วันนี้ (8 มกราคม) เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ (ช่วงเวลา 08.00 น.) พบว่า ผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลก ประเทศไทยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 181 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไทยถูกยกให้เป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก ส่วนอันดับ 1 เป็นเมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย พบค่าฝุ่นที่ 242 US AQI เป็นปริมาณสูงที่สุดในโลกช่วงเวลานี้
ทั้งนี้สาเหตุของฝุ่นที่ก่อตัวมีปริมาณสูงในช่วงเช้าเกิดจากสภาพการจราจรหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในหลายพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครมีลมสงบถึงลมอ่อนทั้งสัปดาห์ ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้หากจำแนกเป็นพื้นที่ต่างๆ ทั่วเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะพบว่ามีพื้นที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) กว่า 38 จุด เยอะกว่าเมื่อวานนี้ในช่วงเวลาเดียวกันเกือบเท่าตัว โดยสามารถแบ่งเป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูง 5 อันดับแรก ดังนี้
- ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง และตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ (71)
- แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร (70)
- ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน และตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ (68)
- ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง, ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ และริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม (67)
- ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา และแขวงคลองเตย เขตคลองเตย (66)
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพและลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทนการใช้รถส่วนบุคคล ตรวจสอบ และไม่ใช้รถขนส่งสาธารณะที่มีควันดำ และขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรมควบคุมและลดการระบายฝุ่นและมลพิษทางอากาศด้วย
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ AirVisual หรือทางแอปพลิเคชัน AirVisual ทั้งในระบบ Android และ iOS เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นบริเวณนั้นๆ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า