×

ศิธาเสียดาย ‘สายไหมต้องรอด’ แยกทาง มั่นใจ อนุดิษฐ์-สมชาย จับมือสร้างสายไหมในฝัน รวมคนทำงานกว่า 20 ปีอยู่ไทยสร้างไทย

โดย THE STANDARD TEAM
21.03.2023
  • LOADING...

วันนี้ (21 มีนาคม) น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ หัวหน้าสำนักงานปราบโกง พรรคไทยสร้างไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรค น.ต. ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค และ ดร.สมชาย เวสารัชตระกูล ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขตสายไหม พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ปราศรัยครั้งแรกที่เขตสายไหม

 

สุพันธ์ุปราศรัยถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นว่าปัจจุบันหนี้ครัวเรือนประเทศไทยสูงถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ และหนี้สาธารณะสูงถึง 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะ 8 ปีที่ผ่านมา สูงมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยชูนโยบายแก้หนี้ เช่น กองทุนแก้หนี้เครดิตบูโร โดยจ่ายดอกเบี้ยให้กับหนี้เสียที่เกิดขึ้นในช่วงโควิดทั้งหมด จากนั้นให้นำหนี้ไปรีไฟแนนซ์เพื่อแก้ไขหนี้ และที่สำคัญคือกองทุนเครดิตประชาชนที่จะมาแก้หนี้นอกระบบ โดยให้กู้ตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท ผ่อนจ่ายได้เป็นรายวันและดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน

 

อีกนโยบายที่สุพันธุ์นำเสนอคือการเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี และลดเวลาเรียนลง 3 ปี ให้จบปริญญาตรีได้ในอายุ 18 ปี จากนั้นจะมีการเว้นภาษีให้กับคนที่มีรายได้ไม่ถึง 300,000 บาทต่อปี งดเก็บภาษี SMEs 3 ปี และสำหรับผู้สูงอายุ จะมีบำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี และมุ่งหน้าจะทำให้ประเทศดีขึ้นและก้าวข้ามความขัดแย้ง

 

น.ต. ศิธา กล่าวว่า การเมืองในเขตสายไหมเป็นการเมืองที่ทุกเขตในกรุงเทพฯ ให้ความสนใจ เพราะการเลือกตั้งในเขตสายไหมที่ผ่านมาในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กับ ส.ส. อยู่คนละขั้วคนละพรรคมาตลอด ในระดับท้องถิ่น สมชายลงท้องถิ่นกี่ครั้งก็ชนะเสมอ น.อ. อนุดิษฐ์ ลงสมัคร ส.ส. ทีไรก็ชนะเสมอ เรียกว่ากินกันไม่ลง และไม่มีใครแทนใครได้ แต่ในวันนี้ทั้งสองคนมาอยู่ร่วมกัน ตนจึงเชื่อว่าต่อไปนี้สายไหมจะดีขึ้นได้กว่าเดิม เพราะตอนนี้เขตสายไหมรวมกันเป็นปึกแผ่น ก้าวข้ามความขัดแย้งได้

 

น.ต. ศิธา ยังยืนยันว่าจะไม่สนับสนุน 2 ป. และ 3 ป. เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน และถ้าหากสองคนดังกล่าวจะขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรี ตนจะยอมเป็นฝ่ายค้าน ในกรณีของ เอกภพ เหลืองประเสริฐ แกนนำกลุ่มสายไหมต้องรอด ที่เคยทำงานด้วยกันมา รู้สึกเสียดายที่แยกไปทำงานกับอีกพรรคการเมืองนั้น แต่ไม่มีปัญหา เพราะถือว่าแต่ละคนต้องเติบโตตามเส้นทางของตัวเอง

 

ด้าน น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวว่า นโยบายของพรรคไทยสร้างไทยเป็นนโยบายที่จับต้องได้ โดยเฉพาะนโยบายบำนาญประชาชน ที่ตนเชื่อว่าเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับชาวสายไหมและพร้อมที่จะออกนโยบายทันทีเมื่อพรรคไทยสร้างไทยได้เข้าสู่สภา เพราะตอนนี้พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคเดียวที่ไม่มี ส.ส. ในสภาสักคน แต่มีกฎหมายที่จ่อรออยู่ที่สภาแล้ว เมื่อได้เข้าไปก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนได้ทันที

 

น.อ. อนุดิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า แม้ตนกับสมชายจะเป็นคู่แข่งกันมาตลอด แต่ตนมีความนับถือในตัวสมชายมาตลอด เพราะแม้จะยืนอยู่กันคนละฝั่งแต่เห็นการทำงานมาตลอดว่าสมชายไม่เคยทิ้งพื้นที่ และวันนี้เมื่อตนกับสมชายได้มาอยู่ทีมเดียวกัน ก็เชื่อว่าจะเป็นการก้าวข้ามความขัดแย้ง และจะสามารถร่วมกันทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไปได้และพร้อมจะเป็นทางรอดให้กับชาวสายไหม

 

ขณะที่ ดร.สมชาย กล่าวว่า ปัจจุบันมีประชาชนชาวสายไหมมาบ่นกับตนว่ากำลังจะมีการเกณฑ์ทหารและไม่อยากให้ลูกไปเกณฑ์เพราะลูกเป็นคนหาเงินเลี้ยงดูดูแลที่บ้าน ตนจึงอยากชูนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อที่จะนำแรงงานหรือเสาหลักของครอบครัวกลับบ้านให้มาทำงาน ทำมาหากินดูแลที่บ้านต่อ แทนที่จะต้องเข้าไปอยู่ในค่ายทหาร

 

ในวันนี้ที่ตนตัดสินใจมาอยู่พรรคไทยสร้างไทย และมาร่วมกับ น.อ. อนุดิษฐ์ เพราะมีการพูดคุยกันว่าปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีตต้องจบลงเสียที วันนี้ต้องร่วมกันสร้างสายไหมในฝันให้กับชาวสายไหมทุกคน และขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคไทยสร้างไทย เพื่อจะได้เห็นทั้ง น.อ. อนุดิษฐ์ และตนเองเข้าสู่สภา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising