จุดเด่นที่สามารถพูดได้แบบเต็มปากเต็มคำคือ ผู้กำกับ ร็อบ เลตเทอร์แมน และทีมงานออกแบบตัวละครตัวโปเกมอน โดยเฉพาะเจ้าหนูไฟฟ้าปิกาจู ที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง ออกมาได้น่ารักน่าเอ็นดูมากจริงๆ
อย่างตัวผู้เขียนเอง ที่เคยคิ้วขมวดตอนเห็นตัวอย่างหนังสั้นๆ แล้วได้เห็นภาพปิกาจูที่เต็มไปด้วยขนปรากฏตัวออกมา ก็คลายความสงสัย และเข้าใจทันทีว่า การออกแบบตัวละครแบบนี้นี่แหละ เหมาะสมที่สุดแล้วกับการสร้าง Pokémon Detective Pikachu แบบไลฟ์แอ็กชันขึ้นมา
สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือ การแสดงออกทางสีหน้า ทั้งเศร้า โกรธ อ้อน น้อยใจ ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาดมากๆ (เสียงพากย์ของ ไรอัน เรย์โนลด์ ที่ทำให้เสียงปิกาจูเข้มขึ้น ก็นับว่าแปลกและสร้างสีสันกับเรื่องได้ดี) ไม่ว่าคนดูจะเคยเล่นเกม เคยรับรู้เรื่องราวในโปเกมอนเวิลด์มาก่อนหรือเปล่า ก็เพลิดเพลินและหลงรักโปเกมอนเหล่านี้ได้ง่ายๆ
ง่ายเสียจนเราพอจะให้อภัยความผิดพลาดในพาร์ตการดำเนินเรื่องที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งที่จริงๆ เส้นเรื่อง Pokémon Detective Pikachu นั้นแสนเรียบง่าย คือทิม (จัสติส สมิธ) เด็กหนุ่มที่ได้ข่าวการเสียชีวิตของพ่อ และไปเจอปิกาจูโปเกมอนคู่หูของพ่อ ที่กลายเป็นโปเกมอนติดกาแฟ ความจำเสื่อม แล้วต้องร่วมมือค้นหาเบาะแสอุบัติเหตุที่น่าสงสัยครั้งนี้ไปด้วยกัน
แต่ก็ชวนให้คนดูสงสัยตั้งแต่การที่อยู่ดีๆ ทิมก็ตกลงร่วมมือกับปิกาจู ทั้งที่ดูไม่น่าไว้ใจเอามากๆ การปรากฏตัวของลูซี่ (แคธรีน นิวตัน) นักข่าวฝึกงานสาวที่ดูรู้ข้อมูลทุกอย่างเต็มไปหมด ไปจนถึงการคลี่คลายปัญหาหลายๆ ครั้งที่ง่ายดาย เหมาะเจาะเสียจนไม่ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับคำว่า ‘ยอดนักสืบ’ เท่าไรนัก
แถมในช่วงครึ่งแรกของหนังที่เนื้อเรื่องค่อนข้างช้า ชวนให้หลับอยู่หลายครั้ง ถ้าไม่ได้ความน่ารักของโปเกมอนช่วยเอาไว้ แถมยังทิ้งประเด็นสถานที่เกิดเหตุไรม์ ซิตี้ ที่ถูกบิลต์ให้เป็นโลกยูโทเปียของคนและโปเกมอนที่เหมือนจะน่าสนใจไปแบบง่ายๆ ก่อนที่หนังจะมาขมวดปมในตอนท้าย ซึ่งเผยให้เห็นจุดประสงค์ของตัวร้ายในเรื่องที่ดูน่าสนใจและมีมิติมากที่สุด แต่ก็น่าเสียดายที่มีเวลาให้อธิบายความหมายตรงนี้ได้น้อยจนรู้สึกว่าน่าเสียดายเอามากๆ
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ดู Pokémon Detective Pikachu ให้สนุกที่สุดคือ การปรับความคาดหวังตั้งแต่ต้นไว้ก่อนเลยว่า อาจจะค้นหาความสนุกในแบบเข้มข้น ซับซ้อน ตามแบบฉบับภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบสวนได้ยากสักหน่อย
แต่ถ้าอยากเข้าไปเสพความน่ารักของเหล่าโปเกมอน ที่ถ้าไม่ใช่แฟนคลับ ก็จะได้รู้จักโลกของเหล่าโปเกมอนมากขึ้น และถ้ายิ่งเป็นแฟนคลับที่เคยเล่นเกม Pokémon Detective Pikachu มาก่อน ก็น่าจะยิ่งสนุกมากขึ้นไปอีก เพราะเวอร์ชันภาพยนตร์อิงคุณลักษณะของโปเกมอนและเนื้อเรื่องตามเวอร์ชันเกมอยู่หลายส่วน
เช่น ฉากเล่นละครใบ้กับบาเรียด, ความป่วนกวนประสาทของโกดัก, ความเกรี้ยวกราดและน่ารักของลิซาร์ดอนและโปเกมอนตัวอื่นๆ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยสาร R, โปเกมอนในตำนานอย่างมิวทู ที่ทรงพลังและเป็นคนกุมความลับแทบทั้งหมดในเรื่องเอาไว้ รวมทั้งมุกตลก รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของโปเกมอนตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่ก็สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
โดยเฉพาะเจ้าหนูน้อยปิกาจู ที่ทั้งตลก ขี้อ้อน กวนประสาท และช่วยแบกหนังเรื่องนี้เอาไว้แทบทั้งเรื่อง ที่พอปรากฏตัวออกมาเมื่อไร ความสงสัยที่เกิดขึ้นจากการดำเนินเรื่องหลายๆ อย่างก็หายไปได้ในทันที
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล