×

ม.ศรีปทุม-ดีโหวต เปิดโพลความเห็นเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท มีผู้เห็นด้วยหากไม่กู้ 49% หวังนำเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 56%

โดย THE STANDARD TEAM
28.10.2023
  • LOADING...
คนเข้าแถวรอแคชเชียร์

วันนี้ (28 ตุลาคม) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (SPU) ร่วมกับดีโหวต (D-vote) รายงานผลการสำรวจในประเด็น ‘คุณสนับสนุนให้มีโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทหรือไม่’ โดยสำรวจระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกช่วงอายุ ภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และระดับรายได้ทั่วประเทศ จำนวน 1,158 ตัวอย่าง ค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.00 พบว่า

 

  • ร้อยละ 49.53 ระบุว่า สนับสนุน หากสามารถทำได้โดยไม่ต้องกู้เงิน
  • ร้อยละ 33.86 ระบุว่า สนับสนุน แม้ต้องกู้เงินมาทำก็ตาม
  • ร้อยละ 12.09 ระบุว่า ไม่สนับสนุน ไม่ว่าจะกู้หรือไม่กู้เงินมาทำก็ตาม
  • และร้อยละ 4.52 ระบุว่า ไม่รู้/ไม่แน่ใจ

 

โดยเส้นของระดับรายได้ที่มีแนวโน้มสนับสนุนโครงการฯ อยู่ที่ผู้มีรายได้น้อยกว่า 45,000 บาท และแบ่งผู้สนับสนุน/ไม่สนับสนุนโครงการฯ ตามผู้สนับสนุนพรรคต่างๆ (ระบุว่าได้เลือกพรรคดังกล่าวในการเลือกตั้ง 2566) ได้ดังนี้

 

สนับสนุนหากไม่กู้ สนับสนุนแม้ต้องกู้ และไม่สนับสนุน

  • ก้าวไกล: 53.32%, 33.90%, 8.51%
  • เพื่อไทย: 50.59%, 38.79%, 7.86%
  • ภูมิใจไทย: 46.28%, 41.45%, 4.45%
  • พลังประชารัฐ: 50.17%, 42.10%, 2.45%
  • รวมไทยสร้างชาติ: 49.66%, 13.48%, 36.86%
  • ประชาธิปัตย์: 31.61%, 43.07%, 21.16%

 

สำหรับคำถามในประเด็น ‘คุณอยากใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาททำอะไรมากที่สุด’ โดยผู้ตอบให้ความเห็นได้ตามความคิด แม้รัฐบาลจะไม่ได้ประกาศว่าให้ใช้ในประเภทนั้นหรือไม่ก็ตาม และเลือกได้สูงสุด 3 ข้อ พบว่า

 

  • ร้อยละ 56.14 ระบุว่า ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหาร จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ
  • ร้อยละ 39.32 ระบุว่า ชำระหนี้
  • ร้อยละ 30.75 ระบุว่า ซื้อของที่อยากได้
  • ร้อยละ 23.24 ระบุว่า ลงทุน หรือสร้างธุรกิจ
  • ร้อยละ 18.91 ระบุว่า นำเงินดิจิทัลไปแลกเป็นเงินสด แม้จะต้องถูกเก็บค่าแลกก็ตาม
  • ร้อยละ 16.36 ระบุว่า ซื้ออุปกรณ์ทำงาน เช่น ปุ๋ย เครื่องจักร คอมพิวเตอร์
  • ร้อยละ 8.74 ระบุว่า ท่องเที่ยว
  • และร้อยละ 6.50 ระบุว่า รวมเงินกับคนอื่นๆ มาพัฒนาชุมชน เช่น สร้างแหล่งน้ำ

 

สำหรับคำถามในประเด็น ‘หากรัฐเปิดให้นำเงิน 10,000 ของคุณไปรวมกับคนอื่นบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ เพื่อให้ได้ก้อนที่ใหญ่มากขึ้นได้ คุณมีแนวโน้มจะทำหรือไม่’

 

  • ร้อยละ 40.23 ระบุว่า ทำ จะรวมกับครอบครัว เช่น นำไปสร้างธุรกิจ สร้างบ้าน
  • ร้อยละ 21.97 ระบุว่า ไม่ทำ จะใช้คนเดียว
  • ร้อยละ 15.54 ระบุว่า ทำ จะรวมกันภายในชุมชน เช่น นำไปทำโครงการในชุมชน สร้างวิสาหกิจชุมชน
  • ร้อยละ 14.96 ระบุว่า ทำ จะรวมกับเพื่อนหรือหุ้นส่วน เช่น นำไปสร้างธุรกิจ
  • และร้อยละ 7.31 ระบุว่า ไม่รู้/ไม่แน่ใจ

 

ด้าน ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักโพลศรีปทุม-ดีโหวต ชี้ว่า จุดเริ่มต้นความสำเร็จของโครงการรัฐบาลคือ การฟังเสียงและตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของประชาชนแต่ละกลุ่มให้ได้มากที่สุด 

 

ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นแนวทางที่อาจสามารถลดปริมาณการกู้ได้ เช่น การแบ่งเฟส โดยให้เฟสแรกเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยกว่า 40,000-50,000 บาท เพราะคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มจะนำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่ขาด และทำให้เกิดตัวคูณทางเศรษฐกิจก่อนได้ระดับหนึ่ง 

 

และเฟสสองให้กลุ่มผู้มีรายได้มากกว่า โดยกลุ่มนี้อาจกำหนดหรือสนับสนุนให้ใช้ในการลงทุนหรือการรวมกลุ่มกัน เพื่อลดการใช้จ่ายกับสิ่งที่หาซื้อได้อยู่แล้วจนกลายเป็นเพียงการออมเงินที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถใช้เพื่อสนับสนุนการจัดการข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงการวัดผลตัวคูณทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ สามารถทำได้ง่ายและโปร่งใส

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising