ปี่กลองการเมืองยามนี้กลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 4 ปี หลังนักการเมืองต้องพักร้อนยาวเนื่องจาก คสช. เข้าควบคุมอำนาจ
โรดแมปการเมือง โดยเฉพาะ ‘การเลือกตั้ง’ ถูกเลื่อนเข้าเลื่อนออกหลายครั้ง ถึงตอนนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ประกาศไว้ว่า น่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562
หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 มีผลบังคับใช้ ท่าทีของพรรคการเมืองก็ไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ ด้วยเพราะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขหลายประการ บังคับให้ต้องดำเนินการก่อนเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เพราะมิเช่นนั้นแล้วอาจต้อง ‘สิ้นสภาพพรรคการเมือง’ โบกมือลาสนามเลือกตั้งก่อนจะได้ลงเหยียบ
คำสั่ง คสช. ขีดเส้น พรรคการเมืองเก่าให้ต้องทำตาม
แม้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2560 แต่ก็ไม่สามารถทำให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพราะยังติดเงื่อนไขตามคำสั่ง คสช. เดิม ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และยังห้ามมีการรวมตัวตั้ง 5 คนขึ้นไปเพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง
ถึงตอนนี้การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง สามารถทำได้ด้วยมาตรการ ‘ผ่อนคลาย’ ตามคำสั่งที่ 53/2560 เมื่อกำหนดให้พรรคการเมืองตามกฎหมาย พรรคการเมืองเดิม ปี 2550 ยังมีสภาพเป็น ‘พรรคการเมืองต่อไป’ แต่มีหน้าที่ต้องทำตามเงื่อนไขใหม่ ตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง ปี 2560 และต้องอยู่ภายใต้กรอบเวลาและสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ตามที่คำสั่ง คสช. ขีดเส้นไว้
28 มีนาคม ที่ผ่านมา กกต. นัดพรรคการเมืองเก่าถกกติกาที่ต้องเดินตามคำสั่ง คสช. มีตัวแทนพรรคเข้าร่วมกว่า 308 คน จาก 55 พรรค
เวทีดังกล่าวคราคร่ำไปด้วยนักการเมืองที่คุ้นหน้าคุ้นตา เป็นแอ็กชันที่ดูแอ็กทีฟทางการเมืองแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันมานาน เวทีนี้จัดขึ้นเพื่อชี้แจงแถลงไข เนื่องจากตั้งแต่ 1 เมษายนเป็นต้นไป พรรคการเมืองเก่าจะสามารถดำเนินการทางธุรการได้ โดยเฉพาะการยืนยันสถานะการเป็นสมาชิกพรรคใหม่ของสมาชิกเดิม มองกลายๆ ก็คือการ ‘รีเซ็ต’ ระบบสมาชิกของพรรคการเมืองเก่าทั้งหมด ที่สำคัญตามกติกาใหม่ กำหนดให้สมาชิกต้องจ่ายค่าบำรุงพรรคด้วย โดยขั้นตอนนี้ต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน มิเช่นนั้นจะต้องขาดจากสมาชิกภาพพรรคการเมือง ส่วนการรับสมัครชิกรายใหม่ คสช. ยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการ
สำหรับค่าบำรุงพรรคที่สมาชิกต้องจ่ายคือ 100 บาทต่อปี หรือ 2,000 บาทตลอดชีพ
ขณะเดียวกันยังมีขั้นตอนต่างๆ ให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนดด้วย
เปิดยืนยันสมาชิกพรรคการเมือง คึกคัก พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง
หลายพรรคเริ่มคิกออฟแคมเปญเชิญชวนให้สมาชิกมาทำการยืนยันความเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนแล้ว เช่น
พรรคประชาธิปัตย์ชิงเปิดตัว ‘แอปพลิเคชัน’ เพื่อให้สมาชิกสามารถดาวน์โหลด โดยจะต้องเข้าไปสแกนบาร์โค้ดบัตรประจำตัวประชาชน หรือลงบันทึกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยเลือกที่จะเป็นสมาชิกรายปีหรือตลอดชีพ จากนั้นจะได้รับ QR Code เพื่อนำกลับมายังพรรคและชำระค่าสมาชิก ก่อนพรรคจะนำไปใช้เป็นเอกสารหลักฐานยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งมีการจัดสถานที่ ณ ที่ทำการพรรคย่านสามเสน ให้สมาชิกเดินทางมาดำเนินการได้ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มายืนยันสถานะเป็นคนแรก
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยถือฤกษ์ในวันที่ 1 เมษายน จัดฉลองในโอกาสที่พรรคก้าวสู่ปีที่ 10 มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นำสมาชิกเดิมยื่นยืนยันสถานะสมาชิกพรรค ท่ามกลางบรรยากาศการมาแสดงความยินดีของพรรคการเมืองต่างๆ
ขณะที่พรรคเพื่อไทยเปิดให้สมาชิกมายืนยันสถานะความเป็นสมาชิกวันนี้เป็นวันแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจากโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดใช้แอปพลิเคชันไลน์ เพื่อให้สมาชิกได้รับรู้ข้อมูลและติดต่อสื่อสารระหว่างพรรคกับประชาชน
แม้จะเห็นถึงความคึกคักที่บรรดาพรรคการเมืองขยับรับกติกาที่ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งตามวัน ว. เวลา น. ที่รู้กันคร่าวๆ คือ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 แต่ถึงกระนั้นก็ยังไว้ใจไม่ได้ เพราะอาจมีปัจจัยแทรกซ้อนเข้ามาอีกเมื่อไรก็ได้
เหมือนที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์วันนี้ว่า “เอาเป็นว่าใครเตรียมจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่านก็ไปเตรียมหาเสียงให้ทันการเลือกตั้งในเดือน กุมภาพันธ์ 2562 แล้วกัน อย่างอื่นคนอื่นจะช่วยจัดการให้ ท่านไม่ต้องจัดการอะไร ถ้ามัวแต่นั่งกังวลสงสัยว่าจะเลื่อนเลือกตั้งหรือเปล่าเลยยังไม่หาเสียง หรือยังไม่ได้ตัดสินใจลาออกจากราชการ เดี๋ยวจะไม่ทันนะ รัฐบาลจะพูดเรื่องโรดแมปต่อเมื่อ เฮ้ย ต้องเลื่อนแล้วเว้ย ถ้ายังไม่เลื่อนก็ยังเป็นไปตามโรดแมป”
ความกังวลเรื่องโรดแมปการเลือกตั้ง แม้จะเป็นเรื่องใหญ่ของพรรคการเมือง แต่เงื่อนเวลาดังกล่าวดูจะถูกขยายเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไปแล้ว ด้วยภาวะต่างๆ ที่เผชิญแรงบีบทั้งภายนอกและภายในในช่วงที่ผ่านมา
สารพัดข้อกังวลคำสั่ง คสช. เวลาน้อย กระชั้นชิด ประหนึ่งเซตซีโร่
สำหรับข้อกังวลต่อคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 นั้น ได้เคยถูกหยิบยกไปพูดคุยในเวทีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยตัวแทนพรรคการเมืองได้ตั้งคำถามต่อ กกต. ถึงความชัดเจนในการปฏิบัติ เช่น
- การตั้งคำถามถึงความชัดเจนว่าจะสามารถเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562 ได้จริงหรือไม่
- กรอบเวลาการดำเนินการในการยืนยันสถานะสมาชิกเพียงแค่ 30 วันน้อยไป เมื่อเทียบกับจำนวนสมาชิกหลายพรรคที่มีหลักแสนหรือหลักล้าน
- นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทยมองว่า เป็นการลิดรอนสิทธิและเพิ่มภาระให้กับสมาชิก มีระยะเวลาดำเนินการกระชั้นชิด ขัดกับรัฐธรรมนูญ
- นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มองว่า หัวหน้า คสช. ควรปรับปรุงแก้ไขคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแมปด้วยความถูกต้องเหมาะสมต่อไป
- นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ขยายความเพิ่มเติมว่า คำสั่งที่ 53/2560 สร้างภาระเกินความจำเป็นให้พรรค เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 บังคับใช้คำสั่ง คสช. ตามมาตรา 44 มีศักดิ์เป็นเพียง พ.ร.บ. ต่ำกว่า แต่กลับมีเนื้อหาขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ทั้งในบทหลักและบทเฉพาะกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
- นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมองว่า วันนี้ยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมืองและการเลือกตั้งยังไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไร พรรคภูมิใจไทยคงต้องชิลล์ๆ ไปก่อน แต่ยืนยันว่ามีบุคลากรที่พร้อมอยู่แล้ว
- นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ยอมรับว่า ผลกระทบคือจำนวนสมาชิกพรรคที่ต้องลดลงแน่นอน เป็นเหมือนเซตซีโร่พรรคการเมืองกลายๆ
- พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีข้อห่วงใยเรื่องระยะเวลาของการยืนยันสมาชิกพรรคที่เวลาค่อนข้างจะน้อยไปว่า สำนักงานฯ จะประมวลความเห็นเข้าสู่การประชุม กกต. ว่าจะดำเนินการหรือช่วยประสานงานกับ คสช. อย่างไรได้บ้าง
ล่าสุด ความกังวลดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนายวิษณุว่า ทราบว่ามีปัญหาที่มีข้อขัดข้องอยู่ และเตรียมที่จะมีการปรับแก้ในส่วนที่มีปัญหา ซึ่งก่อนหน้านี้ กกต. ได้รายงานปัญหาให้ คสช. ทราบ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่รวบรวมคำถามได้ชัดเจน เห็นปัญหาทั้งในวิธีปฏิบัติและตัวบทกฎหมายแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าต้องแก้ไข เช่น การประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองที่ต้องประกอบด้วยหัวหน้าหรือตัวแทนของสาขา ปัญหาคือพรรคที่มีสาขาก็พอจะเรียกประชุมให้ครบองค์ประกอบได้ แต่พรรคที่ยังไม่มี จะมีสาขาได้ก็ต่อเมื่อมีการประชุมใหญ่ แต่ในการประชุมใหญ่ต้องมีหัวหน้าสาขา ในที่สุดจึงเป็นปัญหาว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน
ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องใน 2 ประเด็นคือ การยืนยันสมาชิกและกรอบเวลาที่กระชั้นชิด เป็นการลิดรอนสิทธิประชาชน รวมทั้งการให้พรรคการเมืองจัดประชุมใหญ่แก้ข้อบังคับภายใน 90 วัน การจัดตั้งสาขาพรรคหลังมีการปลดล็อกทางการเมือง เป็นการสร้างภาระเกินจำเป็น
เปิดข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง 10 อันดับแรก ประเมินสมาชิกคัมแบ็ก
แม้จะยังไม่มีความชัดเจน กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำสั่ง คสช. พรรคการเมืองจึงต้องเดินหน้าในการยืนยันสมาชิกของพรรคไปก่อนตามกรอบ 30 วันที่ได้ขีดเส้นไว้
ปัจจุบันตามรายงานของ กกต. มีพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมือง ปี 2550 ในสารบบรวม 69 พรรค มีจำนวนสมาชิก 10 ลำดับแรกคือ
พรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ ที่ในสารบบพรรคการเมืองถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด น่าจะตกที่นั่งลำบากพอสมควร ด้วยเงื่อนไขกรอบเวลาและขั้นตอน เพราะมีจำนวนสมาชิกมาก หากมีการมายืนยันสถานะเพียงหลักแสน อาจทำให้ถูกหยิบฉวยไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง อธิบายถึงความนิยมที่ลดลง แม้หลายพรรคจะเห็นว่ากรอบเวลามีปัญหา
ขณะที่พรรคอื่นๆ ก็ไม่อาจประเมินให้ต่ำได้ เพราะการที่สมาชิกลดลงก็มีผลในทางการเมืองอยู่ไม่น้อย
ขณะที่การเปิดยืนยันสมาชิก หากพ้นกรอบเวลาไปแล้วสมาชิกเดิมไม่มารายงานตัว ยืนยันสถานะ ยิ่งเป็นระดับแกนนำหรืออดีตสมาชิกที่เคยเป็น ส.ส. ย่อมแสดงให้เห็นนัยยะสำคัญว่า เขาได้ปล่อยมือจากพรรคนี้ไปแล้ว อาจไปร่วมกับพรรคใหม่ในอนาคตหรือตั้งพรรคเอง
การพยายามให้มีการยืนยันสมาชิกพรรคใหม่อีกรอบ แม้จะดูเป็นเรื่องที่ไม่มีใครได้เสียทางการเมือง แต่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ที่ชัดเจนมากที่สุดคือการเซตซีโร่ตัวเองออกจากพรรคเดิมของบางคนบางกลุ่มกำลังเริ่มต้น และอาจเป็นการเตะถ่วงยื้อเวลาการเลือกตั้งของ คสช. แถมตอนนี้ให้ส่งร่างกฎหมาย ส.ส. ตีความอีก
ด้านพรรคเพื่อไทยนัดอดีต ส.ส. มายืนยันเพื่อเช็กชื่อในวันที่ 4 เมษายนนี้ เราจะได้เห็นโฉมหน้าว่าใครอยู่หรือไป แต่ที่แน่ๆ สมรภูมิการเมืองยามนี้กลับมาร้อนแรงคึกคักขึ้นอีกครั้งแล้ว
อ้างอิง:
- www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20171227140959.pdf
- www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20171031151304.pdf
- thaipublica.org/2017/10/political-parties-act-of-thailand/
- www.ect.go.th/ect_th/download/article/article_20180228084718.pdf
- www.matichon.co.th/news/900584
- www.isranews.org/isranews-scoop/64776-report00-64776.html