จากนักแสดงรุ่นใหม่ที่ดูเก้ๆ กังๆ ในบทนักร้องนำคนใหม่ของวง See Scape จากซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น ซีซัน 2 และ 3 ที่ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ถึงกับเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่านับเป็น ‘บาดแผล’ ในการแสดงของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเจมส์ก็พัฒนาตัวเองและพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาคือหนึ่งในนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีความสามารถมากที่สุดในวงการบันเทิงไทย
เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2540 ที่กรุงเทพมหานคร เริ่มก้าวเข้าสู่วงการครั้งแรกจากการออดิชันในโครงการ Hormones The Next Gen ของค่าย GTH และได้รับเลือกให้มาสวมบทซัน หนุ่ม ม.ปลาย ที่กำลังค้นหาตัวเองจนต้องพบกับเรื่องราวสุดดาร์กมากมาย ซึ่งในตอนนั้นเจมส์คือนักแสดงที่โดดเด่นด้วยหน้าตาที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแสดง แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่พอใจกับผลงานที่ออกมาเท่าไรนัก แต่เจมส์ก็ไม่เคยยอมแพ้ รีบพัฒนาตัวเองเพื่อทำลายทุกข้อจำกัดผ่านผลงานอย่าง STAY ซากะ.. ฉันจะคิดถึงเธอ (2558), Love Songs Love Series ตอน พรหมลิขิต (2559)
จนมาถึงปี 2560 ที่เจมส์ปลดล็อกทุกข้อสงสัยด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซอย่างการรับบทเป็น บู เด็กหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจาก Project S The Series ตอน S.O.S skate ซึม ซ่าส์ ที่เขาหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับตัวละครได้อย่างน่าทึ่ง รวมทั้งอีกหนึ่งบทบาทที่พลิกไปอีกขั้วหนึ่งกับบท พัฒน์ หนุ่มเพลย์บอยบ้านรวยจาก ฉลาดเกมส์โกง ที่สุดท้ายกลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังในระดับโลก
หลังจากนั้นเจมส์ได้ทิ้งชื่อ ‘นักแสดงหน้าใหม่’ กลายเป็น ‘นักแสดงคุณภาพ’ ที่ไม่มีใครสงสัยในฝีมือ ทั้งจากบท เวกัส เด็กเนิร์ดที่กุมความลับสำคัญในซีรีส์ เลือดข้นคนจาง (2561) และ มิน เด็กมีปัญหาที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายในภาพยนตร์เรื่อง Homestay (2561) และบท เลิฟ ที่เขาต้องสวมจริตจะก้านของความเป็น ‘เด็กผู้หญิง’ ในซีรีส์ Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ ที่ตอกย้ำว่าไม่มีบทไหนยากเกินความสามารถของเขาจริงๆ
นอกจากนี้เจมส์ยังมีอีกหนึ่งบทบาทในฐานะลีดเดอร์ของโปรเจกต์พัฒนาศิลปิน 9 x 9 ของ 4NOLOGUE และการกระโดดเข้าสู่การเป็นศิลปินเต็มตัวในฐานะสมาชิกวง Trinity ที่กำลังมาแรงแบบสุดๆ
รวมทั้งทัศนคติในการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ มีเซนส์ด้านแฟชั่นที่จัดจ้าน หาตัวจับยาก จนทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองเปิดกว้างที่ว่า แฟชั่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่การใช้เครื่องสำอางไม่ควรถูกจำกัด ทุกคนสามารถเลือกทำตามความชอบของตัวเองได้อย่างอิสระตราบเท่าที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กรอบเรื่องเพศหรืออะไรก็ตาม