค่าไม่ได้ รวมทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ ได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมมือกันจัดการปัญหาหมอกควัน PM2.5 ตามแผนปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง

 

“รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันไฟป่าในพื้นที่ชายแดน ช่วยกันระดมดับไฟป่าบริเวณเส้นทางลัดเลาะชายแดนที่มีไฟป่าลุกลามมาจากประเทศเพื่อนบ้านหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำการบังคับใช้กฎหมายลงโทษผู้กระทำความผิดในการเผาป่าหรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้เกิดไฟป่า ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ป่าไม้และพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้กลุ่มควันลอยปกคลุมเป็นบริเวณกว้างและเกิดฝุ่น PM2.5 อย่างไม่ละเว้น” อนุชากล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising