ยอดผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงมัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ชพุ่งเป็น 49 ราย นายกฯ หญิงนิวซีแลนด์เผย “นี่เป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ”

นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ ได้ประกาศว่าวันนี้เป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลังจากที่เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤตกรณีมือปืนก่อเหตุกราดยิงในมัสยิดอัล นูร์ และมัสยิดลินวูด มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช จนส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 49 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกกว่า 20 คน ตามการรายงานล่าสุดของ 1 NEWS สื่อท้องถิ่นของนิวซีแลนด์

นางจาซินดา อาร์เดิร์น แถลงการณ์เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมดังกล่าวว่า

“แม้ว่าเรายังไม่สามารถยืนยันตัวเลขของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ได้ในเวลานี้ แต่สิ่งที่เราสามารถบอกได้ตอนนี้คือ นี่เป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศนิวซีแลนด์

“ผู้คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์กราดยิงในครั้งนี้ อาจจะเป็นผู้ที่อพยพมาจากที่อื่น แต่พวกเขาเลือกที่จะเลือกนิวซีแลนด์เป็นประเทศของพวกเขา และใช่ที่นี่คือบ้านของพวกเขา

“สำหรับคนที่ก่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พวกเขาจะไม่มีที่ยืนในนิวซีแลนด์”

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เผยกับ 1 NEWS ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ว่า

“มือปืนบุกเข้ามาทางประตูด้านหน้า ทุกคนพยายามวิ่งหนีออกประตูหลังเพื่อเอาชีวิตรอด บางคนซ่อนอยู่ใต้รถ บางคนกระโดดข้ามรั้ว

“เราซ่อนอยู่ในบ้านข้างๆ มัสยิด เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่อง

“เราเห็นมือปืนเปลี่ยนปืนและเริ่มต้นยิงต่อ”

โศกนาฏกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 13.40 น. ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 15 มีนาคมตามเวลาท้องถิ่นของประเทศนิวซีแลนด์ โดยผู้บัญชาการตำรวจนิวซีแลนด์เผยว่า ในเวลานี้ได้จับกุมผู้ต้องหาไว้ทั้งหมด 4 คน เป็นผู้ชาย 3 และผู้หญิง 1 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า เหตุการณ์ความรุนแรงยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ โดยประกาศเตือนประชาชนไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่เกิดเหตุ และแจ้งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: