วันนี้ (8 กรกฎาคม) ภายหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นทะลุ 7,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดจะยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องควบคุมการแพร่ระบาดและการบริหารจัดการต่างๆ การตรวจเชิงรุก รวมถึงการบริหารจัดการเตียงและการกระจายวัคซีนที่ยังไม่ทั่วถึงและเพียงพอ
ล่าสุด พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้เรียกประชุมด่วนในวันพรุ่งนี้ (9 กรกฎาคม) เพื่อนำข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาเข้าที่ประชุม ครม. ให้ทันในวันอังคารที่ 13 กรกฎาคม
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาล็อกดาวน์ทั้งประเทศ หากแพทย์มีความเห็นว่าจำเป็นต้องทำเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดหนักในขณะนี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงข้อเสนอต่อที่ประชุม ศบค. สำหรับพื้นที่เสี่ยง (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล) เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยจำกัดการเดินทางออกจากบ้านและไปในสถานที่เสี่ยง โดยลดการเคลื่อนที่ของประชาชน ดังนี้
- Work from Home 100% ยกเว้นงานบริการที่จำเป็นและงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภค
- ขอให้ประชาชนงดการเดินทางโดยไม่จำเป็น ยกเว้นซื้ออาหาร ไปโรงพยาบาล และฉีดวัคซีน
- ปิดหรือลดเวลาเปิดสถานที่ชุมชน/สถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ลดเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า ยกเว้นส่วนของร้านอุปกรณ์อุปโภคบริโภค เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต
- ลดการรวมกลุ่มกันทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น งดจัดประชุม จัดสอบ หรือกลับเข้าสถานศึกษา
- งดการเดินทางข้ามจังหวัด
- ปรับแผนการกระจายวัคซีนไปต่างจังหวัด และระดมการฉีดวัคซีนที่มีอยู่ให้กลุ่มผู้สูงอายุและโรคเรื้อรังใน กทม. และปริมณฑล
- จัดช่องทางด่วนในการตรวจและรักษาให้กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และโรคเรื้อรัง
- ให้ประชาชนทุกคนเน้นมาตรการป้องกันส่วนบุคคล การสวมหน้ากากอนามัย งดการคลุกคลีใกล้ชิดกัน หรือรับประทานอาหารร่วมกัน ทั้งในที่บ้าน สถานที่ทำงาน
- เน้นย้ำทุกหน่วยงานและผู้ประกอบการ เรื่องมาตรการป้องกันส่วนบุคคลในสถานประกอบการและสถานที่ทำงาน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล