ครั้งสุดท้ายที่โป๊ปเดินทางเยือนชิลีอย่างเป็นทางการคือปี 1987 ถึงแม้ว่าประเทศขณะนั้นจะยังอยู่ภายใต้ระบอบทหาร แต่ก็ต้อนรับประมุขของศาสนจักรด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ในขณะที่โป๊ปฟรานซิส พระสันตะปาปาพระองค์แรกจากทวีปลาตินอเมริกาที่เริ่มต้นปี 2018 ด้วยกำหนดการเดินทางเยือนชิลีอย่างเป็นทางการ กลับต้องเผชิญกับวิกฤตแรงศรัทธาครั้งใหญ่ของชาวคริสต์ในชิลี
ก่อนหน้าที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรพระองค์ใหม่เมื่อปี 2013 พระองค์เคยปฏิญาณไว้ว่า จะไม่อดทนต่อการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นภายในศาสนจักร พร้อมจัดตั้งหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่สืบสวนกรณีข่าวอื้อฉาวต่างๆ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเข้าร่วมการสืบสวนนั้นด้วย นับเป็นความหวังครั้งสำคัญของคริสตจักรในช่วงเวลานั้น
แต่ 5 ปีต่อมา เรื่องราวอื้อฉาวและการล่วงละเมิดทางเพศภายในคริสตจักรยังคงดำเนินมาอยู่อย่างต่อเนื่อง ชาวชิลีจำนวนมากจึงประท้วงการเสด็จเยือนชิลีอย่างเป็นทางการของโป๊ปฟรานซิสในครั้งนี้ ด้านซิลวานา กอนซาเลซ (Silvana Gonzalez) หนึ่งในผู้ชุมนุมประท้วงระบุว่า “พวกเราไม่มีความสุขเลยที่จะต้องต้อนรับเขา เพราะเขาพูดอีกอย่างแต่กลับทำอีกอย่าง ศาสนจักรยังคงเต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว และโป๊ปก็ยังคงให้รางวัลแก่กลุ่มคนทำผิด
“เรามีพระคาดินัลแอร์ราซูลิส และพระคาดินัลจอร์จ พอล นักบวชที่ประพฤติเรื่องอื้อฉาวในซิดนีย์ ออสเตรเลีย ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาทั้ง 8 ของพระสันตะปาปา นอกจากนี้ริการ์โด เอสซาติ อาร์กบิชอพแห่งซานติอาโกก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระคาดินัลด้วยเช่นกัน แม้ว่าเขาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงเรื่องอื้อฉาวต่างๆ มากมายก็ตาม”
ฆาเบียร์ เปรัลตา (Javier Peralta) หัวหน้าผู้ถวายการต้อนรับพระสันตะปาปาเผยว่า “ในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะชิลี หนึ่งในประเทศที่ถือว่าสูญเสียศรัทธาในตัวศาสนจักรมากที่สุดในลาตินอเมริกา ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศภายในศาสนจักรเป็นประเด็นปัญหาสำคัญมาโดยตลอด การเดินทางเยือนชิลีและเปรูของโป๊ปในครั้งนี้คือโอกาสสำคัญที่จะได้ทวงถามถึงปัญหาเหล่านี้ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข”
ในขณะที่โป๊ปเองก็เผยว่า พระองค์รู้สึกเจ็บปวดและขายหน้า ที่ปัญหาเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นและดำเนินอยู่ในศาสนจักรของชิลี อีกทั้งยังขอให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทุกคนให้อภัยกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวขอโทษที่ยังคงแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปไม่ได้เสียที
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่
Photo: AFP
อ้างอิง:
