วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีการแถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมแหล่งผลิตไส้กรอกปนเปื้อนพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยตรวจยึดของกลาง 32 รายการ มูลค่ากว่า 700,000 บาท หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรณีพบผู้บริโภคซึ่งเป็นเด็กหลายรายเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากการรับประทานไส้กรอกและเกิดภาวะ Methemoglobinemia (เมธฮีโมโกลบินนีเมีย) จึงประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่, สระบุรี, เพชรบุรี และตรัง สืบทราบแหล่งจำหน่ายและขยายผลทำการสืบสวนจนทราบแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวานนี้ (2 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 ได้ร่วมกับ อย. และ สสจ.ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานเป้าหมายในจังหวัดชลบุรี จากการตรวจค้นพบ นางสาว ร. (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) แสดงตนเป็นเจ้าของกิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ โดยรับว่าทำการผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด และฉลากผลิตภัณฑ์ไส้กรอกหลายรายการตรงกับฉลากผลิตภัณฑ์ที่ได้ข้อมูลจากผู้ป่วยว่าบริโภคแล้วเกิดอาการผิดปกติดังกล่าว
โดยฉลากดังกล่าวไม่แสดงเลขสารบบอาหาร และเป็นการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จากการตรวจสอบสถานที่ผลิตแห่งนี้ตามหลักเกณฑ์ GMP ที่กฎหมายกำหนด พบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ (ได้คะแนนรวม 19 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 16.67) และพบข้อบกพร่อง ได้แก่ ไม่มีการควบคุมการผลิต ในกรณีที่มีการใช้วัตถุเจือปนอาหารอย่างเหมาะสม อีกทั้งขั้นตอนการผลิตไม่เข้าข่ายโรงงานตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารเพื่อตรวจวิเคราะห์ หากพบสารต้องห้ามในอาหาร จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25 ฐาน ‘ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์’ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นอาหารปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท จึงตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฝ่าฝืนมาตรา 6(7) สถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP) โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และฝ่าฝืนมาตรา 6(10) ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
โดย พล.ต.ต. อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ฝากคำเตือนถึงผู้บริโภค โดยระบุว่า สำหรับประชาชนทั่วไปอย่าซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ทราบที่มาของแหล่งผลิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้านค้าทั่วไปหรือแหล่งขายทางออนไลน์ เพราะอาจเกิดอันตรายจากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัยต่อการบริโภค พร้อมเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบผลิตหรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด และหากพี่น้องประชาชนพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค ได้ตลอดเวลา
ด้าน นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ขอเน้นย้ำผู้ประกอบการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอาหาร ให้เลือกซื้อไส้กรอกหรือผลิตภัณฑ์อาหารจากสถานที่ผลิตอาหารที่ได้รับอนุญาตมาจำหน่ายต่อ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยสังเกตที่ฉลากจะระบุชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตหรือหมดอายุหรือควรบริโภคก่อน แสดงส่วนประกอบและข้อมูลวัตถุเจือปนอาหาร น้ำหนักสุทธิ เลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. และผลิตภัณฑ์มีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ตลอดการจำหน่าย
ส่วนผู้บริโภคเองหากไม่แน่ใจคุณภาพหรือความปลอดภัยของอาหาร หรือพบเห็นแหล่งผลิตหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐาน หรืออาจไม่ปลอดภัยในการบริโภค ขอให้แจ้งเบาะแสร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร. 1556, อีเมล [email protected] หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ