วันนี้ (11 พฤศจิกายน) ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลาราชการครึ่งวันบ่าย เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภายใต้ชื่องาน ‘พลังประชารัฐ พลังคนสร้างชาติ เพราะมีคุณ จึงมีพรรค’
พล.อ. ประวิตรกล่าวก่อนเข้าร่วมงานว่า คาดหวังต่อการจัดกิจกรรมในวันนี้ว่า ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายของคณะกรรมการได้อย่างเคร่งคัด ว่าต้องปฏิบัติตนอย่างไร
พล.อ. ประวิตรกล่าวย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียวกันมาโดยตลอด และไม่จำเป็นต้องเช็กชื่อ ส.ส. ว่าจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐในการสู้ศึกในสนามเลือกตั้งปีหน้าหรือไม่ มั่นใจว่าทุกคนยังอยู่ ยังไม่ไปไหน และก็ไม่ต้องยืนยันตัวอะไร เราอยู่ด้วยกัน เราต้องมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ส่วน ส.ส. ที่มีรายชื่อว่าเตรียมโยกย้ายพรรคนั้น พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ตนเองไม่เชื่อว่าจะมีใครไป แต่ก็แล้วแต่บุคคลนั้นๆ ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร
พล.อ. ประวิตรยังกล่าวถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐว่า ยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีการประชุมเพื่อหารือกัน พรรคยังไม่เสนอชื่อใครทั้งสิ้น แม้แต่ตนเองก็ยังไม่มีชื่อ แต่ก็แล้วแต่พรรค ส่วนการจะเสนอชื่อตนเองหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังไม่รู้
“เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย อีกอย่างลุงตู่ (พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก็ไม่ได้อยู่ในพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว แต่เราเสนอและสนับสนุนให้มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ส่วนเรื่องที่ย้ายพรรคหรือไม่ให้ไปถามท่านนายกฯ ประยุทธ์ ดูว่าท่านจะไปหรือไม่ไป เราไม่มีปัญหา” พล.อ. ประวิตรกล่าว
พล.อ. ประวิตรกล่าวต่อไปว่า พรรคพลังประชารัฐมีกรรมการบริหารพรรค มีสมาชิกพรรคที่จะต้องดูแลกันต่อไป และพรรคพลังประชารัฐจะต้องเป็นพรรคใหญ่ที่ต้องเข้มแข็ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็ยังมุ่งหวังว่าจะยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล การที่ก่อตั้งพรรคขึ้นก็มุ่งหวังที่จะพัฒนาให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง
จากนั้น พล.อ. ประวิตรได้กล่าวกับสมาชิกทั้ง ส.ส. และสมาชิกพรรคใหม่ ว่าได้แต่งตั้งให้ สัญญา สถิรบุตร อดีต ส.ส. กรุงเทพมหานคร เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากนี่จะเป็นบุคคลสำคัญกับพรรค ซึ่งมาโดยไม่ได้หวังตำแหน่งใด แต่มาช่วยเหลือพรรคพลังประชารัฐ
พล.อ. ประวิตรกล่าวขอบคุณพร้อมกล่าวว่า เห็นภาพวันนี้แล้วรู้สึกดีใจที่พรรคมีความเข้มแข็ง และพรรคจะเข้มแข็งได้ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะไม่สามารถทำได้คนเดียว โดยข้ามความขัดแย้ง จึงฝากย้ำไว้ การทำงานของพรรคพลังประชารัฐตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้น ได้ผ่านอุปสรรคและวิกฤตต่างๆ ไปได้ด้วยดี ร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลที่ทำงานร่วมกัน
นอกจากนี้ยังขอให้ว่าที่ผู้สมัครที่ผ่านการคัดสรรภาคภูมิใจว่าผ่านกลไกคัดเลือก เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทน และขอให้ว่าที่ผู้สมัครขยันลงพื้นที่และดูแลประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง “เพราะชัยชนะอยู่ที่ประชาชน” พร้อมยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งแน่นอน ไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่นได้
พล.อ. ประวิตรขอให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
เราจะต้องทำเพื่อให้ประชาชนในเขตเลือกตั้งได้อยู่ดีกินดี และมีความเชื่อมั่นต่อ ส.ส. และพรรคพลังประชารัฐ โดยพรรคพลังประชารัฐพร้อมสนับสนุนในการลงพื้นที่หาเสียงและทุกด้าน และกล่าวอวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐมีความหวังอย่างยิ่งว่าทุกคนจะต้องได้เป็น ส.ส.
