×

ทำงานและลงทุนแบบมนุษย์เงินเดือนสายพันธุ์ใหม่ Feat. นานิ นิธินวกร

17.01.2021
  • LOADING...

ทำงานเก่งแล้วอยากลงทุนให้เก่งด้วย เป็นไปได้ไหม

 

โค้ชหนุ่ม และ โอมศิริ ชวน นานิ นิธินวกร เจ้าของหนังสือ สร้างเงินล้านก่อนเรียนจบ และ สร้างเงินล้านด้วยงานออฟฟิศ มาพูดคุยถอดวิธีคิด ทำอย่างไรถึงมีเงินล้านตั้งแต่อายุ 20 บทเรียนการทำงานทั้งจาก Grab, Agoda และปัจจุบันคือ Senior Product Owner ของ Revolut ดิจิทัลแบงกิ้งสัญชาติอังกฤษ 

 

รวมทั้งแง่มุมด้านการลงทุนที่เรียนรู้จากความผิดพลาด และแนวคิดใหม่อย่างการ ‘ลงทุนในบริษัทที่ทำงาน’ จริงๆ แล้วเป็นอย่างไร

 


 

อยากได้ความรู้เพิ่มเติมที่ตอบโจทย์การลงทุน เหมาะกับผู้ที่อยากเตรียมพร้อม ก่อนเริ่มลงมือ เข้าไปอ่านข้อมูลดีๆ ได้ที่ https://www.setinvestnow.com/th/home   ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

อยากเปิดบัญชีลงทุน www.setinvestnow.com/openacc คลิกไปที่เมนูเปิดบัญชี และคลิกต่อไปยังโบรกเกอร์ที่พร้อมให้บริการได้ง่ายๆ

 


 

การเรียนรู้ของเราเริ่มต้นจากความผิดพลาด

 

ก้าวเข้าสู่โลกการเงินการลงทุนได้อย่างไร 

เริ่มมาจากการที่คุณพ่อของเราเริ่มศึกษาเกี่ยวกับการเงินการลงทุนด้วยตัวเองก่อน เวลาที่เขาอ่านหนังสืออะไร ได้ยินได้ฟังอะไรมา เขาก็จะมาเล่าให้เราฟังอยู่ตลอด ตั้งแต่เราเรียนอยู่ช่วงประถมปลาย รวมถึงในวันเกิดเรา คุณพ่อก็มักจะให้หนังสือเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุน ทำให้เราสนใจและศึกษาตามคุณพ่อมาเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งเราก็เริ่มอยากลองลงทุนเอง เราก็เริ่มลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์จากเงินแต๊ะเอียของตัวเองก่อน ซึ่งช่วงนั้นก็ได้ผลตอบแทนกลับมาค่อนข้างดี จากนั้นก็ลงทุนเองมาเรื่อยๆ ระหว่างช่วงก่อนไปเรียนที่สิงคโปร์จากการสอบชิงทุนได้ เราก็ไปหารายได้ด้วยการสอนพิเศษ เพื่อที่จะนำเงินที่ได้มาลงทุนในพอร์ตเพิ่มขึ้น โชคดีมากที่ช่วงนั้นตลาดเป็นขาขึ้น ทำให้ก่อนอายุ 20 ปีเราก็สามารถมีเงินล้านได้ เราจึงเริ่มเขียนหนังสือ สร้างเงินล้านก่อนเรียนจบ แต่ผ่านมาสักระยะหนึ่ง เราก็เริ่มเจ็บตัวกับการลงทุน จุดนั้นเองเป็นจุดที่เราได้เริ่มเรียนรู้จริงๆ 

 

เป้าหมายหลังจากที่ได้จับเงินล้านแล้วคืออะไร 

โดยส่วนตัวเราเป็นคนอยากมีอิสรภาพทางการเงินอยู่แล้ว และอยากมีก่อนอายุ 35 ปีด้วย อิสรภาพในความหมายของเราคือ การที่ตัวเราเองสามารถเลือกได้ว่าจะทำงานประจำหรือไม่ หรือพูดง่ายๆ ว่าการมีอิสระที่จะเลือกได้ แต่เราก็ยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบร่วมกับครอบครัว ทำให้ต้องค่อยๆ สร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

อะไรคือเป้าหมายในการทำงาน

เรามองว่าการทำงานประจำจะทำให้พอร์ตการลงทุนของเราโตขึ้นได้มากกว่าการที่เราออกมาเป็นนักลงทุนเต็มเวลา แต่ช่วงแรกที่ทำงานประจำ เราก็แทบไม่มีเงินเก็บเลย เพราะเราทำงานที่ไทย และเรตเงินเดือนของไทยก็ไม่ได้สูงเท่าในต่างประเทศ เราจึงเริ่มคิดที่จะพัฒนาตัวเองเป็นมนุษย์เงินเดือนสายพันธุ์ใหม่ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขียนหนังสือเล่มที่ 2 ที่ชื่อว่า สร้างเงินล้านด้วยงานออฟฟิศ ในจุดนั้นเราได้เรียนรู้ว่าเราต้องพยายามควบคุมค่าใช้จ่าย เพื่อให้สามารถแบ่งเงินมาลงทุนต่อเนื่องได้ตามที่ตั้งใจไว้ โชคดีที่เรามีโอกาสในงานใหม่ๆ ด้วย เราก็พยายามผลักตัวเองไปทำงานในบริษัทที่เป็นสายเทคสตาร์ทอัพ จนวันหนึ่งก็สามารถเข้าทำงานที่บริษัทในสิงคโปร์ได้จริงๆ เราจึงเริ่มเก็บเงินได้ตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็เริ่มสนุกกับการลงทุน ไม่ได้เคร่งเครียดเท่ากับช่วงแรก เพราะโดยส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าเราใฝ่ดี เราจะได้รับโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเสมอ

 

เราต้องมองหาบริษัทที่เติบโตไปกับเขาได้ เพราะการทำงานถือเป็นการลงทุนกับบริษัทนั้นๆ ด้วยเช่นกัน

 

ชื่นชอบการลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่มไหนเป็นพิเศษ

ตั้งแต่แรกที่เริ่มลงทุน เราก็เลือกหุ้นกลุ่มที่เราคิดว่าตัวเองรู้จริงมาตลอด หุ้นที่เราศึกษามันอย่างจริงจัง ช่วงที่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ เราก็ทำมากกว่าคนอื่น เพราะมีความเชื่อว่าถ้าเราฉลาดให้เท่าคนอื่น แต่ขยันกว่าคนอื่นสองเท่า เราก็ได้สองเท่า จึงได้โปรโมตค่อนข้างเร็ว ตอนโปรโมตทางบริษัทก็ขึ้นเงินเดือนให้ และได้ถือหุ้นบริษัทด้วย เพราะเขาต้องการให้เราอยู่กับเขานานๆ เราก็รู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย พอย้ายที่ทำงาน เขาก็ให้หุ้นเราอีก แต่ก็ต้องอยู่ให้ครบปีตามเงื่อนไขของบริษัท ช่วงนั้นเราก็เริ่มศึกษาการเติบโตของหุ้นแต่ละตัวแบบจริงจัง ก็ทำให้รู้ว่าเราต้องมองหาบริษัทที่เราเติบโตไปกับเขาได้ เพราะการทำงานถือเป็นการลงทุนกับบริษัทนั้นๆ ด้วยเช่นกัน ต่อมาเราก็ได้เข้าทำงานในบริษัทฟินเทคตามที่ตั้งใจไว้ แนะนำน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มทำงานว่า ในชีวิตช่วงแรกของการทำงานประจำ ให้โฟกัสการมีหัวหน้าที่ดีก่อนการมีเงินเดือนเยอะ เพราะมันมีผลกับโอกาสที่เราจะได้รับด้วย และโดยส่วนตัวมองว่าเรื่องการเงินการลงทุนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อยากให้ประเทศไทยปลูกฝังเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กๆ เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับเด็กไทยอย่างมาก 

 

ฉลาดให้เท่าคนอื่น แต่ขยันมากกว่าคนอื่นสองเท่า

 

จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อการทำงานและการลงทุนมากน้อยแค่ไหน

ตัวเราเองก็เจอผลกระทบอยู่เหมือนกัน แต่มองว่ามันเป็นการตอกย้ำให้เรารู้ว่า การวางแผนล่วงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ช่วงเวลาที่เกิดวิกฤต ให้สังเกตว่ามันจะมีเรื่องอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น หุ้นก็จะลง หรือบางคนอาจจะถูกให้ออกจากงาน ดังนั้นถ้าเราไม่มีเงินสดอยู่กับตัวเลยจะลำบากมาก สถานการณ์โควิด-19 ทำให้เรารู้ตัวว่าต้องเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับเราในอนาคต 

 

อยากฝากอะไรถึงนักลงทุนรุ่นใหม่

แนะนำว่าให้มองตัวเองเป็นหุ้นตัวหนึ่งในบริษัท แล้วถ้าเราเป็นบริษัทนี้ เราจะลงทุนอย่างไรให้บริษัทเติบโต ก่อนอื่นต้องวางกลยุทธ์ของตัวเองให้ได้ว่าจะให้บริษัทนี้ขยายไปในทิศทางไหนบ้าง เพื่อให้มันเติบโตได้ในระยะยาวและยั่งยืน ได้ผลกำไรมาก็นำไปลงทุนต่อ พูดง่ายๆ คือให้มองตัวเองเป็นบริษัท และทำตัวเองให้เป็นบริษัทที่น่าลงทุน นอกจากนี้สิ่งสำคัญในชีวิตนอกจากเรื่องเงินและการลงทุนของตัวเราเอง เราต้องไม่ลืมครอบครัวและเพื่อน เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาคือคนที่คอยเติมเต็มและสนับสนุนเราจริงๆ

 

มองตัวเองเป็นบริษัท และทำตัวเองให้เป็นบริษัทที่น่าลงทุน

 


 

สามารถฟังพอดแคสต์ The Money Growth by The Money Coach
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย

 


 

Credits

 

The Hosts จักรพงษ์ เมษพันธุ์, โอมศิริ วีระกุล

Show Creator จักรพงษ์ เมษพันธุ์

Executive Producer เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Project Manager ณปภัช ฤทธิอัครกุล

Show Producer โอมศิริ วีระกุล

Sound Editor เชษฐพงศ์ ชูประดิษฐ์
Video Editor เสาวภา โตสวาท

Sound Designer & Engineer กฤตพล จียะเกียรติ

Recording Engineer ขจีพรรณ วิจิตรรัตน์
Videographer ศศิพิมพ์ อนันตกรณีวัฒน์
Graphic Designer นิสากร ฤทธาภัย
Show note หนึ่งฤดี ธนสารวิสุทธิ์
Proofreader พรนภัส ชำนาญค้า
Webmaster ไชยพร ศิริกลการ
Channel Admin เอกราช มอเซอร์

Social Media Admin สุทธกิตติ์​ สุทธาวรรณกุล, ธิติกร ลิ้มทองมณี, วนัชพร ดวงนิล 
Archive Officer ชริน จำปาวัน

 

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising