“เราชงกาแฟมา 8 ปี ชงที่ไทย 2 ปี เมลเบิร์นอีก 6 ปี ตอนแรกก็อยากชงกาแฟเพราะเท่แหละ ลาออกจากงานแอนิเมเตอร์มาชงกาแฟเลย” พูนนี่-รัชนนท์ เทพบุตร บาริสต้าหนุ่มหน้ามนคนคูลประจำร้าน POONYPOONYCAFE เล่าให้ฟังพร้อมกับรอยยิ้ม
พูนนี่อยู่ในช่วงพักร้อนก่อนจะกลับไปต่อสัญญางานใหม่ที่เมลเบิร์น แต่โควิด-19 ทำให้เขาบินกลับไปไม่ได้ เลยสร้างคาเฟ่สไตล์เมลเบิร์นเองที่ไทยเสียเลย
บรรยากาศร้าน
The Vibes:
POONYPOONYCOFFEE เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ในบ้านหลังสุดซอยที่อาจจะหายากสักเล็กน้อย แต่เมื่อคุณหาเจอแล้ว ร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้อาจจะกลายเป็นร้านกาแฟร้านประจำของคุณไปเลยก็ได้ พูนนี่เล่าให้ฟังว่า เขาใช้เวลาจัดแจงร้านเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่าของแม่ที่สะสมไว้และเครื่องชงกาแฟต่างๆ ที่ยืมมาจากเพื่อน ในร้านจะมีที่นั่งบริเวณเคาน์เตอร์ที่คุณสามารถนั่งคุยกับพูนนี่ได้ หรือถ้าอยากนั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัวหน่อยก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้อยู่ 4-5 ชุด
บรรยากาศร้าน
นอกจากการชงกาแฟ บางครั้งคุณจะได้เห็นพูนนี่วิ่งออกไปข้างนอกร้านแล้วปีนบันไดเล็กๆ ริมรั้ว เพื่อส่งกาแฟให้กับลูกค้าที่อยู่อีกฟากของกำแพง เพราะร้านกาแฟแห่งนี้อยู่ท้ายซอยที่ติดกับตึกสำนักงานที่ตั้งอยู่อีกซอย พนักงานในตึกจึงโทรมาสั่งกาแฟและมารับที่ริมกำแพงบ่อยๆ เป็นอีกหนึ่งภาพแปลกตาเมื่อคุณมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้
Filter Coffee (100+ บาท) และ Latte (90-95 บาท)
The Drinks:
พูนนี่รับบทบาริสต้าหนุ่มหน้ามนประจำร้าน เมนูเครื่องดื่มของที่ร้านเป็นเมนูแบบคาเฟ่ที่ออสเตรเลีย แม้แต่เมล็ดกาแฟก็คั่วด้วยเมลเบิร์นโพรไฟล์ที่ใช้อุณหภูมิไม่สูงมาก แต่ใช้เวลานาน ทำให้เมล็ดกาแฟสุกตั้งแต่ข้างนอกไปจนถึงข้างใน เนื้อนิ่ม และสีเท่ากันทุกเมล็ด รสชาติจะไม่เข้มและไม่ขมจนเกินไป พูนนี่แนะนำให้ลอง Filter Coffee (100+ บาท) วันที่เราไปเราได้เจอกับ CM Blends ที่คั่วจาก Terroir Lab เมล็ดกาแฟเอธิโอเปียผสมกับเมล็ดกาแฟบราซิลที่ผ่านการทำ Carbonic Maceration หรือการดูดคาร์บอนออกจากเมล็ดกาแฟ คาแรกเตอร์ของเมล็ดกาแฟที่นี่จึงไม่เหมือนที่อื่น แม้เมล็ดกาแฟตัวนี้จะทำมาเพื่อชงกับเครื่อง แต่เมื่อนำมาดริปแล้วก็จะได้คาแรกเตอร์ที่ชัดเจน มีกลิ่นหอมผลไม้อ่อนๆ คล้ายลูกอมรสองุ่น บวกกับคาแรกเตอร์ถั่วๆ ของเมล็ดกาแฟบราซิล ทำให้กลิ่นและรสของกาแฟแก้วนี้มีความคล้ายพีนัตบัตเตอร์เจลลี่มากทีเดียว
อีกหนึ่งเมนูเบสิก Latte (90-95 บาท) ลาเต้ที่นี่จะเสิร์ฟแบบเข้มๆ แน่นๆ ด้วยเอสเพรสโซ 2 ช็อต คุณสามารถเลือกลายลาเต้อาร์ตได้ด้วยนะ ลองรีเควสขอลายแปลกๆ จากพูนนี่ดู เพราะก่อนหน้าที่เขาจะมาเปิด POONYPOONYCOFFEE เขาเป็นนักปั้นเบบี้ชิโน (ฟองนมที่ปั้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ) ที่เหล่าเด็กน้อยในเมลเบิร์นรัก
Affogato (130 บาท) และ Espresso Martini (250 บาท)
ถ้าวันนี้คุณอยากลองอะไรพิเศษสักหน่อยก็แนะนำเป็น Affogato (130 บาท) เพราะที่นี่ใช้ไอศกรีมวานิลลาโฮมเมดของ Tropical Monkey เมื่อเจอกับเอสเพรสโซช็อตเข้มๆ ของทางร้านก็เข้ากันได้ดี ส่วนอีกหนึ่งเมนูลับคือ Espresso Martini (250 บาท) กาแฟผสมวอดก้า เมนูคลาสสิกในคาเฟ่ที่ออสเตรเลีย แต่ยังหาไม่ค่อยได้ในไทย พูนนี่เลยจับมาเป็นเมนูลับในร้านเสียเลย ไม่เชิงว่าขาย ทำกินเอง แต่ถ้าคุณรู้แล้วจะสั่งมาลองก็ได้ ส่วนเมล็ดกาแฟสามเมล็ดที่โรยด้านบนคือสัญลักษณ์แทนเพื่อน ครอบครัว และความรัก เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทั้งน่าสนใจและมีความหมายที่ดี
Flourless Chocolate Cake (85 บาท)
Canale (60 บาท) และ Cheesecake (85 บาท)
The Dishes:
ขนมในร้านมี Cheesecake (85 บาท) ชีสเค้กหน้าไหม้ที่ทางร้านบอกกับเราว่าเป็นชีสเค้กที่ทำง่ายที่สุด แต่การจะทำให้อร่อยนั้นยากมากทีเดียว Flourless Chocolate Cake (85 บาท) เค้กช็อกโกแลตไร้แป้งสำหรับคนห่วงใยสุขภาพ และนอกจากเมนูเค้กแล้วยังมี Canale (60 บาท) ขนมที่ทางร้านลองทำแล้วสนุกไปกับมัน จึงทำออกมาขายในร้านด้วย
POONYPOONYCOFFEE
Open: วันจันทร์-ศุกร์ (หยุดวันพุธ) เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น.
Address: 85 ซอยสบายใจ แยก 4 สามเสนนอก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ
Budget: 100-200 บาท
Contact: 09 8799 8331
Website: https://www.facebook.com/poonypoonycoffee/
Map:
