×

‘Vin Buddy’ ช่างภาพเวดดิ้งที่ดาราเบอร์ใหญ่ๆ ในเมืองไทยใช้บริการมากที่สุด

19.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

01.08 Introduction

02.36 จากสตูดิโอถ่ายหมาสู่เวดดิ้ง

05.30 เสน่ห์ของการถ่ายเวดดิ้ง

07.58 การฝึกฝน

13.45 ความยากของการถ่ายเวดดิ้ง

18.05 การถ่ายงานแต่งดารา

27.50 ความผิดพลาด

35.20 วิธีคิดเรื่องธุรกิจ

44.33 แนะนำคนทำธุรกิจ

50.30 The Secret Sauce

     อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของช่างภาพเวดดิ้งที่ดาราเบอร์ใหญ่ๆ ใช้บริการมากที่สุด ไล่ตั้งแต่ แอฟ ทักษอร-สงกรานต์, โอปอล์-หมอโอ๊ค, ทาทา ยัง-หมอฉัตรอดุลย์, บี้-กุ๊บกิ๊บ และอีกมาก

     เริ่มจากเปิดสตูดิโอถ่ายสุนัข แล้วจับพลัดจับผลูมาถ่ายเวดดิ้งได้อย่างไร ถ่ายงานแต่งดารายากกว่าคนทั่วไปไหม อะไรคือสิ่งที่ให้เขายืนระยะได้และเป็นที่ไว้วางใจของลูกค้า

     เคน-นครินทร์ คุยกับ ภูริต เนติมงคลชัย หรือ Vin Buddy  

 


 

01.08

     จากชีวิตวัยรุ่นที่เป็นนักดนตรี แต่พอได้ลองหยิบกล้องไปถ่ายรูปเล่นๆ ก็เกิดสนุกและติดใจ จนถึงขั้นไปรับจ้างถ่ายงานวันรับปริญญา จากนั้นก็เริ่มหาเงินจากการถ่ายรูปได้เรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็ได้เข้ามาเป็นช่างภาพอยู่ที่บริษัทแกรมมี่ แต่พอทำงานไปได้ปีนึง ก็เห็นว่าอนาคตตัวเองไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ เขาเลยลาออกไปเรียนต่อด้านถ่ายรูปที่ออสเตรเลีย พอกลับมาก็เลยอยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งยังไม่ใช่ธุรกิจเกี่ยวกับเวดดิ้งหรอกนะครับ แต่เป็นสตูดิโอถ่ายสุนัข

 

     “ผมเป็นคนที่ชอบทำอะไรที่ตัวเองชอบ เลยเอาสามอย่างที่ชอบมาบวกกัน ถ่ายรูป เลี้ยงหมา และการทำธุรกิจ ตอนนั้นลองรีเสิร์ชดูว่ามีธุรกิจสตูดิโอถ่ายสัตว์ที่เมืองไทยหรือยัง สรุปว่าที่เมืองไทยยังไม่มี ในเอเชียก็ยังไม่มี พอบอกแม่ว่าจะทำแม่ก็ด่าว่าไปเรียนถึงเมืองนอกมา แต่กลับเลือกมาถ่ายหมา”
     “พอเปิดไปได้เดือนแรก สื่อเข้ามาให้ความสนใจเยอะมาก เราใช้ชื่อว่า Buddy Puppy Studio คำว่า Buddy มาจากเราทำงานแล้วอยากให้เขารู้สึกเป็นเพื่อน พอมาทำเวดดิ้งก็เลยใช้ Vin Buddy”

 

02.36

จากถ่ายหมาสู่เวดดิ้ง
     “พอสื่อเข้าเยอะ มันก็เริ่มมีพวกเซเลบริตี้ พวกไฮโซมา เค้าเห็นว่า เฮ้ย ถ้าถ่ายหมาได้ ก็ต้องถ่ายคนได้สิ งั้นถ่ายงานแต่งงานให้หน่อยได้ไหม

     “การถ่ายหมามันยากมาก มันต้องอาศัยจังหวะและทักษะสูง เค้าคงเห็นว่าเราทำงานยากได้แล้ว เค้าเชื่อเรา เค้าอยากให้เราทำอย่างอื่นให้ต่อ ลูกค้าที่ถ่ายหมา มาเป็นลูกค้าเวดดิ้งเยอะ ทุกวันนี้ยังติดต่อกันอยู่เลย”

 

 

03.46

จุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มมีชื่อเสียง
     “ผมว่ามันหนีไม่พ้นการมีคนดังเข้ามาช่วย อย่างงานแต่งของ หนิง-ปณิตา ก็มีส่วนในการทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น สมัยนั้นโซเชียลยังไม่มีมากเท่าไหร่ มาหนักสุดคืองาน แอฟ-ทักษอร เป็นงานแรกที่มีคนแชร์ในโซเชียลเยอะมาก ได้ลงไทยรัฐหน้า 1 หลังจากนั้นก็มีงานคนดังตามมาอีกมากมาย”

 

05.30

เสน่ห์ของการถ่ายเวดดิ้ง
     “มันมีความท้าทาย ในความเป็นแพตเทิร์นของงานแต่งงานบ้านเรา มันมีความไม่เป็นแพตเทิร์นอยู่ ระหว่างบ่าวสาวกับครอบครัว แต่ละบ้านแสดงออกไม่เหมือนกัน บางบ้านเดี๋ยวก็รัก เดี๋ยวก็กอดกัน แสดงความรู้สึกตลอด บางบ้าน ไม่เคยกอดพ่อแม่ ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย สิ่งที่เราต้องคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาคือ เราต้องเก็บโมเมนต์ต่างๆ ในงานให้ได้ ช่วยสร้างโมเมนต์ อีกนิดเดียว มันจะดีแล้ว
     “รู้ว่าอยากแต่เกิดมาไม่เคย เราก็อาจจะต้องบิลด์เค้านิดนึง แต่ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่เข้าไปยุ่งเลย ชอบมองอยู่ข้างนอก และคอยฉวยโอกาส ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่เหมือนช่างภาพสมัยก่อนที่ต้องคอยพูดสั่งตลอด  มันไม่ใช่หน้าที่ที่ช่างภาพควรจะทำสำหรับผม”

 

จุดขาย

     “ที่ลูกค้าหรือสื่อบอกมาคือ ผมแคปเจอร์โมเมนต์ได้ดีกว่า หรือรูปหนึ่งใบผมมันสามารถเล่าเรื่องได้หลายอย่าง ถ้าถามตัวผม ผมไม่แน่ใจ ผมรู้แค่ว่าผมชอบถ่ายแบบนี้ แต่คนจะชอบไหม แล้วแต่คนตัดสิน”

 

07.58

การฝึกฝนตัวเอง
     “ตั้งแต่เริ่มถ่ายรูปมา ผมมั่วทุกอย่างด้วยตัวเองตลอด ตั้งแต่ตอนอยู่ออสเตรเลีย ผมใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองอยากทำ
     “ฝึกฝนของผมคือการออกไปถ่าย ยิ่งถ่ายเยอะ ยิ่งมีประสบการณ์เยอะ ยิ่งโปรเซสตัวเองเยอะ ขั้นตอนโปรเซสรูปมันจะได้ดูสิ่งที่ตัวเองทำ ว่ามันดียังไง จุดพลาดเรา อุปกรณ์เรา ตอนแต่งสีทำรูป เราจะได้เห็นทุกอย่าง”

 

“สิ่งที่ผมสอนเด็กๆ ที่มาเรียนกับผมตลอด คือให้ดูรูปเยอะๆ เพราะมันเป็นการสร้างมาตรฐานตัวเอง ว่าอะไรที่เราชอบ คนหนึ่งคนดูรูปเดียวกัน ชอบไม่เหมือนกัน พอเราดูเยอะๆ เราจะรู้แล้วว่ารูปแบบนี้แหละที่เราชอบ สีนี้แหละที่เราชอบ และเราจะพยายามทำตัวเองให้ไปถึงมาตรฐานนั้น รูปมันมีหลายแบบ ยิ่งดูเยอะ คราฟต์ตัวเอง มันยิ่งกลมขึ้นเรื่อยๆ เราจะเอาตัวเองไปอยู่ในวงกลมนั้น จนมาเป็นบางสิ่งที่เป็นตัวเรา”

 

13.45

ความยากของการถ่ายเวดดิ้ง

     “นึกตามนะครับ ผมเป็นช่างภาพเวดดิ้ง คนที่มาจ้างเป็นลูกค้า อ้วนมาเลย ไม่เคยเป็นแบบ ผู้ชายก็ไม่อยากถ่าย ต่อต้าน

     “ผมโดนคนพวกนี้จ้างมา ช่วยทำให้ดูดีหน่อย แล้วจะทำยังไง มองกลับกัน การถ่ายแฟชั่น ผมโดนจ้างโดยบุคคลที่ 3 ซึ่งไปจ้างบุคคลที่ 2 มาอีกที สวยมาเลย ไม่ต้องบอกเดี๋ยวโพสต์เอง รู้หมดมุมไหนตัวเองสวย แต่พอเป็นเวดดิ้งมันยากตรงนี้แหละครับ ผมว่าถ้าเราถ่ายให้มันดีได้ อย่างอื่นมันง่ายหมด เพราะการถ่ายเวดดิ้งลูกค้าไม่รู้จะทำยังไง เรามีหน้าที่ทำให้เค้าอารมณ์ดี ยิ้ม ไม่ตีกัน โดยที่เราอารมณ์ดีอยู่ด้วย แต่ว่าพอเสร็จแล้วมันก็เป็นเรื่องสนุก

     “ผู้ชายบางคนไม่คุยกับผมเลย มา 2-3 รอบก็ยังไม่คุย แต่พอเดินไปหลังบ้านผม เจอบิ๊กไบค์ เท่านั้นแหละครับ พูดเป็นต่อยหอย เอาไรเชื่อคุณวิน พี่เค้าโอเค พี่เค้าเก่ง (หัวเราะ)”

 


“เริ่มจากตัวเองต้องเริ่มขำก่อน คุมเค้าให้อยู่ ดูให้ออกว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มันใช้จิตวิทยาเยอะมาก ถ้ารู้จักช่างภาพที่มีชื่อเสียงหน่อย ทุกคนจะมีความพูดเก่ง ต้องกะล่อนนิดนึง จะหลอกล่อ โน้มน้าว ขำปุ๊บกดถ่าย ตาอยู่กับ viewfinder มืออยู่กับกล้อง แต่ปากก็พูดไปด้วย”

 

คำพูดหมัดเด็ด
     “แทนที่จะให้เค้ายิ้ม ผมจะให้เค้าพูดคำว่า ขี้ มันก็จะกลายเป็นมุกที่ทำให้คนอื่นขำ แต่มันก็ไม่เวิร์กเสมอไปหรอก ก็หามุกกันใหม่

     “จิตวิทยาสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ต่อจากทักษะการถ่ายรูป”

 

 

18.05

การถ่ายงานแต่งให้ดารา

     “ผมว่าไม่ต้องเอาถึงระดับคนดังหรอกครับ เอางานที่ใหญ่ขึ้น สเกลที่มีความรับผิดชอบสูงขึ้น สิ่งหนึ่งที่ต้องดีลคือสภาพจิตตัวเอง วันที่เริ่มถ่ายดาราใหม่ๆ เราคิดว่าเค้าเป็นเทวดาเหลือเกิน เรามันช่างธรรมดา จะพูดแบบไหนกับเค้าดี พูดแบบนี้จะโดนด่าไหม มันต้องคุมจิตใจตัวเอง ต้องเอาตัวเองให้อยู่ และต้องสั่งเค้าให้ได้ ถ้าเค้าไม่ทำค่อยว่ากัน ค่อยหาวิธีใหม่ แรกๆ มันจะเกรงใจ แต่พอทำๆ ไป ผมก็เริ่มใช้สรรพนาม ‘มึง’ ‘กู’ กับดาราทั้งหลาย อย่างกุ๊บกิ๊บกับบี้ ใช้เวลาไม่เกินสองวันที่เจอ ก็เรียกมึงกูกับเค้าเลย ทุกวันนี้ก็สนิทกันมาก”

 

ดีเทลการถ่ายดารา ต่างกับคนทั่วไปไหม
     จริงๆ ก็เหมือนคนทั่วไป แต่งานใหญ่เครียดกว่า เราอาจจะไม่รู้ว่าพวกเค้าก็เกรงใจเรา เอาจริงๆ ผมยังเกร็งทุกครั้งที่ต้องถ่ายงานกับคนไม่รู้จัก และยิ่งเกร็งก็ยิ่งทำงานไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่า เท่าที่สัมผัสมาในฐานะที่เราชื่อนี้ เค้าก็เกรงใจเราเหมือนกัน
     “สภาพจิตใจเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าผมหลุดไปคนเดียว ทั้งทีมจะไปด้วย บางทีโคตรเกลียดลูกค้าคนนี้เลย แต่บอกทีมไม่ได้ เดี๋ยวไประบายให้มันฟังตอนเลิกงาน ถ้าบอกทันที ทีมจะมีอารมณ์ร่วมตอนทำงาน และไม่สามารถจดจ่อกับงานได้ และจริงๆ เป็นเรื่องที่ทีมงานควรจะรู้ เพราะลูกค้าแต่ละคู่ที่ได้มามันไม่ง่าย”

 

27.50

ความผิดพลาด

     “ผมไม่ค่อยแคร์กับเรื่องที่มันผิดพลาดเท่าไหร่ เราทำมานานแล้ว เกิดการผิดพลาดน้อย เราพยายามพัฒนา เช่น ช่างภาพทุกคนงานเยอะ เค้าจะส่งงานกันแบบแต่งวันนี้ อีกสามเดือนถึงจะเห็นรูป แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้ พอถ่ายเสร็จ ผมกลับบ้านไปเอารูปลงคอม เลือกที่ชอบมา 10-20 รูปแล้วส่งให้เค้าเลย บางคนงานยังไม่เลิก ยังปาร์ตี้กันอยู่เลย เค้าก็ประทับใจ ลงโซเชียลของเค้า
     “ช่างภาพบางคนส่งงาน 6 เดือน ทีมเราเป็นทีมแรกที่ทำ งานดารามันบีบบังคับให้ทำ เพราะเราต้องส่งสื่อ ผมรู้สึกว่า คนธรรมดาเค้าก็อยากได้แบบที่ดาราอยากได้นะ เราจะปฏิบัติเท่ากันทุกคน ไม่ว่าจ่ายราคาเท่าไหร่

     “งานดาราผมเพิ่มช่างภาพมาอีกแค่คนเดียวเองครับ นอกนั้นเหมือนกันหมด”

 

29.45

ทุกวันนี้ยังลงไปถ่ายรูปเองเพราะอะไร
     “มันเป็นกรรมครับ มันเป็นกรรมของคนทำศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่ขายความเป็นตัวเอง ไปขายอะไรที่มันเป็นแพ็กเกจ ตัวตนเราเริ่มหายไปเรื่อยๆ ถ้าผมไม่ถ่ายเอง ไม่แต่งรูปเอง ผมก็จะไม่เรียนรู้ว่าสิ่งที่ผมทำผิดพลาดคืออะไร ก็ไม่มีการพัฒนาตามมา”

 

     “สิ่งที่ทีมเราไม่เหมือนทีมอื่นคือ ทีมเราอยู่ด้วยกันมานาน คนเราเข้ายาก ออกยาก ไม่รับคนนอก ผมจะเลี้ยงเด็กอยู่แบบนี้ ผมได้เงินเยอะขึ้น เค้าก็ต้องได้เงินเยอะขึ้น ช่างภาพผมไปเที่ยวยุโรปปีละ 3 รอบ ขับบีเอ็มป้ายแดง ถ้าเราเลี้ยงเค้าให้ดี เราก็ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเรื่องเดี๋ยวเด็กจะออก งานไม่เสร็จ สิ่งที่ตามมาคือคุณภาพของงานค่อนข้างคงที่”

 

 

32.07
ทำไมถึงเริ่มทำเวดดิ้งแพลนเนอร์
     “ผมเป็นช่างภาพไม่ได้อีกนาน แก่ลงเรื่อยๆ แต่เวดดิ้งแพลนเนอร์ แก่แล้วก็ยังเป็นได้ อีกอย่างคือเวดดิ้งแพลนเนอร์เป็นเรื่องสำคัญ พอเรามาทำเอง เราคุมได้ทุกอย่าง ผมในฐานะช่างภาพ ผมอยากได้ไฟแบบไหน ก็สามารถจัดการได้ ข้อต่างของเวดดิ้งแพลนเนอร์คนอื่นคือ เค้าไม่รู้ในสิ่งที่ผมรู้ และเค้าไม่รู้ว่าช่างภาพอยากได้อะไร อย่าลืมว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด ไม่ว่าจะจัดงานมากี่ล้านก็แล้วแต่ สิ่งสุดท้ายคือ ภาพและความทรงจำ ถ้าเกิดว่าวันงาน ผมในฐานะที่เป็นคนเก็บภาพเหล่านั้น ถ้าผมสามารถคุมอุปกรณ์ทุกอย่างได้ สั่งการได้ รู้ว่าอะไรควรอยู่ยังไง
     “อย่างงานแต่ง เบนซ์-พรชิตา เค้าบอกไม่อยากร้องไห้แล้ว แต่ผมอยากให้ร้อง เพราะรู้ว่าสื่อจะสนใจ มันมีผลประโยชน์มากกว่า เราก็เตรียมกับทีมงานให้เปิดพรีเซนต์ จัดไฟแบบที่ต้องการ พอถึงเวลา เรารู้เลยว่าทำแบบนี้ยังไงก็ร้องไห้ชัวร์ พอถึงเวลาให้เบนซ์กราบแม่ เรียบร้อย”

 

35.20

วิธีคิดเรื่องของธุรกิจ

     “เอาที่สนุกเหมือนกันครับ เราอิงราคาตลาดด้วยส่วนหนึ่ง จริงๆ การพัฒนาของราคา เราตามตลาด เราเคยตั้งไว้เท่านี้ พอพอร์ตเยอะขึ้น คนโทรเข้ามาเต็มเลย อยากได้นู่นนี่นั่น มันเป็นสัญญาณให้รู้เลยว่า ต้องขึ้นราคาแล้ว ให้งานน้อยลง แล้วก็พัฒนาไป ในขณะที่ได้งานเท่าเดิมหรือน้อยลง”

 

     “ถ้างานเข้าตลอดเลย แต่เราได้เงินเท่าเดิม นั่นแปลว่างานเริ่มราคาถูกเกินแล้ว ถ้ารู้สึกว่างานเยอะเกินไป ต้องขึ้นราคา รับงานน้อยลง เน้นคุณภาพมากขึ้น”

 

     “ทุกวันนี้ราคาเราไม่ได้แพงที่สุด ราคาเราถูกที่สุด 1 ใน 5 ทีมที่ทำงานแนวนี้ ผมคุยกับเพื่อนว่า หลักการที่ทำงานอย่างหนึ่งคือ อยากทำให้คนมีความสุข ผมชอบคำว่าเอนเตอร์เทนเนอร์มาตั้งแต่เด็ก ถ้าคนเค้าอยากใช้บริการเรา และจะทำให้เค้ามีความสุขจริงๆ เค้าจะมาใช้บริการไม่ได้ ทุกวันนี้เรายังอยู่หลักหมื่นปลายๆ ครับ คือแถวบ้านเรียก 9 หมื่น แต่ผมไม่อยากให้เริ่มมาก็แสนหลายแสนเลยมันหดหู่เกินไป
     “มันจะมีอินบ็อกซ์มาบ่อยๆ ว่าติดตามผลงานเรามาตลอดเลย แต่คงไม่มีโอกาสได้ใช้บริการ พอฟังแบบนี้บ่อยๆ ผมก็เลยลองจัดโปรโมชันถ่ายฟรีคู่หนึ่ง ให้คนเล่นเกมก็มี”

 

 

44.33

แนะนำคนที่อยากทำธุรกิจนี้
     “ถ้าเรื่องของแนวช่างภาพ สิ่งที่ควรจะทำคือการฝึกฝนตัวเองให้ดีและพร้อมอยู่เสมอครับ มีคนเข้ามาถามผมว่า ผมขึ้นมาจนมีคนรู้จักเยอะได้ไง เค้าไม่ได้มาแบบผม เค้าไม่ได้มีโอกาส ผมก็บอกว่าสิ่งที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ ผมเองไม่ได้มีโอกาสตั้งแต่แรก ผมจบโรงเรียนวัด โตมาท้ายตลาดด้วยซ้ำ อยู่แบบบ้านๆ ไม่ได้มีอะไรเลย ผมก็ถามเค้ากลับไปว่า ถ้ามีคนเดินมาบอกว่าพรุ่งนี้พี่เบิร์ด-ธงไชย จะแต่งงาน จะให้คุณถ่าย งานนี้ต้องดังแน่เลย คุณพร้อมรับไหม ความรับผิดชอบขนาดนี้ ถ้าคุณกล้าและพร้อมจริงๆ แสดงว่าคุณฝึกฝนตัวเองจนควรได้รับโอกาสนี้แล้ว แต่ถ้าคุณบอกว่าไม่ มันใหญ่เกินไป มันคอขาดบาดตายเกินไป โอกาสมันก็ไม่มีประโยชน์ครับ ดังนั้นทำให้ดีที่สุด ฝึกฝนตัวเอง ทำสิ่งที่ตัวเองรัก ถ้ามีโอกาสเข้ามา เราก็มีโอกาสจะขึ้นมาครับ”

 

47.52
ความสุขในการทำงาน
     “ผมพูดอีกทีว่าผมทำทุกอย่างด้วยความสุข ทำที่ตัวเองชอบ ทำที่ตัวเองสนุก การทำให้คนอื่นมีความสุข บางครั้งมันมีความสุขมากกว่าการรับเงินนะ มันอาจเป็นจุดที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้ สนุกกับสิ่งที่ตัวเองทำครับ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร”

 

“มันเป็นคำพูดบ้านๆ ที่บอกว่า ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ ผมได้ยินคำนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่พอมาทำจริงมันก็คือคำนี้แหละ สมมติว่าผมถ่ายรูปมา ผมต้องถ่ายจนผมอยากกลับไปทำรูปนี้ และยังแฮปปี้ที่ได้ดูมันอีก อันนี้คือจุดมุ่งหมายในการทำงาน”

 

50.30

The Secret Sauce

  • อยากเก่งต้องมั่ว ยิ่งลงมือทำจะรู้ว่าความผิดพลาดคืออะไร แล้วกลับมาเรียนรู้ และฝึกฝนตัวเองจากการมั่ว
  • หาจุดเด่นให้เจอ Vin Buddy โดดเด่นเรื่องการใช้จิตวิทยา ต้องดูให้ออกว่าเขาชอบไม่ชอบอะไร
  • อย่าสองมาตรฐาน รับงานดารากับคนธรรมดาเท่ากัน มาตรฐานเดียวกัน
  • เลี้ยงดูทีมงานให้ดีที่สุด หัวหน้าได้เงินเยอะ ลูกน้องต้องได้เยอะตาม วิธีนี้สามารถรักษาคนที่เก่งไว้กับตัวได้
  • สนุกกับสิ่งที่ทำ มีความสุขกับสิ่งที่ทำ ถ่ายให้ดีจนอยากกลับไปทำรูป เห็นผลงานแล้วแฮปปี้

 


 

Credits

 

The Host นครินทร์ วนกิจไพบูลย์

The Guest ภูริต เนติมงคลชัย

 

Show Creator นครินทร์ วนกิจไพบูลย์

Episode Producers ปวริศา ตั้งตุลานนท์, อธิษฐาน กาญจนพงศ์

Episode Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director กริณ ลีราภิรมย์

Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

Photographer อธิษฐาน กาญจนพงศ์

Music Westonemusic.com

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising