ทันทีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ระงับการเข้าถึงหน้าเว็บไซต์และเนื้อหาต่างๆ บนแพลตฟอร์มของ ‘Pornhub’ ในประเทศไทย เมื่อช่วงหัวค่ำวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ‘เป็นคำสั่งศาล’ ที่ให้มีการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บลามกอนาจารจำนวน 191 URLs ที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก (ครอบคลุมถึงเว็บไซต์การพนัน 2,000 เว็บไซต์)

ดูเหมือนว่ากระแสต่อต้านที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลมีเดียจะลุกลามและจุดติดอย่างรวดเร็วในวงกว้าง จนเกิดเป็นแฮชแท็กต่างๆ เช่น #หยุดจ้วบจ้าบพรฮับ #SavePornhub กระทั่งนำไปสู่การปลุกเร้าจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองในวันนี้ (3 พฤศจิกายน) โดยให้เหตุผลว่า การกระทำดังกล่าวของดีอีเอส ถือเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเข้าถึงสื่อ

THE STANDARD ชวนคุณมาทำความรู้จัก Pornhub ในมิติที่ต่างออกไป ว่าจุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่รายนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมมันถึงได้รับความนิยมในวงกว้าง จนมียอดเข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 4.2 หมื่นล้านครั้งในปี 2019 ที่ผ่านมา รวมถึงสะท้อนปรากฏการณ์ ‘เหรียญสองด้าน’ จากเหยื่อผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากแพลตฟอร์มนี้

ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มสตรีมมิงคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ที่นำ ‘นวัตกรรม’ และ AI มาประยุกต์ใช้งานต่อเนื่อง

ย้อนกลับไปในวันที่ 25 พฤษภาคม 2007 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว แมตต์ คีเซอร์ หนึ่งในนักธุรกิจผู้ร่วมก่อตั้งค่ายผู้ผลิตคอนเทนต์ผู้ใหญ่สัญชาติแคนาดาชื่อดัง Brazzers (Brazzers ก่อตั้งก่อนในปี 2005) ได้เริ่มต้นเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม Pornhub ขึ้นมาเป็นครั้งแรก 

จุดประสงค์การเปิดแพลตฟอร์ม Pornhub ก็ตรงตามชื่อของตัวเว็บไซต์เลย นั่นคือการตั้งตัวเป็นศูนย์กลางรวบรวมคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่จำนวนมากบนแพลตฟอร์ม ซึ่งพวกเขาได้จดทะเบียนบริษัทตั้งสำนักงานใหญ่และเซิร์ฟเวอร์ในลิมาโซล เมืองในไซปรัส และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยมียอดผู้คลิกเข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทันทีที่ตัวเว็บถูกเปิดให้เข้าถึงอย่างเป็นทางการแค่เพียง 7 เดือนเท่านั้น

เรื่องเล่าที่น่าสนใจก็คือ ก่อนหน้าที่เว็บไซต์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2007 คีเซอร์ได้ติดต่อขอซื้อโดเมนเว็บไซต์ Pornhub.com จากบุคคลที่ไม่ประสงค์จะออกนามที่พบกันในงานสังสรรค์ที่จัดขึ้นที่ Playboy Mansion มาในราคาแค่ 2,750 ดอลลาร์ หรือ 85,000 บาทในปี 2006 

ก่อนที่มูลค่าโดเมนของ Pornhub จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,920 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 90,700 ล้านบาท จากการประเมินของเว็บไซต์ worthofweb ซึ่งคำนวณจากทราฟฟิกยอดผู้คลิกเข้าชมเว็บไซต์ นั่นหมายความว่าในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา มูลค่าชื่อโดเมน Pornhub นั้นปรับตัวขึ้นสูงกว่า 1.06 ล้านเท่าเลยทีเดียว

*หมายเหตุ: การประเมินมูลค่าโดยเว็บไซต์ worthofweb อาจไม่สามารถชี้วัดมูลค่าโดเมนเว็บไซต์ของ Pornhub ได้อย่างแม่นยำ เพราะยังมีมิติอื่นๆ ที่มากกว่าแค่ทราฟฟิกคนเข้าชมเว็บที่จะต้องนำมาใช้ประกอบในการคำนวณ 

ทั้งนี้ ในปี 2010 MindGeek บริษัทจากแคนาดาที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ ได้เข้ามาซื้อบริษัท ส่งผลให้ Pornhub กลายเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของพวกเขา เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอย่าง RedTube, YouPorn, ค่ายผู้ผลิตหนังผู้ใหญ่ Brazzers, Digital Playground, Men.com, WhyNotBi.com, Reality Kings, และ Sean Cody เป็นต้น 

ซึ่งนอกจากจะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่โดยตรง MindGeek ยังให้บริการโซลูชันมาร์เก็ตติ้งด้านออนไลน์ให้กับบริษัทต่างๆ อีกด้วย เช่น SEARCH ENGINE MARKETING, AD PLATFORM ดู SEO เป็นต้น

ครั้งหนึ่ง คอรีย์ ไพรซ์ (Corey Price) รองประธาน Pornhub เคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Benzinga ในปี 2017 เอาไว้ว่า หนึ่งในสาเหตุที่แพลตฟอร์มของพวกเขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากการที่เว็บไซต์ Pornhub ถือกำเนิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่านพฤติกรรมผู้บริโภคจากการเสพสื่อแบบ Traditional Media มาเสพคอนเทนต์ออนไลน์บนโลกดิจิทัลมากขึ้น นั่นจึงส่งผลให้แพลตฟอร์มสตรีมคอนเทนท์วิดีโอที่สามารถรับชมได้อย่างรวดเร็วแค่ปลายนิ้วสัมผัสฮิตติดลมบน

นอกจากนี้ Pornhub ยังได้นำแมชชีนเลิร์นนิงและ AI เข้ามาศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้งานเพื่อ Personalized คอนเทนต์ให้ตรงกับความชื่นชอบของผู้ใช้งานแต่ละคนอีกด้วย (Pornhub มี Data ผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลทั่วโลก ที่ในแต่ละปีสามารถสรุปข้อมูลออกมาเป็น Year in Review (ทำมาตั้งแต่ปี 2012))

รวมถึงยังให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาต่อยอดคอนเทนต์อยู่ตลอดเวลา เช่น การเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่รายแรกๆ ในอุตสาหกรรมที่พัฒนาคอนเทนต์แบบ ‘VR (Virtual Reality)’ ขึ้นมา 

โดยในปี 2017 พวกเขายังได้นำ AI และคอมพิวเตอร์วิชันมาช่วยประมวลผลปักป้ายแคปชันคำอธิบายท่าทางการร่วมรักต่างๆ ในแต่ละช่วงวินาทีของคอนเทนต์อีกด้วย ซึ่งทาง คอรีย์ ไพรซ์ เคยบอกไว้ว่า ในปี 2018 เขาจะใช้เทคโนโลยีทั้งหมดสแกนคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มและปักแคปชันต่างๆ ให้ได้อย่างแม่นยำเพื่อประโยชน์กับคนดู ซึ่งเป็นวิธีการคิดแบบ ‘Customer Centric’ ในการตั้งผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาฟีเจอร์และนวัตกรรมต่างๆ

อีกจุดเด่นที่ทำให้แพลตฟอร์ม Pornhub เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมากคือ การเปิดให้คนดูสามารถผันตัวเองมาเป็น UGC (User Generated Content) ผลิตคอนเทนต์ได้ด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่า ‘Pornhubber’ 

ตลอดจนการผุดโมเดลธุรกิจในแบบ ‘Subscription’ หรือที่เรียกว่า ‘Pornhub Premiums’ ไม่ต่างจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงคอนเทนต์ระดับโลกอย่าง Netflix โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกปี 2015 สนนค่าสมัครใช้บริการต่อเดือนอยู่ที่ 9.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 310 บาท และรายปี 7.99 ดอลลาร์ หรือ 250 บาท (ทั้งปีประมาณ 2,980 บาท) แลกกับสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ออริจินัลที่ Pornhub ผลิตขึ้นมาเองได้ตามต้องการ ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมไฟล์ได้ด้วยความคมชัดสูง

อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัจจุบัน Pornhub ดำเนินธุรกิจในลักษณะบริษัทเอกชนที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พวกเขาจึงไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดตัวเลขผลการดำเนินงานแต่อย่างใด แต่มีการเปิดเผยว่าพวกเขามีสมาชิกผู้ใช้งาน Pornhub ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านรายแล้ว

ไทยเป็นประเทศอันดับ 17 ของโลกที่เข้าชมเว็บไซต์ Pornhub สูงที่สุด!

จากการเปิดเผยข้อมูล Pornhub Year in Review ในปี 2019 ที่ผ่านมาโดย Pornhun ที่ดำเนินการเก็บข้อมูลจากคลัง Big Data ขนาดมหาศาล และพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์ของพวกเขา พบว่า ตลอดปี 2019 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ Pornhub มากกว่า 4.2 หมื่นล้านครั้ง คิดเป็นจำนวนเฉลี่ยที่ 115 ล้านครั้งต่อวัน และมีวิดีโอถูกอัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มมากถึง 6.83 ล้านชิ้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบใน 1 นาทีจะพบว่า มีผู้เข้าใช้งาน Pornhub สูงถึง 80,032 รายเลยทีเดียว

โดย ‘ไทย’ ถือเป็นประเทศในลำดับที่ 17 ของโลกที่มีทราฟฟิกการเข้าใช้งานเว็บไซต์สูงสุด (New Entry ที่ติดโผเข้ามาในปีแรก) ขยับขึ้นจากอันดับ 23 ในปี 2018 และมีระยะเวลาการใช้งานบนเว็บไซต์เฉลี่ยที่ราว 11 นาที 21 วินาที มากกว่าเวลาเฉลี่ยของผู้ใช้งานทั่วโลกที่มีระยะเวลาเฉลี่ยการอยู่บนหน้าเว็บไซต์ที่ราว 10 นาที 28 วินาที

ซึ่งผู้ใช้งานในไทยในสัดส่วนกว่า 65% เป็นผู้ชาย อีก 35% เป็นผู้หญิง (สัดส่วนการชมของผู้หญิงสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 32%) หากแบ่งตามช่วงวัยจะพบว่า ในสัดส่วน 65% เป็นผู้ใช้งานช่วงอายุ 18-34 ปี

โดยหนึ่งในหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันคือ การที่ทราฟฟิกผู้ใช้งานเว็บไซต์ Pornhub กว่า 76% มาจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเป็นหลัก (ในไทยสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 85%)

‘เหรียญย่อมมีสองด้าน’ เมื่อ Pornhub สร้างผลกระทบเชิงลบและความเสียหายต่อ ‘เหยื่อ’ จำนวนไม่น้อย

ใช่ว่าจะมีแต่ด้านบวกเท่านั้น เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์สำหรับผู้ใหญ่ และในหลายๆ ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) แพลตฟอร์มของพวกเขาก็ไม่ได้ให้บริการอย่างถูกกฎหมาย ดังนั้น Pornhub จึงต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความถูกต้องและศีลธรรมในการดำเนินธุรกิจอยู่พอสมควร

นอกจากนี้ยังมีประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ ความหละหลวมของแพลตฟอร์มในการดูแล ‘เหยื่อ’ ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งถูกเผยแพร่เนื้อหาโดยไม่ได้รับความยินยอมเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย (ถึงแม้ว่า Pornhub จะยืนยันว่า พวกเขามีมาตรการจัดการกับคอนเทนต์ที่ถูกเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของก็ตาม)

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา BBC เคยเผยแพร่กรณีของ โรส คาเลมบา ผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากเว็บไซต์ Pornhub โดยตรง ซึ่งเธอเคยตกเป็นเหยื่อจากการข่มขืนในปี 2014 และถูกอัปโหลดวิดีโอที่ปรากฏใบหน้าของเธอขึ้นไปยังเว็บไซต์ Pornhub 

คาเลมบา ให้สัมภาษณ์ว่า เธอได้ส่งอีเมลวิงวอนให้ Pornhub ลบวิดีโอดังกล่าวอยู่หลายต่อหลายฉบับ แต่ไม่มีการตอบกลับใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจปรึกษาทีมกฎหมายและส่งอีเมลกลับไปอีกครั้งว่า จะดำเนินการฟ้องร้อง กระทั่งในที่สุด วิดีโอดังกล่าวจะถูกลบออกจากแพลตฟอร์มในอีก 48 ชั่วโมงให้หลัง

ซึ่งคาเลมบาชี้ว่า การดำเนินการจัดการกับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Pornhub นั้นเต็มไปด้วย ‘ความล่าช้า’ เพราะกว่าที่วิดีโอที่ปรากฏใบหน้าของเธอจะถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม ก็มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยที่ดาวน์โหลดวิดีโอดังกล่าวเก็บไว้บนดีไวซ์ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยช่องโหว่สำคัญของ Pornhub คือการที่พวกเขาเปิดให้ผู้ใช้งาน (ใครก็ได้) ที่มาสมัครเป็นสมาชิกบนแพลตฟอร์มสามารถอัปโหลดคอนเทนต์ใดๆ ก็ตามขึ้นบนระบบได้อย่างอิสระ ปราศจากซึ่งระบบการยืนยันตัวตน ดังเช่นที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกรายล้วนแล้วแต่ปฏิบัติกัน เพื่อความปลอดภัยของแพลตฟอร์มและข้อมูลผู้ใช้งาน 

ต่อกรณีนี้ โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย และหนึ่งในเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากแพลตฟอร์ม Pornhub ได้แสดงความเห็นผ่าน Facebook ส่วนตัวของเธอ (Bow Nuttaa Mahattana) โดยระบุว่า Pornhub เป็นแพลตฟอร์มที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่มีการยืนยันตัวบุคคล ส่งผลให้ใครก็สามารถอัปโหลดคอนเทนต์อะไรขึ้นไปก็ได้โดยไม่ต้องรับผลจากการกระทำ

ขณะที่ตัวผู้เสียหายไม่สามารถรีพอร์ตแจ้งลบคอนเทนต์ได้จริง ต่างจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับการยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน และการคัดกรองเนื้อหาเป็นอย่างมาก

“Pornhub เป็นเว็บที่ผิดกฎหมายไทยอยู่แล้ว แต่ที่หลายคนไม่ทราบคือ เป็นแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ที่กำลังมีการเคลื่อนไหวในอเมริกาให้ปิดและเอาผิดทางกฎหมายกับบริษัทที่เป็นเจ้าของ ในฐานะผู้ดูแลระบบที่มีข้อบกพร่องมากจนเอื้อให้เกิดการละเมิดโดยผู้กระทำลอยนวล เพราะไม่สามารถสืบค้นตัวตนได้ มีผู้เข้าร่วมแคมเปญทั่วโลกนับล้าน อย่าเห็นแก่ความสะใจทางการเมือง จนสนับสนุนกิจการแบบนี้กันเลยค่ะ 

“เหยื่อที่ได้รับผลกระทบมีทั่วโลก อายุน้อยสุดคือ 3 ขวบ มีทั้งผู้หญิงที่ถูกข่มขืน คนถูกแอบถ่าย เผยแพร่โดยไม่ยินยอม และละเมิดลิขสิทธิ์หนัง เจ้าของเว็บได้เงินจากสิ่งเหล่านี้ผ่านระบบที่ไร้การคัดกรอง ไม่มีระบบการยืนยันตัวตนผู้อัพโหลดคลิป จึงไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ การรายงานการกระทำความผิดและการอ้อนวอนจากเหยื่อไม่ได้รับการตอบสนองอย่างทันท่วงที มีเหยื่อที่เฝ้ารอจนต้องขู่ฟ้องจึงยอมลบ ที่เหลืออีกมากมายมารู้ตัวเมื่อเวลาผ่านไปนานจนคนที่โรงเรียนไปเจอเข้า ทำลายชีวิตคนมากมายและหลายรายฆ่าตัวตาย

“ส่วนคนที่พยายามปกป้องเว็บนี้ และถามว่าโบว์รู้เรื่องได้อย่างไร โบว์เป็นหนึ่งในเหยื่อและเป็นหนึ่งในเคสที่ทีมทำคดีที่สหรัฐฯ รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดี หนึ่งในข้อมูลที่ต้องเก็บคือ การพยายามรีพอร์ตและผลการรีพอร์ตค่ะ มันแสดงชัดเจนว่า เหยื่อไม่สามารถได้รับความคุ้มครองอะไรได้เลย อาชญากรทุกคนจะลอยนวลและสามารถรีโพสต์ตลอดเวลา ณ เวลาที่เรารีพอร์ต​ ระบบไม่ยอมให้ผ่านไปถึงขั้นตอนการรายงานจริงด้วยซ้ำ สุดท้าย​เราต้องใช้วิธีอีเมลและไม่ได้รับคำตอบ​ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นและยังดำรงอยู่ในปีนี้​ ทุกวันนี้คนเหล่านั้นยังกระทำได้ซ้ำๆ อย่างลอยนวล​ 

“นั่นหมายความว่า ใครจะอัปโหลดอะไรก็ได้โดยระบบไร้การคัดกรองและการระบุตัวตนผู้กระทำโดยสิ้นเชิง แต่ความเสียหายต่อเหยื่อเกิด ณ วินาทีที่คลิปถูกโหลด และจะถูกทำซ้ำวนเวียนอยู่บนอินเทอร์เน็ตไปตลอดชีวิต​ อันที่จริงจากเคสล่าสุดที่หลายคนสะใจ​จนโกรธ​ที่มีการปิดระบบ ก็คือหลักฐานในตัวเองว่า การกระทำผิดอย่างง่ายดายและลอยนวลยังคงเกิดขึ้นได้จริงในแพลตฟอร์ม​ที่จงใจอำนวยความสะดวกไว้มากมายสำหรับอาชญากรรม​ที่รุนแรง​ที่ทุกคนสามารถ​เป็นเหยื่อได้ทุกเมื่อ​

“สำหรับใครที่ไม่เข้าใจประเด็นทางเทคโนโลยีแล้วบอกว่า ต้องแบนเฟซบุ๊ก ยูทูบด้วยไหม ต่างกันมากค่ะ แพลตฟอร์มที่แพร่หลายอื่นๆ จะมีระบบคัดกรองและระบุตัวตน เพื่อเอามาลงโทษได้เข้มงวดกว่า เฟซบุ๊กมีระบบที่มีความรับผิดชอบสูงกว่ามาก ทั้งที่ไม่ใช่ธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงกับการประกอบอาชญากรรมชัดเจนเท่า แต่ขนาดพยายามมากแล้ว เฟซบุ๊กก็ยังถูกตั้งคำถามโหดๆ มากมายจากคองเกรส เพราะทุกการกระทำต้องมีผู้รับผิดชอบ สังคมต้องได้รับการปกป้องจากอาชญากร ยิ่งเป็นเว็บอนาจารก็ยิ่งควรต้องเพิ่มความรับผิดชอบและมาตรฐานความปลอดภัย ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ 

“สุดท้ายที่ไม่อยากให้ลืมคือ อาชญากรรมนั้นทำกับใครก็ผิด และไม่มีอะไรให้น่าสะใจ​ ส่วนที่รัฐจะเลือกตอบสนองเป็นเรื่องๆ นั้นเป็นอีกประเด็น​ที่ติเตียนและเรียกร้องมาตรฐานกันได้​ แต่ไม่ใช่จะให้เก็บสิ่งผิดกฎหมายไว้เพื่อจะได้เป็นช่องทางให้ละเมิดใครก็ได้ตามอำเภอใจอย่างไร้ความรับผิดชอบแบบที่เป็นอยู่​ค่ะ”

ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า มีทั้งผู้ที่ได้รับประโยชน์ และ ‘ความเสียหาย’ จากแพลตฟอร์มของ Pornhub ในเวลาเดียวกัน และถือเป็นจุดตัดสำคัญที่ทำให้เรามองประเด็นที่เกิดขึ้นได้ในหลากหลายมิติ ทั้งในเชิงการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหยื่อผู้ถูกกระทำ และการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของพลเมืองในการเข้าถึงสื่อด้วยตัวเอง

สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่นำไปสู่การตั้งคำถามว่า รัฐควรจะดำเนินการเช่นไรในฐานะผู้กำหนดและควบคุมกฎหมาย ขณะที่แพลตฟอร์มอย่าง Pornhub ควรจะมีมาตรการการดูแลความปลอดภัย รับผิดชอบต่อสิทธิเสรีภาพของเหยื่อผู้ถูกกระทำได้ดีกว่านี้หรือไม่ (ด้วยความเข้มงวดในการเพิ่มขั้นตอนการระบุตัวตน)

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://www.pornhub.com/press
• https://www.pornhub.com/insights/2019-year-in-review 
• https://www.worthofweb.com/website-value/pornhub.com/
• https://www.benzinga.com/top-stories/17/03/9208896/10-years-of-pornhub-vp-talks-new-markets-philanthropy-and-creating-origina?utm_campaign=partner_feed&utm_source=yahooFinance&utm_medium=partner_feed&utm_content=site 
• https://www.worthofweb.com/website-value/pornhub.com/ 
• https://www.bbc.com/news/stories-51391981
• https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10157941274255819&id=575635818&sfnsn=mo