×

‘ยักษ์เทเลคอม’ ฟิลิปปินส์ทรุดหนัก มาร์เก็ตแคปหายไปกว่า 5.3 หมื่นล้านเปโซ หลังรายจ่ายเกินงบ 4 ปีติด

19.12.2022
  • LOADING...

หุ้นบริษัท PLDT ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ กำลังพังทลายลงจากรายจ่ายที่เกินงบตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าที่มากกว่า 866 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งยังถูกตั้งคำถามในเรื่องการกำกับดูแลที่ไม่มีความโปร่งใส

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า บริษัท PLDT ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งใหญ่จากการที่มีรายจ่ายที่เกินงบตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยการสอบสวนภายในเกี่ยวกับรายจ่ายที่เกินงบได้สร้างรอยด่างพร้อยกับทั้งการบริหารเงินและการบริหารภายในบริษัท และยังเกิดคำถามเกี่ยวกับการบริหารงานของประธานกรรมการคนปัจจุบันอย่าง มานูเอล วี. แพนกิลิแนน หรือ MVP อีกด้วย 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


หุ้นของบริษัทร่วงลงกว่า 19% เหลือ 1,192 เปโซ หรือราว 772 บาท นับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2020 และมูลค่าตลาดหายไปกว่า 5.3 หมื่นล้านเปโซ หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท

 

“ตอนนี้ปัญหาหลักของ PLDT คือการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ตัวเลขของค่าใช้จ่ายที่เกินงบนั้นค่อนข้างมากและเกิดมานานหลายปี ทำให้มีคำถามว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับบริษัท Blue Chip ได้อย่างไร” แมนนี ครูซ นักยุทธศาสตร์จากบริษัทให้คำปรึกษาด้านการเงินสัญชาติฟิลิปปินส์อย่าง Papa Securities กล่าว 

 

โดยรายจ่ายที่เกินงบนั้นเกือบเทียบเท่ารายรับสุทธิของบริษัทในปี 2020 และ 2021 เลยทีเดียว และมากกว่าเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่บริษัทรายงานไว้ในไตรมาสที่แล้ว ที่ 2.14 หมื่นล้านเปโซ ถึง 2 เท่า

 

คาร์ลอส เทมโพราล นักวิเคราะห์จาก AP Securities กล่าวว่า ฝ่ายบริหารของบริษัทไม่ได้กล่าวถึงปัญหานี้อย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา เช่น รายละเอียดของปัญหา มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และขั้นตอนในการแก้ปัญหาของบริษัท 

 

“หุ้นของบริษัทจะยังคง Overhang อยู่ และราคาตลาดจะผันผวนไปในรูปแบบต่างๆ ตามการคาดการณ์ของแต่ละคน” เทมโพราลกล่าว

 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์จะพิจารณาการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับหุ้นของ PLDT ทั้งหมด หลังมีการเทขายหุ้นอย่างหนักก่อนตลาดจะปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ธันวาคม) และเกิดขึ้นอีกครั้ง 1 ชั่วโมงก่อนบริษัทจะเผยแพร่การสอบสวน ตามรายงานจาก Philippine Daily Inquirer

 

“แพนกิลิแนนจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นตามหลักความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชา” ครูซกล่าว “เหตุการณ์นี้อาจทำให้อาชีพของเขาจบลงและชื่อเสียงที่เขาสั่งสมมาก็จะเปื้อนมลทิน”

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising