วันนี้ (13 เมษายน) พญ.ปิยะรัตน์ สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดพื้นที่ให้ THE STANDARD ได้ถ่ายภาพขั้นตอนการสวมหน้ากาก Face Shield ให้กับเด็กแรกเกิด ซึ่งได้รับการสาธิตโดยเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ที่ดูแลเด็กแรกเกิดเฉพาะทางเป็นอย่างดี และได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองของเด็กที่ปรากฏในภาพแล้ว
โดย พญ.ปิยะรัตน์ อธิบายถึงการสวมหน้ากาก Face Shield ให้กับเด็กแรกเกิดที่เป็นตกเป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า “กรณีที่มีภาพของเด็กสวมหน้ากาก Face Shield ที่โรงพยาบาลพระรามเก้านั้นเป็นการทำเพื่อเคสหนึ่งโดยเฉพาะ เนื่องจากปกติทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการสวม Face Shield ให้กับเด็กแรกเกิดทุกราย
“ซึ่งในส่วนของเคสดังกล่าว พบว่าคุณแม่ของเด็กบอกกับทีมพยาบาลว่าไม่มีรถส่วนตัวในการพาเด็กกลับบ้านพัก โดยทีมพยาบาลที่ทราบข้อมูลก็เกิดความเป็นห่วงที่จะมีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างทาง เพราะคุณแม่และเด็กต้องกลับโดยรถแท็กซี่”
สำหรับ Face Shield ดังกล่าวผลิตขึ้นมาจากทีมพยาบาลห้องเด็กอ่อน ผ่านการออกแบบมาสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ซึ่งมีการดัดแปลงมาจากของผู้ใหญ่ ตัวพลาสติกได้รับการหุ้มกรอบเรียบร้อย ส่วนฟองน้ำที่ใช้ก็มีขนาดที่หนามาก ทำให้เว้นระยะห่างระหว่างตัวหน้ากากกับเด็กพอสมควร ซึ่งทีมแพทย์ตรวจดูแล้วพบว่าปลอดภัย พร้อมแนะนำให้คุณแม่ของเด็กสวมใส่เฉพาะตอนที่อยู่ในรถ และถอดออกเมื่อถึงบ้านแล้ว ไม่แนะนำให้ใส่เวลาอยู่ในบ้าน แต่ให้ใส่ในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อมีเหตุอันควรเท่านั้น
“สำหรับหน้ากาก Face Shield ทีมแพทย์ได้ให้คำแนะนำไปตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ได้ให้ใส่ในทุกเคส เพราะปกติไม่ควรสวมใส่ แต่เคสที่เป็นข่าว สำหรับทีมแพทย์ถือว่าเป็นเคสที่พิเศษจริงๆ” พญ.ปิยะรัตน์กล่าว
ส่วนประเด็นที่ชมรมเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดแห่งประเทศไทยออกประกาศไม่สนับสนุนให้มีการใส่ Face Shield หรือ Face Mask แก่เด็กแรกเกิด เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารก
พญ.ปิยะรัตน์ กล่าวเสริมว่า “ในส่วนของเรื่องหน้ากากผ้าที่อาจทำอันตรายต่อเด็กถือเป็นเรื่องจริง แต่ในกรณีของ Face Shield ถ้าบุคคลทั่วไปทำกันเองอาจจะไม่ทราบเรื่องของการใช้พลาสติกที่ไม่เหมาะสม หรือเรื่องของระยะห่างระหว่างหน้ากากกับหน้าของเด็กที่อาจแคบเกินไปจนเสี่ยงเกิดอันตรายก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งคำแนะนำของชมรมเวชศาสตร์ฯ ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะถ้าไปทำ Face Shield กันเองโดยไม่ใช่แบบที่บุคลากรทางการแพทย์ทำให้ มันมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อเด็กได้” พญ.ปิยะรัตน์กล่าว
หมายเหตุ: ภาพถ่ายที่ปรากฏได้รับการอนุญาตจากโรงพยาบาลพระรามเก้าในฐานะเจ้าของสถานที่ ส่วนกรณีเด็กทั้งสองคนที่อยู่ในภาพ ได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองหรือพ่อและแม่เด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว