วันนี้ (14 มกราคม) เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ (ช่วงเวลา 08.00 น.) พบว่า ผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลกของประเทศไทย เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 158 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 69.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนสาเหตุที่ฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเช้าเมื่อวานนี้ เกิดจากสภาพการจราจรหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า บวกกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างปิดและไม่มีฝน ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมและลอยตัวอยู่ในชั้นอากาศเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้หากจำแนกเป็นพื้นที่ต่างๆ ทั่วเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะพบว่า มีพื้นที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) 8 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์ ‘เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ’ โดยสามารถแบ่งเป็น 5 พื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงได้ดังนี้
- ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน (58)
- ริมถนนสามเสน เขตพระนคร (55)
- ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง (54)
- ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม และแขวงคลองเตย เขตคลองเตย (53)
- แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ (52)
ขณะเดียวกันบริเวณโซนภาคเหนือตอนบนของไทยมีการตรวจพบ PM2.5 เพิ่มมากขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปริมาณฝุ่นโดยรวมอยู่ที่ 26-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินมาตรฐานกว่า 12 พื้นที่ ส่วนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถูกเว็บไซต์ AirVisual จัดอยู่ในอันดับ 7 เมืองที่มีฝุ่นเยอะที่สุด โดยแบ่งเป็น 5 พื้นที่ภาคเหนือที่พบค่าฝุ่นสูงได้ดังนี้
- ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง (90)
- ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (76)
- ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง (75)
- ตำบลนาจักร อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ (74)
- ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (71)
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพ และควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทนการใช้รถส่วนบุคคล ตรวจสอบและไม่ใช้รถขนส่งสาธารณะที่มีควันดำ รวมทั้งขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างกับโรงงานอุตสาหกรรม ควบคุมและลดการระบายฝุ่นและมลพิษทางอากาศด้วย
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ AirVisual หรือทางแอปพลิเคชัน AirVisual ทั้งในระบบ Android และ iOS เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นบริเวณนั้นๆ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า