×

นายกฯ เปิดตึกไทยคู่ฟ้า วันเด็กแห่งชาติ พานั่งเก้าอี้นายกฯ สร้างแรงบันดาลใจ รับฟังข้อเสนอแนะจากคนรุ่นใหม่

โดย THE STANDARD TEAM
08.01.2022
  • LOADING...
นายกฯ เปิดตึกไทยคู่ฟ้า

วันนี้ (8 มกราคม) ในรายการกิจกรรมงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ทำเนียบรัฐบาล ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พาตัวแทนเด็กเยาวชน 5 คน นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจแก่เด็กและเยาวชนในอนาคต พร้อมทั้งได้นั่งพูดคุยกับเด็กเยาวชนถึงความสนใจในด้านต่างๆ และความใฝ่ฝันถึงอาชีพที่อยากทำในอนาคต ได้แก่

 

ด.ญ.เพชร เพชรทอง อยากเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง, ด.ญ.มลธนัช เผื่อนประเสริฐสุข ที่ชื่นชอบกีฬายิงปืน, ด.ญ.ภูวริศา อมาตยกุล อยากเป็นนักธุรกิจ, ปุณณานนท์ ตรีวรรณกุล ที่อยากนำผ้าไทย วัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่สู่สากล นายกรัฐมนตรียังชื่นชมความสามารถในการคิดเลขของ ด.ช.ปองคุณ บุญเกตุ พร้อมอวยพรขอให้เรียนวิชาที่ชอบอย่างสนุก ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และขอให้ทุกคนมีความฝัน มีความตั้งใจในสิ่งที่อยากทำ ตั้งเป้าอนาคตของตนเอง ค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบเพราะอาจมีหลากหลายด้าน ขอให้มีความกตัญญูรู้คุณต่อบิดามารดา เพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งในพลังการขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้าด้วยกัน 

 

จากนั้น ณ ตึกภักดีบดินทร์ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมพบปะและพูดคุยกับตัวแทนเด็กนักเรียนเยาวชนดีเด่นจากหลายสถานศึกษา เช่น โรงเรียนเอกชน โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่มีความประพฤติดีและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในด้านวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรม และการกีฬา รวม 19 คน โดยมี ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย  

 

พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบกับลูกหลานทุกคน ซึ่งการพบปะในครั้งนี้เป็นการผสมผสานระหว่างคนรุ่นเก่า คนรุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่ แต่เราก็เป็นคนยุคเดียวกัน และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของทุกคนที่ได้เป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติของเรา รวมทั้งเด็กและเยาวชนที่อุทิศต่อการทำงานเพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวม ดังคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีนี้ว่า “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม” ซึ่งหมายถึง คิดจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบ และที่สำคัญที่สุดนอกจากตัวเราและครอบครัวแล้ว ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เพราะเราคือส่วนหนึ่งของประเทศไทย ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม แผ่นดิน ผืนน้ำ ป่าไม้ ภูเขา ทั้งนี้ ความสำเร็จต่างๆ ของทุกคนก็เป็นเครื่องยืนยันว่าคนไทยเราไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร จากสถิติการไปแข่งขันในหลายประเภทก็ได้รับรางวัลในหลายสาขา ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าทุกคนจะสร้างชื่อเสียง สร้างอนาคตให้กับประเทศไทยในเรื่องของการพัฒนาและความก้าวหน้า 

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ยินดีที่จะสนับสนุนทุกกิจกรรมของเยาวชนไทยให้เป็นคนเก่ง มีคุณธรรม และมีจริยธรรม พร้อมยินดีที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำงานของรัฐบาล เพื่อจะร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปในทางที่ดีขึ้น หน้าที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล คือการรักษาความสงบเรียบร้อย ความมีเสถียรภาพ การเคารพกฎหมาย และยึดถือ ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอให้ทุกคนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานด้วย

 

ณัฐนรี ศรีอภิรัฐ ตัวแทนเยาวชนจากวิทยาลัยพณิชยการเชตุพน กล่าวถึงการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ยังมีบางคณะ บางสาขา และหลายมหาวิทยาลัยของรัฐ กำหนดคุณสมบัติไม่รับวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จึงอยากขอให้เปิดโอกาสให้นักเรียนวุฒิ ปวช. ได้ทำตามความฝัน ได้มีสิทธิ์ ได้สมัครสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ปัจจุบันที่นั่งของมหาวิทยาลัยมีมากกว่านักเรียนที่เข้าสอบ แปลว่ามหาวิทยาลัยยังรองรับได้อยู่ เพราะเด็ก ปวช. ทุกคนเทียบเท่ามัธยมศึกษาปีที่ 6 อยู่แล้ว อาจให้มีการลองไปปรับสาขาหรือระบบว่าต้องรองรับอย่างไร สิ่งที่มีอยู่แล้วเดิมคือหน่วยกิตที่ให้ตรงกับสาขาการรับตรง หรือถ้าเป็นระบบสอบก็ให้เป็นการสอบที่ใช้ข้อเขียนเป็นหลัก เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลคือให้ทุกคนสามารถเรียนอะไรก็ได้ ขอฝากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการไปดูระเบียบต่างๆ ด้วย 

 

ลิตา ตันติประภาส ตัวแทนเยาวชนจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวถึงกรณีปัญหาด้านสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน ที่มีปัญหาจากความเครียดและการเข้าสังคม และอยากให้นายกรัฐมนตรีส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตในแต่ละโรงเรียน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัจจุบันมีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ส่งผลให้มีการบ้านเยอะ พักผ่อนน้อย ซึ่งได้ให้มีการปรับกระบวนการการสอบวัดผลไปบ้างแล้ว และมุ่งเน้นการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จัดการเรียนการสอนแบบ On Demand ทบทวนกลุ่มสาระวิชา ให้เด็กสามารถเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำให้ประสานสอดคล้องกันตั้งแต่เด็กประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังแนะให้กระทรวงศึกษาธิการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้มีการเข้ามาพูดคุยกับเด็ก ๆ เพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาความเครียด โรคซึมเศร้า อีกด้วย 

 

วัตร แสงหงส์ ตัวแทนเยาวชนจากโรงเรียนตั้งพิรุฬห์ธรรม กล่าวขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยผลักดันระบบอินเทอร์เน็ตให้ดีขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ที่ทำให้ต้องกลับไปเรียนออนไลน์ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ปรับหลักสูตรพัฒนาครูให้สามารถเรียนออนไลน์ได้ รวมถึงมอบหมายให้ กสทช. ดูแลในด้านค่าใช้จ่ายตามงบประมาณ และขอให้นักเรียนทุกคนมีสมาธิเมื่อเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน คอยปรึกษาเพื่อน หรือการเรียนรู้ในชุมชนด้วยกัน

 

อมินตา เพิ่มพูนวิวัฒน์ ตัวแทนเยาวชนจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน กล่าวถึงความสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนของสภาพแวดล้อมภูมิอากาศ และอยากให้การศึกษาในระบบสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ Climate Change เข้าไปในแต่ละวิชา และเน้นการลงมือทำในการศึกษานอกระบบ ลงมือแก้ไขแบบ Project-based พร้อมส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย และอยากให้ภาครัฐและประชาชนร่วมกันสร้างสังคม Zero Waste ไปด้วยกัน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญเพราะคืออนาคตของลูกหลานพวกเรา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุม COP26 มา และได้จัดทำแผนแม่บทไว้แล้ว โดยได้กำหนดอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม และในเรื่องของการเรียนรู้ ต้องมีเรียนรู้นอกจากตำรา หรือ Active Learning คือไปศึกษาเรียนรู้แล้วปฏิบัติจริง สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ชุมชนของตัวเอง รู้จักบ้านตัวเอง รู้จักตำบล อำเภอ ชุมชน หมู่บ้านตัวเอง

 

พัทธ์ธีญา ยงค์สงวนชัย ตัวแทนเยาวชนจากโรงเรียนนานาชาติไทย-จีน กราบเรียนนายกรัฐมนตรี ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อคนทุกกลุ่ม โดยยังมีโรงงานหรืออุตสาหกรรมต่างๆ ที่ละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม และส่งผลกระทบทางลบต่อประชาชน ทางด้านสุขภาพ เศรษฐกิจสังคม อยากให้ชาวบ้านได้รับการเยียวยาและธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลได้มีการเดินหน้าแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเริ่มจากตัวเราทุกคน ควรเริ่มต้นโดยการให้ความรู้ ทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมาย กรณีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการใช้ถ่านหิน แต่ปัจจุบันถ่านหินลดลงก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือ เครื่องจักร และปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานที่เหมาะสม มุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด และดำเนินการเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้วัสดุทางการเกษตรเป็นต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า เพื่อกำจัดวัชพืช และปลูกพืชที่สามารถเป็นพลังงานได้ รวมถึงปรับเปลี่ยนการทำเกษตรไปด้วยเช่นกัน 

 

อภิญญา เจียมศักดิ์ ตัวแทนเยาวชนจากโครงการเด็กอวด(ทำ)ดี ได้สรุปโครงการจิตอาสาที่เด็กและเยาวชนได้ร่วมกันทำในทำนองเพลงพื้นบ้านโบราณของไทยเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับฟัง 

 

ในตอนท้าย พล.อ. ประยุทธ์ แนะให้เด็กและเยาวชนค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมโดยการอ่านหนังสือ แสวงหาความรู้จากการปฏิบัติจริงในสังคม ขอให้ทุกคนรักประเทศไทย นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบปะและรับฟังความคิดเห็นจากคนรุ่นใหม่ และคอยติดตามข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านทางโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ

 

 

ภาพ: สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising