คงไม่มีใครไม่รู้จักนิทานพื้นบ้านในตำนานอย่างซินเดอเรลล่าที่ถูกดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเวอร์ชัน และสำหรับ A Cinderella Story ซึ่งเข้าฉายครั้งแรกวันนี้เมื่อ 17 ปีก่อนก็นับเป็นภาพยนตร์ซินเดอเรลล่าอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกผู้คนจดจำและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน แม้ตัวหนังจะโดนนักวิจารณ์เฉ่งยับก็ตามที
A Cinderella Story กำกับโดย มาร์ก โรสแมน ส่วนบทภาพยนตร์เขียนโดย ลีห์ ดันแลป ด้านเนื้อหาแทบไม่มีอะไรต่างจากซินเดอเรลล่าฉบับนิทานหรือการ์ตูนที่เราเคยดูสมัยเด็กๆ แต่ความน่าสนใจของมันคือการนำโครงเรื่องซินเดอเรลล่ามาดัดแปลงใหม่ให้มีความทันยุคทันสมัย อารมณ์ประมาณ Romeo + Juliet (1996) ของผู้กำกับ บาซ เลอห์มานน์ ที่หยิบเรื่องราวความรักของโรมิโอและจูเลียตมานำเสนอใหม่ในบริบทที่รายล้อมด้วยป๊อปคัลเจอร์ต่างๆ
โดยตัวหนังเล่าถึงชีวิตของแซม (รับบทโดย ฮิลารี ดัฟฟ์) สาวไฮสคูลปีสุดท้ายที่สูญเสียคุณพ่อผู้เปรียบเสมือนโลกทั้งใบของเธอไปตั้งแต่ยังเด็กและต้องทนใช้ชีวิตภายใต้การกดขี่ข่มเหงของแม่เลี้ยงและสองพี่สาวตัวแสบ แซมแอบรักหนุ่มนิรนามบนโลกอินเทอร์เน็ตที่แชตคุยกัน ซึ่งต่อมาได้เปิดเผยตัวตนเป็นออสติน (รับบทโดย แชด เมอร์เรย์) หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนที่มีความมุ่งมั่นจะเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดียวกับเธอ
A Cinderella Story โดนนักวิจารณ์ปู้ยี้ปู้ยำด้วยวาจาแบบเละเทะ บ้างก็ว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่โง่เง่าและห่วยบรมที่ค่าย Warner Bros. ยอมเสียเงินสร้างเพื่อดึงความสนใจกลุ่มคนดูวัยเด็ก บ้างก็ว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่นำนิทานสุดคลาสสิกมาดัดแปลงใหม่แบบไร้แรงบันดาลใจ แต่กระนั้นมันก็ยังสามารถทำเงินทั่วโลกไปได้ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาพ: Warner Bros.
