วันนี้ (25 มีนาคม) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ครั้งที่1/2565 โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม
สำหรับผลการประชุม ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ โดยมี สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานอนุกรรมการ
สำหรับคลองลาดพร้าว ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนริมคลอง มีผลงานรวมทั้งโครงการ คิดเป็นร้อยละ 55.6 และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ดำเนินการก่อสร้าง ‘บ้านมั่นคง’ แล้วเสร็จ 35 ชุมชน 3,536 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 50.02
คลองเปรมประชากร มี กทม. ดำเนินการก่อสร้างเขื่อน โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงพื้นที่ ช่วงที่ 1 ระยะทาง 581 เมตร (ดำเนินการแล้วเสร็จ) ช่วงที่ 2 ระยะทาง 5,000 เมตร (อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง) ช่วงที่ 3 ระยะทาง 10,000 เมตร (อยู่ระหว่างการรื้อย้าย) และช่วงที่ 4 ระยะทาง 10,700 เมตร (อยู่ระหว่างการก่อสร้างเขื่อน) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนดำเนินการก่อสร้าง ‘บ้านมั่นคง’ แล้วเสร็จจำนวน 293 ครัวเรือน
คลองแสนแสบและคลองสาขา มีจำนวนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ 1,839 ราย ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่ได้ดำเนินการเจรจาและขอความร่วมมือให้เจ้าของสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำให้รื้อย้ายส่วนที่ล้ำออกจากแนวเขตคลอง สำหรับผู้ที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่รัฐจะเพิ่มเติมการสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ควบคู่กับดำเนินการตามกฎหมายที่จำเป็นและเป็นธรรมต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบให้ปรับแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลอง และการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร ในพื้นที่ที่มีปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ และเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้การเจรจา สร้างความเข้าใจ และดำเนินการกับผู้รุกล้ำที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งใช้มาตรการทางกฎหมายควบคู่กันไป เพื่อมิให้โครงการล่าช้าและส่งผลกระทบต่อแผนงานพัฒนาพื้นที่และการสร้างหลักประกันความมั่นคงที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชนโดยรวม
พล.อ. ประวิตร ได้กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อผลความคืบหน้าของการแก้ปัญหา แม้จะมีความยากลำบากอยู่บ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ใช้ความพยายาม ความอดทน อดกลั้น เจรจาสร้างความเข้าใจต่อผู้รุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ให้เป็นไปด้วยดี และได้เร่งรัดทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานให้ได้ตามแผนงานโดยเร็ว พร้อมขอบคุณประชาชนที่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และยินดีเข้าร่วมโครงการด้วยดีที่ผ่านมา
สำหรับผู้รุกล้ำที่ยังคัดค้านโครงการ รัฐบาลก็จะยังคงใช้ความพยายามมากขึ้นในการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความเข้าใจต่อกัน เพราะรัฐบาลมีความปรารถนาดีอย่างจริงใจที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมั่นคงต่อไป