POP Powerful Voices in Crisis: New Gen

หมวดที่ 4 ของ POP Powerful Voices in Crisis คือตัวแทน ‘เสียง’ ของคนรุ่นใหม่จากแวดวงป๊อบคัลเจอร์ เสียงแห่งความกล้าหาญของยุคสมัยที่ไม่ยอมจำนนต่อข้อจำกัด เพื่อยืดหยัดพูดแทนประชาชน

ประกอบด้วย มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล, อัด-อวัช รัตนปิณฑะ, 4EVE, BNK48 & CGM48, ค่าย YUPP!, อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ, มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, Tilly Birds, บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และเจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม

รายชื่อทั้ง 10 เสียง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของศิลปินรุ่นใหม่ที่เราหยิบยกขึ้นมา เป็นตัวแทนของศิลปินรุ่นใหม่อีกจำนวนมาก ที่ใช้ ‘เสียง’ แห่งยุคสมัยใหม่ Call out เพื่อพูดแทนประชาชนอย่างกล้าหาญ และเป็น ‘อนาคต’ ของวงการได้จริงๆ

THE STANDARD POP ขอบคุณอีกครั้ง แด่ทุก ‘พลัง’ จากทุกชีวิตที่ลงมือทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ให้ทุกคนผ่านวิกฤตอันเลวร้ายครั้งนี้ไปด้วยกัน

New Gen / คนรุ่นใหม่ (10)

มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล: Milli Danupha Khanatheerakul / แรปเปอร์
อัด-อวัช รัตนปิณฑะ: Ud Awat Ratanapintha / นักแสดง, นักร้องนำวง Mints
4EVE / วงเกิร์ลกรุ๊ป
BNK48 & CGM48 / วงไอดอล
YUPP! / ค่ายเพลง
มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร: Mean Phiravich Attachitsataporn / นักแสดง
Tilly Birds / วงดนตรี
อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ: Image Suthita Chanachaisuwan / นักร้อง
บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล: Billkin Putthipong Assaratanakul / นักร้อง, นักแสดง
เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม Jaylerr Kritsanapoom Pibunsonggram / นักร้อง, นักแสดง

New Gen: มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล

ภาพป้ายผ้า #Saveมิลลิ ถูกแขวนขึงตรึงไว้กลาง สน.นางเลิ้ง เสียงเพลงฮิต สุดปัง และ พักก่อน ถูกเปิดสลับไปพร้อมๆ กับกิจกรรมจากมวลชนที่เดินทางมารอให้กำลังใจ ‘มิลลิ’ หรือ ดนุภา คณาธีรกุล แรปเปอร์สาวมหัศจรรย์วัย 19 ปี ที่มีนัดหมายถึงทางมาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ‘ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา’ ตามมาตรา 393 และลงท้ายด้วยการยอมรับค่าเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท

ถือเป็นเงิน 2,000 บาท ที่ถ้าตีเป็นมูลค่าทางสังคมและการเมืองก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าอย่างมหาศาล เพราะมันสามารถบอกเล่าความจริงกำลังที่เกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างหลากหลายมิติ

ไล่เรียงตั้งแต่การชั่ง ตวง วัดระดับวุฒิภาวะของผู้นำประเทศ ไปจนถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หรือ คตส. ที่สามารถจะเอาเรื่องเอาราวกับศิลปินหญิงที่อยู่ในวัย 19 ปี เมื่อนำไปลบกับอายุของผู้นำประเทศที่ขณะนี้อายุ 67 ปี ก็จะได้ผลลัพธ์ความห่างทางวัยวุฒิเท่ากับ 48 ปี

เพียงเพราะผู้แจ้งมองว่า ถ้อยความบางข้อความที่เธอโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้นเป็นข้อความที่ไม่สุภาพ หยาบคาย (ตามมาตรฐานของผู้แจ้ง)

อีกทั้งยังเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ที่แสดงเห็นถึงระบบความคิดทางสังคมในปี 2564 ที่ยังคงยึดติดเรื่องอาวุโส ซีเนียริตี้ ไว้อย่างเหนียวแน่น หลังจากทนายความ ผู้ทำหน้าที่แทนมิลลิ ให้เหตุผลของการยอมรับข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับว่า

“แม้การแสดงความคิดเห็นของมิลลินั้นจะเป็นการแสดงความคิดเห็นที่สุจริต และเป็นสิทธิของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่จะแสดงความคิดเห็นด้วยความห่วงใย” ถึงอย่างนั้นก็ตาม ทนายความได้บอกต่อว่า

“เราได้คุยกันแล้วว่า เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดี เมื่อบอกว่าเราใช้ถ้อยคำหยาบคาย วันนี้เรามา ในเมื่อเราเป็นเด็ก เพื่อสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้กับบ้านเมือง เราก็มารับสารภาพในถ้อยคำที่เราได้กล่าวออกไป”

สำคัญที่สุด เงินจำนวน 2,000 บาทที่มิลลิเสียไปเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมนั้น จะเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนคนไทยไปจนถึงคนรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่า ‘Freedom of Speech’ นั้นสำคัญเพียงใดในสังคมประชาธิปไตย และเราได้เรียนรู้อะไรบ้างก่อนที่จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

ว่าแต่คุณพร้อมจะเติบโตขึ้นในประเทศไทยในอนาคตข้างหน้าไปพร้อมกับแรปเปอร์สาวสุดปัง! คนนี้แล้วหรือยัง?

New Gen: Milli Danupha Khanatheerakul

A sign written #Saveมิลลิ was hung in the middle Nang Loeng Police Station along with the hit songs ‘Sudpang!’ and ‘Pak Kon’ which was run on and on while people were waiting to give support. ‘Milli’ or Danupha Khanatheerakul, a 19-year-old amazing rapper, arrived at the police station to acknowledge the allegation that she had done a public insult as in section 393. She eventually ended up being charged for 2,000 baht.

If the amount 2,000 baht was estimated for a social and political value, it would be greatly invaluable. The reason is that it can depict the truths happening in Thailand in all aspects.

Those aspects can include measuring the maturity of the country’s leader and officers who were responsible for monitoring and litigating those who publish fake news about the prime minister and the committee. Calculating the gap between the 67-year-old leader of the country and this 19-year-old artist, we will get 48 years as the result of the maturity gap.

The case reporter perceived that some parts of the post on Milli’s social network site were not polite and rude (according to the reporter’s standard)

Moreover, this amount of money showed the thinking process of the society in 2020 which was strongly stuck to age and seniority. Afterwards, the lawyer of Milli stated the reason why she decided to accept the accuse and pay the fine that

“Even though her opinion is truthful and even though it is the right of Thai people to express their own opinion with worries”, the lawyer said and continued.

“We’ve discussed that in order to be a good role model, if someone said that we had used impolite words. As a kid, we will accept our own words in order to maintain this country’s great culture.”

Most importantly, this amount of money that Milli had paid on July 22nd will be a drive to remind Thai people and new generations how important ‘Freedom of Speech’ is in democracy and how much have we learned before growing to be an adult in the future.

The question is ‘are you ready to grow in this country with this amazing rapper?’.

New Generation: อัด-อวัช รัตนปิณฑะ

อัด-อวัช รัตนปิณฑะ นับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นต่อการทำงานตามฝัน ทั้งบทบาทนักแสดง นักร้องนำวง Mints พิธีกร และผู้กำกับ นอกจากนี้เขายังต้องการจะเปลี่ยนทัศนคติที่ว่า ‘คนในวงการบันเทิงไม่ควรแตะเรื่องสังคมและการเมือง’ ทั้งที่คนเหล่านี้ก็เป็นประชาชนที่มีสิทธิเสรีภาพในการพูดถึงเรื่องใกล้ตัวที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ไม่ต่างกัน

“เราหวังว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นตอนนี้จะสามารถจบที่รุ่นเรา” คนรุ่นใหม่อย่างอัดมองไกลไปถึงคนรุ่นถัดไปที่จะต้องเติบโตขึ้นมาเผชิญกับความผิดปกติที่เกิดขึ้น เสียงของเขาเป็นตัวแทนแห่งความหวังจากคนรุ่นใหม่ที่ยืนหยัดต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ระบบการศึกษา ฯลฯ ปัญหาเชิงโครงสร้างมากมายที่ฉุดรั้งไม่ให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้

คุณภาพชีวิตในสถานการณ์โรคระบาดยิ่งย่ำแย่ลง เมื่อรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชน หรือแม้แต่กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ประชาชนจึงมีสิทธิโดยชอบธรรมทุกประการที่จะตั้งคำถามและวิจารณ์การทำงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล

เช่นเดียวกับเพลง ถึงเวลาฟัง ของวง Mints ที่อัดใช้เสียงร้องถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเนื้อเพลงที่บอกว่า ‘พวกเขา’ จะต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิดรับและเคารพเสียงของคนรุ่นใหม่ เสียงของประชาชนทุกคนที่มีความหมายเท่าเทียมกัน มีพลังที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ

New Generation: Ud Awat Ratanapintha

Ud Awat Ratanapintha is one of the new generation who is determined to follow his own dream. Besides his various roles as actor, lead vocalist of Mints, show host, and director, he is a person who wants to change the saying that ‘Entertainers shouldn’t talk about social and political issues’ although they are one of the people who also have rights and freedom to speak up the problems they face in life.

“I hope the current chaos will end in my generation” is the quote from Ud, a new generation who cares about the next generation’s future, which he hopes they won’t grow up with today’s absurdity. His voice was said as a representative of the new generation’s hope, the hope to stand against problematic issues including environment, cyber-bullying, educational system, etc. Those are the structural problems which are pulling back Thai people from having better quality of life.

Thai people’s well-being in the pandemic is getting worse as the government couldn’t provide efficient vaccines to people, or even medical workers who risk their lives to save patients. Therefore, people have the absolute rights to question and criticise the failure of the government’s management.

Just like the song ‘hear(t)’ by mints, Ud sang the lyrics with his feeling to say that ‘they’ must accept the truths that are happening right now. It’s time to open up and give respect to the new generation’s voices. With these equality, there will be a power to make changes.

New Gen: 4EVE

ถ้าพูดถึงเกิร์ลกรุ๊ปไทยน้องใหม่ที่มาแรงในเวลานี้ เชื่อได้ว่าชื่อของ 4EVE จะเป็นชื่อแรกๆ ที่แฟนเพลง T-Pop นึกถึง ด้วยความสามารถทั้งการร้องและการเต้นที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ทำให้พวกเธอกลายเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ถูกพูดเป็นอย่างมากหลังจากเปิดตัวมาได้เพียง 7 เดือน

เพราะผลงานในโลกบันเทิงอาจจะไม่ได้สะท้อนตัวตนในฐานะคนรุ่นใหม่ได้ทั้งหมด เราจึงได้เห็นอีกมุมหนึ่งของพวกเธอผ่านการแสดงความคิดเห็นทางสังคมและการเมืองบนพื้นที่ส่วนตัวทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มักจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลให้เห็นอยู่เป็นประจำ

โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดรุนแรง ไม่แพ้กระแสเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวและนัดหมายชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง

พวกเธอทั้ง 7 คนยังใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียของตนเอง ‘ส่งเสียง’ ต่อต้านการใช้ความรุนแรงของภาครัฐ ไปพร้อมๆ กับเรียกร้องการจัดการด้านวัคซีนที่ดีและโปร่งใส การเข้าถึงระบบรักษาโรคโควิดของภาคประชาชนที่ควรจะทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

และแม้ 4EVE จะเคยโดนแฟนคลับตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วงถึงการแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของวง แต่สมาชิกทุกคนยังคงพอยต์เท้า จิกพื้นแน่น ในการออกมาเป็นกระบอกเสียงเคียงข้างประชาชน

และนั่นยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าเชื่อในสิทธิ เสรีภาพ ขั้นพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไร อายุเท่าไร หรือยืนอยู่ตรงบทบาทใดของสังคม ทุกเสียงของทุกคนก็ควรได้รับการปกป้อง ควรจะแสดงออกได้อย่างไม่ถูกปิดกั้น และไม่ควรต้องหวาดหวั่นอำนาจใดก็ตาม

New Gen: 4EVE

Listing a hit newbie girl group in Thailand nowadays, the name 4EVE definitely appeared as the very first recognized idols for T-Pop fans. With their unique singing and dancing talent, 4EVE has become the frequently mentioned girl group after only 7-month-old experience.

As the work in the industry might not have shown all identity of the new generation, we have seen another aspect of these girls through their social and political opinions on their personal media sites, where they often criticise the government’s management, especially this time when the pandemic got worse and the protest kept going.

All of the 7 members used their own media sites to ‘speak up’ against the violent disband and call out for better vaccine collocation, better COVID treatment access which should be efficient and sufficient.

Even though 4EVE had been questioned and worried about their straightforward opinions which might have affected the group, all members stood strongly to the ground to be the voice of the people.

This has proved that if you believe in rights and freedom in democracy, your voice will be protected and be supported to express without fear no matter what gender, age, or role in the society you are.

New Gen: BNK48 & CGM48

นอกจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย แต่มันยังส่งผลกระทบไปถึงการดำเนินชีวิตและสภาพจิตใจของทุกคน การส่งมอบกำลังใจให้กันจึงเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้

BNK48 และ CGM48 สองไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปขวัญใจชาวไทย ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่คอยทำหน้าที่ส่งมอบกำลังใจให้กับทุกคนผ่านผลงานเพลงและคอนเทนต์ออนไลน์ต่างๆ อยู่เสมอ เช่น สองสมาชิก BNK48 อย่าง โมบายล์-พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค และ สตางค์-ตริษา ปรีชาตั้งกิจ ได้ร่วมกันแต่งเพลงให้กำลังใจผ่านรายการ BNK48 Shoot From Home EP.2

ด้านวงน้องสาวจากเชียงใหม่อย่าง CGM48 ได้หยิบซิงเกิลที่ 3 ของพวกเธออย่าง มะลิ มาเรียบเรียงใหม่เป็น Special Version เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับทุกคน รวมถึงได้จัดงาน 48TH Imaginary Concert in Twitter Stadium ที่เชิญชวนแฟนๆ มาร่วมสนุกไปพร้อมกับเหล่าสมาชิก BNK48 และ CGM48 ในบรรยากาศคอนเสิร์ตทิพย์ ฯลฯ

อีกทั้งยังช่วยเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์ช่องทางบริจาคให้ทุกคนได้ร่วมส่งมอบสิ่งของจำเป็น เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด พร้อมทั้งช่วยแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับเบอร์ติดต่อหน่วยงานต่างๆ ที่ช่วยเหลือด้านสถานการณ์โควิดให้ทุกคนได้ทราบ

สำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะส่งมอบเพียงกำลังใจ แต่เหล่าสมาชิก BNK48 และ CGM48 ยังเป็นอีกหนึ่งกลุ่มศิลปินที่ออกมาร่วมเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน ผ่านการแสดงความคิดเห็นทางสังคมและการเมืองในช่วงเวลาสำคัญอยู่เสมอ

โดยเฉพาะการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการป้องกันและการบริหารจัดการวัคซีนโควิดที่ล่าช้าของภาครัฐ รวมถึงการออกมาร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในการสลายการชุมนุม และนั่นทำให้เสียงของเหล่าเด็กสาวที่เคยใช้ ‘ความฝัน’ เป็นแรงผลักดันทั้งตัวเองและแฟนคลับ ได้รับเสียงชื่นชมยอมรับในความกล้าหาญ

ความกล้าที่จะลุกขึ้นพูดถึง ‘ความฝัน’ ในบริบทที่ใหญ่กว่า นั่นคือพูดแทน ‘ความฝันของคนรุ่นเดียวกัน’ จนทำให้เกิดเป็นกระแส ‘ไอดอลเพื่อชีวิต’ ขึ้นบนโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว

การออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในประเด็นต่างๆ ของพวกเธอในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ได้พิสูจน์ความจริงข้อหนึ่งให้เราเห็นแล้วว่า ภายใต้ชุดหลากสีสันและรอยยิ้มที่สดใส พวกเธอต่างเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเลือกที่จะออกมาใช้เสียงของตัวเองเพื่อผลักดันให้ปัญหาเหล่านั้นได้รับการแก้ไข และเพื่อให้เราทุกคนสามารถข้ามผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

New Generation: BNK48 & CGM48

Not only that COVID pandemic has effects on physical healths, but it is also affecting people’s way of living and mentality. Therefore, encouraging each other is an important support for us to get through this crisis.

BNK48 and CGM48, two lovable idol girl groups of Thai people, are the artists who pass along their kind support to everyone by their songs and online contents. For example, Mobile-Pimrapas Padungwattanachok and Stang-Tarisa Prichatangkij, two members of BNK48, created a song for encouragement in the show ‘BNK48 Shoot From Home EP.2’.

Young girl group from Chiang Mai, CGM48, decided to rearrange a special version of their 3rd single named ‘Mali’ in order to pass along positive energy to everyone. Moreover, a special event ‘48TH Imaginary Concert in Twitter Stadium’ was held to let their fans join and have fun with the members of BNK48 and CGM48 through this virtual concert.

Moreover, their media sites were used to share the donation information so that their followers can participate and help medical officers and people who got affected by the pandemic. Also, they used the sites to share the contact numbers of service centers that help people in pandemic crisis.

Most importantly, BNK48 and CGM48 not only give encouragement to people, but they also used their voices to express their social and political opinions in this significant period of time.

They criticised the government’s vigilant measures against COVID and the late vaccine collocation, including the use of violence to disband the protest. Their actions eventually made these girls who pushed themselves with dreams get a lot of praise applauding for their braves.

Daring to step out and talk about a ‘bigger’ dream, they stated about ‘the dream of the generation’ which suddenly created a viral of ‘idols for life’ on social media.

The way they stated their points of view about politics and other issues during this time has shown that under the colorful costumes and bright smiles, they are a new generation who couldn’t ignore the ongoing problem. Therefore, it is better to step out and speak your voice so that those problems will be heard and solved, and we will be able to get through this crisis

New Gen: YUPP!

“เราเชื่อในพลังวัยรุ่นที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้และโลกนี้ให้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ มาร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน”

โพสต์แถลงการณ์สั้นๆ แต่ฟังแล้วมีความหวัง ได้ใจความ ยืนยันอุดมการณ์ของ YUPP! ค่ายเพลงน้องใหม่ที่รวบรวมแรปเปอร์ New Generation ไว้ด้วยกัน และช่วยสนับสนุนพัฒนาทั้งเรื่องผลงาน แนวคิด การส่ง ‘เสียง’ เพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้อย่างอิสระ ไม่ปิดกั้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือเมื่อศิลปินเกิดปัญหา

จากกรณีที่ มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล แรปเปอร์สาวอายุ 18 ปี ที่ทุกคนรู้กันดีในชื่อ Milli ถูกหมายเรียกข้อหา ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา จากการโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบนโซเชียลมีเดีย ต้องเดินทางไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจ พร้อมกับแรงสนับสนุนจากประชาชน และเพื่อนๆ ร่วมวงการจำนวนมากที่มาให้กำลังใจ

แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ถูก ‘จับตา’ แต่ค่าย YUPP! ก็ยังเปิดกว้างให้ศิลปินในค่ายทั้ง 7 คนอย่าง MAIYARAP, BEN BIZZY, BLACKSHEEP, LAZYLOXY, NAMEMT, AUTTA และ MILLI ได้สร้างสรรค์ผลงานและแสดงความคิดเห็นบนพื้นที่ของตัวเองได้อย่างมีอิสระแบบที่เคยทำมาตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ค่ายก่อตั้งขึ้นมา

รวมทั้งเริ่มเปิดพื้นที่ในรายการ What’s YUPP! EP.18 | Freedom ทิพย์? ให้ LAZYLOXY และ AUTTA แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ Hockhacker จากกลุ่ม R.A.D. (Rap Against Dictatorship) อย่างมีเหตุผล ตรงไปตรงมา ในหัวข้อ ขอบเขตการแสดงออกในงานศิลปะและเพลงในยุคปัจจุบัน สามารถแสดงออกได้มากน้อยแค่ไหน?

อย่างที่รู้กันดีว่าทุกคนล้วนเป็นแรปเปอร์รุ่นใหม่ฝีปากกล้าที่วาดลีลาผ่านดนตรีและตัวอักษร ชนิดที่ถ้าอยากจะรักเพลงก็หวานซึ้ง ถ้าเศร้าก็เจ็บไปถึงหัวใจ และถ้าอยากจะ ‘ฟาด’ ขึ้นมาเมื่อไรก็เสียดสีได้เจ็บแสบแบบมีศิลปะ

ถ้าดูจากเพลง ลำพัง ผลงานล่าสุดของ LAZYLOXY x MILLI (Prod. by SPATCHIES) ที่เนื้อหานำเสนอความรักที่ผิดหวัง แต่มาพร้อมกับมิวสิกวิดีโอที่ทุ่มทุนงานโปรดักชันระดับ ‘อวกาศ’ เพื่อนำเสนอข้อความและ ‘สัญลักษณ์’ ลึกซึ้ง สะท้อนถึงอะไร ‘บางอย่าง’ ที่ทำให้เจ็บปวดยิ่งกว่าอกหักจากความรัก

ก็พอจะยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า YUPP! คือหนึ่งในค่ายเพลงเล็กๆ แต่ใจใหญ่ พร้อมสนับสนุนพลังของ ‘คนรุ่นใหม่’ ตามสโลแกนของค่ายที่ตั้งเอาไว้เพื่อ ‘เปลี่ยนแปลง’ ประเทศนี้และโลกนี้ไปด้วยกัน

YOUTH WITH DOUBLE UP!

New Gen: YUPP!

“We believe in the new generation who is ready to change this country and the world to be a better place. Let’s support this change together.”

A short but clear and hopeful declaration was posted to firm the ideology of YUPP!, the newbie record label full of new generation rappers. YUPP! has been supportive for the artists’ work piece, concept, and ‘voice’ that the artists can use to express their political opinions freely with the label’s help if there is any problem.

From the incident when Milli-Danupa Kanateerakul, a well-known 18-year-old rapper named Milli, was summoned by published defamation from the post she criticised the government on social media. Milli went to present herself at the police station with support from Thai people and her friends.

Despite ‘being monitored’, YUPP! has been opened for all 7 artists, MAIYARAP, BEN BIZZY, BLACKSHEEP, LAZYLOXY, NAMEMT, AUTTA, and MILLI, to create music and express their voices freely, just like how they have been for the last two years since the label was established.

Moreover, a show called ‘What’s YUPP! EP.18 | Lost Freedom?’ created a space for LAZYLOXY and AUTTA to exchange straightforward and reasonable opinions with Hockhacker from R.A.D. (Rap Against Dictatorship) about the boundary of expression in art and music nowadays.

It was known that these rappers of the new generation have the guts to express their music and lyrics boldly, as they have shown the sweetness in their love songs, and severe pain in their sad songs. Therefore, if they want to ‘beat’ on something, they will make such a sarcastically artistic song

As in the latest work of LAZYLOXY and MILLI (Prod by SPATCHIES), the song talked about a heartbroken love with ‘space-level’ MV production in order to present a message and a ‘sign’ reflecting ‘something’ which can hurt you more than a heartbroken.

It was proven that YUPP! is one of the small-sized with big heart labels that always supports the ‘new generation’ according to its slogan to ‘change’ the country and the world together.

YOUTH WITH DOUBLE UP!

Artists : มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร

มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร คือหนึ่งในนักแสดงคลื่นลูกใหม่ที่ลุกขึ้นใช้เสียงในฐานะคนบันเทิงของตนเอง แสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดอยู่เสมอ

ไม่เพียงเท่านั้น มีนยังเรียกร้องให้ ‘คนบันเทิง’ ออกมายืนเคียงข้างประชาชน เขาย้ำว่าอาชีพศิลปินนักแสดงคือผู้สร้างความสุข ชื่อเสียงและความนิยมต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีประชาชนเป็นแรงหนุนสำคัญ ดังนั้น ในช่วงเวลาวิกฤต คนบันเทิงจึงควรใช้เสียงของตนเองซึ่งสามารถสื่อสารได้กว้างและไกลกว่า เพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนความทุกข์และความรู้สึกนึกคิดของประชาชน เขาได้ย้ำข้อความในตอนท้ายของโพสต์ที่ตนเองเขียนผ่านโซเชียลเน็กเวิร์กไว้อย่างทรงพลังว่า

“ลุกขึ้นมาอยู่ข้างพวกเขาครับ กลุ่มคนที่เขาสู้เพื่อตัวเอง เพื่อท่าน เพื่อเราทุกคน

ลุกขึ้นมาพิสูจน์สิครับว่าท่านอยู่ด้วยฝีมือ ไม่ใช่เส้นสายอย่างที่เขาว่ากัน

วันนี้เขาตาย พรุ่งนี้ผมตาย มะรืนท่านก็ตาย ศิลปะมิอาจเบ่งบานในรัฐเผด็จการ”

การออกมาเรียกร้องของมีนในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันครั้งสำคัญ

ที่ทำให้คนบันเทิงหลายคนตัดสินใจออกมาใช้ ‘เสียงที่ดัง’ ของพวกเขาพูดแทนเสียงของประชาชนที่มักถูกเมินเฉยในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

ล่าสุด มีนยังใช้พื้นที่ในรายการ คิดถึงไก่หมายยย ทางช่อง YouTube ของตนเอง นำเสนอไอเดียใหม่ๆ ในการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวช่วงโควิด รวมทั้งในอีพีที่ 1 ของรายการ มีนยังได้ชวนพ่อแม่มารีวิวการใช้ Antigen Test Kit อย่างถูกวิธี เพื่อเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคนในช่วงเวลาที่การเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเป็นไปได้ยากมากขึ้น

Artists: Mean Phiravich Attachitsataporn

Mean Phiravich Attachitsataporn, one of the new wave actors who spoke up his voice as an entertainer, has frequently stated and criticised the government’s management in this COVID pandemic.

Furthermore, Mean asked other ‘entertainers’ to step out and stand beside the people. He stated that the profession of actors and actresses was meant to create happiness. Meanwhile, fame and popularity were built by people’s support. Therefore, during this crisis, entertainers had to be the voices speaking for people’s pains and thoughts. He also powerfully emphasized in the last part of his post that

“Step beside them. The people who fight for themselves, for you, for all of us. Step up and prove that you are here because of your potential, not the connection as they say. They died today. I may die tomorrow. The day after tomorrow, you will die. Art can’t bloom in a dictatorial state.”

The callout that Mean did was one of the significant pushes that encouraged other entertainers to use their ‘loud voice’ and speak as a representative of people who are ignored in this hard time.

Recently, Mean has appeared in his own YouTube channel’s show called ‘Kid Teung Kai Mai’ presenting new ideas for family activities during COVID period. In the first episode, his parents came as the guests to review how to use Antigen Test Kits in a proper way. This useful information would be helpful for everyone as it is hard to go and take a lab test at the hospital at the moment.

New Gen: Tilly Birds

คิด(แต่ไม่)ถึง เป็นเพลงที่อยู่ในอันดับของเพลงที่มียอดสตรีมสูงสุดของประเทศไทยในปี 2563 ทำให้วง Tilly Birds จากค่าย Gene Lab กลายเป็นวงดนตรีรุ่นใหม่ที่มีตารางทัวร์แน่นขนัดทุกเดือน แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดในระลอกแรกๆ นอกจากนี้วงยังได้ปล่อย ผู้เดียว The Album อัลบั้มเต็มครั้งแรกของพวกเขาในปีที่แล้ว

แน่นอนว่าพวกเขาผ่านความผิดหวังบนเส้นทางดนตรีมาไม่น้อยกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งในช่วงเวลาที่สถานการณ์โควิดดูเหมือนจะดีขึ้น ศิลปินเริ่มออกแสดงตามร้านดนตรีได้เหมือนเดิมภายใต้มาตรการการป้องกันต่างๆ แต่แล้วงานเหล่านั้นก็ต้องถูกเลื่อนหรือยกเลิกไปตามมาตรการสั่งปิดสถานประกอบการของรัฐบาล เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดกลับมาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

Tilly Birds จึงเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่ตัดสินเดินทางไปยังรัฐสภาร่วมกับตัวแทนจากสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงแห่งประเทศไทยและเพื่อนศิลปิน เพื่อเรียกร้องมาตรการผ่อนปรนและมาตรการเยียวยาให้กับสมาชิกสมาพันธ์ผู้ประกอบอาชีพธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2564

พร้อมทั้งเหล่าสมาชิกวงยังได้ใช้สื่อโซเชียลมีเดียของตัวเองในการช่วยแบ่งปันข้อมูลความรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด ร่วมเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนได้ฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นกระบอกเสียงให้มีการจัดการระบบการเรียนออนไลน์ที่ดีขึ้น และอีกหลายๆ เรื่องที่พวกเขาใช้พื้นที่ของตัวเองช่วยส่งเสียงออกมา

แม้ว่าเพลง เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน หรือ ลู่วิ่ง ที่ Tilly Birds เพิ่งปล่อยมาไม่นานในปีนี้ จะกลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีถึงรากฐานที่กำลังแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ของวง รวมถึงนักดนตรีอีกหลายร้อยชีวิตที่กำลังตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้แฟนเพลงได้ติดตาม แต่เหล่านกที่กำลังเติบโตอาจจะได้ขยับปีกโบยบินไปอย่างมั่นคงกว่านี้ หากภาครัฐสามารถบริหารจัดการสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึงมากกว่าที่เป็นอยู่นี้

New Generation: Tilly Birds

‘Same Page?’, a song ranked in Thailand’s most streamed list in 2020, sent Tilly Birds from Gene Lab to be the latest music band with a packed schedule every month despite the beginning wave of COVID. Additionally, Poo Diow The Album, their official full album, was released for the first time last year.

It was seen that they had been through plenty of disappointment in their music journey before they became this successful. Although it seemed that the COVID situation was getting better and musicians had hopes to perform live again under the preventative measures, those hopes were turned down due to the Order of Temporary Closure of Premises as new cases and death of COVID were rising once again.

Tilly Birds was one of the musicians who participated in marching to the parliament with Thailand Nightlife and Entertainment Business Association (NEBA) to ask for relief measures to the members of NEBA who got affected by COVID on July 6th, 2021.

At the same time, the band members also used their social media sites to share information about COVID vaccine and call out for efficient vaccines for everybody without any charge. Moreover, a better online educational system and many other issues were being requested in their platforms.

As a good sign of the strong root for the band and other musicians who gave their best out of the songs, the songs Just Being Friendly and Can’t Keep Up that Tilly Birds recently released have become a hit in a short period of time. Despite that reason, these growing birds might have had stronger wings to fly steadily if the government had managed the pandemic situation more efficiently and thoroughly.

New Gen : อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ

ถ้ายังจำกันได้ถึงประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลเมียเดียเมื่อ 3 ปีก่อนของ อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ นักร้องสาวเสียงคุณภาพจากค่าย Smallroom ที่เคยทวีตข้อความอย่างตรงไปตรงมาต่อคุณภาพชีวิต สภาพสังคมและการเมืองโดยรวมของประเทศในทัศนคติ (ที่ ณ ขณะนั้นเธอมีอายุ 19 ปี)

อิมเมจบ่นถึงระบบการขนส่งสาธารณะในประเทศที่ควรที่ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่านี้ เธอยินดีจะทำงานหนัก ยินดีจ่ายภาษีและค่าครองชีพที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ หากว่ามันจะแลกมาด้วยสวัสดิจากรัฐที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำที่ดีกว่านี้

ข้อความของเธอคือเสียงของคนรุ่นใหม่ที่กำลังอัดอั้นต่อปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศที่ดูจะพัฒนาไปอย่างเชื่องช้า

ข้อความอิมเมจในวันนั้นแหลมคมและถูกมองจากคนในสังคม (บางส่วน) ว่าเป็นเสียงของเด็กสาววัย 19 ปี ที่ดูเกรี้ยวกราดและกล่าวโทษบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง (อย่างไม่ค่อยน่ารัก) จนลุกลามเป็นข้อถกเถียงบนโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าศิลปิน-นักร้อง ควรจะมีขอบเขตในการแสดงความคิดเห็นเรื่องสังคมและการเมืองมากหรือน้อยแค่ไหน?

อย่างไรก็ตาม อิมเมจยังคงมีจุดยืนทางสังคมและการเมืองอย่างชัดเจนต่อเนื่องมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ เธอมักจะใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียของตัวเอง โดยเฉพาะ Twitter ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ความรุนแรงของภาครัฐที่มักจะไม่เคารพสิทธิในการแสดงความคิดเห็นขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบบประชาธิปไตย

เช่นเดียวกับในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด อิมเมจได้ใช้พื้นที่ของตัวเองในการตั้งคำถามและเรียกร้องให้ภาครัฐจัดสรรวัคซีนที่ดีให้กับประชาชนทุกคนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ เธอยังปล่อยเพลงที่แต่งด้วยตนเองในชื่อ Break Free ที่มาพร้อมเนื้อหาให้กำลังใจ และคอยช่วยรีทวีตเมนชันที่เข้ามาฝากขายสินค้าต่างๆ ผ่านแอ็กเคานต์ @imageswift13 ที่มีผู้ติดตามใกล้เตะหลักแสน และมันคือแอ็กเคานต์เดียวกันกับที่เคยเกิดดราม่า และผ่านร้อนผ่านหนาวจากแสดงความคิดเห็นบนพื้นที่สาธารณะมาได้อย่างน่าชื่นชม

New Gen: Image Suthita Chanachaisuwan

Three years ago, one message of Image Suthita Chanachaisawan, a talented singer from Smallroom, became the talk of the town on social media. She tweeted a straightforward message of her point of view (when she was 19 years old) about quality of life, society, and politics.

Image complained about Thailand’s transportation which needed to be developed. She stated she was willing to work hard and pay higher tax and cost of living if it could give her a better state welfare that supported her living.

Her tweet was seen as a voice of the new generation who were pressed by the structural problems which seemed to be developed too slowly.

Image’s sharp tweet on that day was perceived by some groups of people as an aggressive voice from a 19-year-old girl who blamed her homeland (disrespectfully). It eventually became an argument on social networks about the farthest line artist-singer could express their social and political points of view.

Nevertheless, Image has always had a clear point of her social and political attitude until now. She often used her personal site, especially Twitter, to state an opinion towards politics, government’s violence that is disrespectful to people’s basic freedom of speech under democracy.

In addition, during the spread of COVID, Image used her personal site to question and call out the government to provide people efficient vaccines without any charge.

Recently, she released an encouraging song called ‘Break Free’ which she wrote it herself. Also, she has been supporting her fans by retweeting the mentioned message in order to help them sell goods via @imageswift13. With almost 100 thousand followers, it was the same account which started the argument and gracefully passed through thick and thin on public space.

New Gen: บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล

บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล นักแสดงหนุ่มที่ทุกคนรู้จักเขาเป็นอย่างดีจากละคร รักฉุดใจนายฉุกเฉิน และซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ อีกทั้งเขายังมีบทบาทเป็นศิลปินที่ออกผลงานเพลงคุณภาพมาแล้วมากมายเช่น กีดกัน (Skyline), หลอกกันทั้งนั้น (Fake News), โคตรพิเศษ ฯลฯ ซึ่งทุกผลงานของเขาต่างได้รับคำชื่นชมจากแฟนคลับชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างล้นหลาม

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างหนัก บิวกิ้นคืออีกหนึ่งศิลปินที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียของตัวเองอย่างอินสตาแกรม @bbillkin ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.9 ล้านคน ในการแบ่งปันข้อมูลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ไม่เพียงเท่านั้น บิวกิ้นยังได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นการเมืองด้วยเช่นกัน โดยหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้มีการประกาศข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามสื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่เป็นเท็จ หรือ Fake News จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน

บิวกิ้นก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทาง IG Story เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว พร้อมแนบลิงก์รายการ THE STANDARD NOW ที่นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับ 6 องค์กรวิชาชีพสื่อจัดงานเสวนาในหัวข้อ หยุดคุกคามเสรีภาพสื่อและประชาชน เพื่อให้แฟนคลับได้ติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้น

“การพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพต้องเริ่มจากการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อย่าปิดหูปิดตาประชาชน น้อมรับการเปิดเผยข้อผิดพลาดและแก้ไข ไม่ใช่ให้ข้อมูลเพียงฝั่งเดียว การทำให้ประชาชนรู้ความจริงไม่ใช่การสร้างเฟกนิวส์ แต่คือจริยธรรมขั้นพื้นฐานของการเป็นผู้นำต่างหาก”

New Generation: Billkin-Putthipong Assaratanakul

Billkin-Putthipong Assaratanakul is a well-known actor from ‘My Ambulance’ and ‘I Told Sunset about You’. He is also a talented singer with plenty of songs such as ‘Skyline’, ‘Fake News’, ‘Kod Pises’, etc. Everything he has done has got a lot of compliments from Thai and international fans.

Among the pandemic crisis which affected people’s lives, Billkin is one of the artists who has used his platform like Instagram @bbillkin which has more than 1.9 million followers to share information and express his opinions towards the current situation.

Moreover, Billkin stated his political opinion after the Royal Thai Government Gazette announced Issued under Section 9 of the Emergency Decree saying that media is prohibited to report fake news which can cause misunderstanding and fear in people.

Billkin posted his opinion via IG story about this issue to his fans with a link attachment of ‘THE STANDARD NOW’ reporting the event where 6 media organizations discussed freedom of the press and people.

“Going forward with efficiency starts from accepting the true problems. Don’t shut people’s ears and eyes. Accept your mistakes and solve them, not only give one-sided information. Telling people the truth is not making fake news, but a basic ethic of the leader.”, said Billkin.

Artist : เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม

เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม หรือ ‘เจเลอร์’ ในวัย 24 ปี แสดงศักยภาพของตนเองอย่างโดดเด่นทั้งด้านงานแสดงและผลงานเพลง จากการดูแลของต้นสังกัด นาดาว บางกอก ขณะเดียวกันในบริบททางสังคมและการเมือง ท่ามกลางสถาณการณ์การระบาดของโรคโควิดที่เต็มไปด้วยปัญหาในหลากหลายมิติ เจเจเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงรุ่นใหม่ที่ใช้ ‘เสียง’ ผ่านพื้นที่โซเชียลมีเดียของตนเอง ในการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของภาครัฐได้อย่างทรงพลัง

เจเจเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ออกมาเรียกร้องการเข้าถึงวัควีน mRNA ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชน พร้อมๆ ที่เป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องภาครัฐต่อมาตรการการป้องกัน การรักษา การช่วยเหลือและเยียวยาให้กับประชาชน

ไม่นานมานี้ เจเจเพิ่งโพสต์แสดงความคิดเห็นทางแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว @JJksnp ถึงการแก้ไขปัญหาที่ล้มเหลวของภาครัฐ ความไม่รับผิดชอบต่อการบริหารจัดการอันล้มเหลวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด แล้วโยนความรับผิดชอบไปให้กับประชาชน รวมไปถึงความพยายามที่จะปิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ซึ่งเจเจมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยมีรายละเอียดทั้งหมดว่า

“ไม่เคยโทษตัวเอง ไม่เคยแก้ไข ไม่เคยฟัง ไม่เคยทำสิ่งที่พูดไว้กับประชาชนได้ เอะอะปิดปากอย่างเดียว ยิ่งทำแบบนี้ความจริงยิ่งออกมามากกว่าเดิมอีกครับ หัดแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเถอะครับ อย่ามาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้วโยนทุกอย่างให้เป็นความผิดประชาชนเถอะครับ”

ข้อความดังกล่าวถูกรีทวีตไปมากกว่า 7 หมื่นครั้งในเวลาไม่นาน อีกทั้งยังถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ทำให้แฟนคลับต่างชาติเริ่มให้ความสนใจและพูดคุยถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยได้อย่างกว้างไกลยิ่งขึ้น

สำคัญที่สุด เสียงตอบรับด้านบวกทั้งจากแฟนคลับและเพื่อนร่วมวงการจำนวนมากที่มีต่อการแสดงความคิดเห็นของเจเจ พิสูจน์ให้เห็นว่าการพูดเรื่องการเมืองและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของภาครัฐเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และควรเกิดขึ้นเป็นปกติในสังคมประชาธิปไตย

Artist: Jaylerr Kritsanapoom Pibulsonggram

JJ Kritsanapoom Pibulsonggram or Jaylerr, a 24-year-old entertainer, has shown his outstanding talent in acting and singing under the management of Nadao Bangkok. While the social and political problems rose in the middle of COVID pandemic, JJ was one of the new generation entertainers who spoke his ‘voice’ to criticise the government strongly in his social media platform.

JJ was one of the entertainers who called out mRNA vaccines for medical workers and Thai people. Also, he was a voice to call out proper vigilant measures, treatment, and relief for people.

JJ has recently posted his opinion in his personal Twitter account @JJksnp talking about the failure of the government’s management, the irresponsibility to their failed pandemic management, and the effort to shut people’s criticism. He perceived it as not solving problems at its root with his statement that

“You never blame yourselves, never change, never listen, never do what you have promised to us. Keep shutting people up. The more you do this, the more truths are appearing. Try solving problems at the roots. Don’t solve only the symptom and then blame all the faults on people.”

This tweet has been retweeted more than 70 thousand times in a short period. It was translated in foreign language and attracted international fans to widerly talk about what is happening in Thailand.

Most importantly, there was a lot of positive feedback from his fans and colleagues towards his opinions. It was proved that talking politics and criticising the government are normal and it should be normalized in the society of democracy.

บทความที่เกี่ยวข้อง: