วันนี้ (7 สิงหาคม) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าตรวจความพร้อมการเปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมดูพื้นที่ทางวิ่งเส้นที่ 3 บริเวณอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ด้านทิศตะวันตก และระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับ เพื่อใช้ในการรับส่งผู้โดยสารระหว่างตัวอาคารผู้โดยสารหลักกับอาคาร SAT-1
โดยอาคาร SAT-1 จะเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในปลายเดือนกันยายนนี้ ก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อีกโครงการที่ทางคณะได้ติดตามความคืบหน้าวันนี้คือการพัฒนาทางวิ่งหรือรันเวย์ เส้นที่ 3 ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 73 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2567 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังได้ชื่นชมการตกแต่งสวนและภูมิทัศน์ที่ผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยนำสัตว์หิมพานต์มาจัดไว้ให้ผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศบริเวณชั้น 2 และ 3 ของอาคาร ให้ได้ชมถึงศิลปะและวัฒนธรรมไทย และขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกันทำงานของรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายอย่างที่ได้ทำไว้แล้ว ซึ่งตนจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนในพื้นที่ EEC สนามบินอู่ตะเภา ท่าเรืออีกครั้ง เพราะนี่คือผลงานที่รัฐบาลได้เริ่มไว้แล้ว จะถือเป็นความก้าวหน้า
“ถ้าเราไม่ร่วมมือกันมันทำไม่ได้ทั้งหมด และนี่คือตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าวันข้างหน้าเราจะต้องร่วมมือกันอย่างนี้ ซึ่งจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นอีกมากมายหลายมิติ วันนี้จากการรับฟังรายงานทราบว่าทุกอย่างดีขึ้น นักท่องเที่ยวเข้ามาวันละ 150,000 คน ขณะเดียวกันการบินไทยเราก็พลิกฟื้นขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ และคาดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วกว่าเดิม 1 ปี ในการที่จะเป็นสนามบินแห่งชาติ ถือว่าทุกคนช่วยกัน
“ดังนั้นไม่ว่าจะติติงอะไรต่างๆ ก็ตาม อย่าลืมว่าเราทำอะไร และจะได้อะไร อะไรที่ยังไม่เคยทำ แล้วทำหรือเปล่า อันนี้ต้องคิดและช่วยกันทำความเข้าใจด้วย อย่าให้มันมีความขัดแย้งไปเรื่อยๆ ทุกๆ เรื่อง จนกระทั่งประเทศชาติเดินหน้าไปไม่ได้” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
