ความคืบหน้าการชดใช้ค่าเสียหายคดีแพรวา โดยในส่วนคดีแพ่ง ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ให้จำเลยทั้งสี่ รวมเป็นเงิน 26,881,137 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ 27 ธันวาคม 2553
ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ค.) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมหารือกับคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทนายความของผู้ได้รับความเสียหายจากคดีแพรวา 9 ศพ
รัฐมนตรียุติธรรมกล่าวถึงขั้นตอนของคดี ซึ่งสังคมอาจจะยังสับสนอยู่ว่า ศาลฎีกาได้มีคำสั่งบังคับให้จำเลยทั้ง 4 คน จ่ายชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 25 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี คิดเป็นเงิน 41 ล้านบาท ซึ่งถ้าช้าออกไป ความเสียหายก็จะตกแก่จำเลย ซึ่งต้องเสียค่าดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม การนับวันบังคับคดีให้จ่ายค่าเสียหายนั้นนับจากวันปิดหมาย ซึ่งจำเลยทั้งสี่ไม่ได้อยู่สถานที่เดียวกัน ศาลจึงต้องส่งหมายไปต่างภูมิลำเนา ทำให้การบังคับเวลาของจำเลยไม่ตรงกัน โดยจำเลยที่ 2 และ 4 ได้รับการปิดหมายในวันที่ 6 กรกฎาคม ส่วนจำเลยที่ 1 และ 3 ได้รับการปิดหมายในวันที่ 13 กรกฎาคม
รัฐมนตรียุติธรรมเปิดเผยว่า ช่วงเวลาในการให้จำเลยมาวางเงินต่อศาล เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย ต้องนับจากวันที่ 13 กรกฎาคม ออกไป 15 วัน คือวันที่ 28 กรกฎาคม
จากนั้นจะมีระยะเวลา 30 วัน ให้จำเลยนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหายตามคำสั่งศาล เมื่อนับแล้วจะเห็นว่า วันสิ้นสุดของการชำระค่าเสียหายตามคำสั่งศาลคือวันที่ 28 สิงหาคม หรือช่วงปลายเดือนสิงหาคม
ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายตามคำสั่งศาลของคดีแพรวาขณะนี้ยังอยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมาย แต่หากเลยเดือนสิงหาคมไปแล้ว จำเลยยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดี โดยกรมบังคับคดีเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์มาขายทอดตลาด เพื่อชดใช้ผู้เสียหายต่อไป
ส่วนข่าวที่ว่า มีผู้สนใจขอซื้อที่ดินจากจำเลยนั้น ตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากขายที่ดินได้ ก็สามารถนำเงินมาวางที่ศาล เพื่อชดใช้ค่าเสียหายได้ทันทีภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดคือ ไม่เกินเดือนสิงหาคม
สำหรับคดีดังแพรวา 9 ศพ เกิดเหตุตั้งแต่ปี 2553 โดย แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขณะนั้นอายุ 17 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บนทางยกระดับโทลล์เวย์ขาเข้า ช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
