วันนี้ (31 ก.ค.) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษานโนบายด้านการเกษตร พรรคอนาคตใหม่ และเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาราคาสินค้าทางการเกษตรตกต่ำ ลงพื้นที่พร้อมทีมงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูศักยภาพทางเกษตรและพูดคุยกับชาวบ้าน ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยจากการลงพื้นที่พบว่าตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมชั้นดี มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เพราะเป็นพื้นที่น้ำเค็มจากทะเลอ่าวไทย และน้ำจืดจากแม่น้ำบางปะกงมาบรรจบกัน ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำนา นอกจากนี้ยังหารายได้จากกุ้งทะเล ปลาทะเล และปูทะเล ที่อาศัยอยู่ในนาข้าวได้ด้วย และบริเวณนี้ยังมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม จากร่างผังเมืองรวมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พื้นที่ตำบลเขาดินและพื้นที่ใกล้เคียงกำลังจะถูกกำหนดเป็น ‘พื้นที่นิคมอุตสาหกรรม’ หรือ ‘พื้นที่สีม่วง’ ซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 47/2560 และ พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้จัดทำแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจตะวันออก โดยมีการยกเลิกผังเมืองเดิม
โดยร่างผังเมืองรวมอีอีซีที่ถูกจัดทำขึ้นใหม่ถูกประชาชนในพื้นที่คัดค้าน เพราะเห็นว่าโครงการขนาดใหญ่ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนจะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เดิมทีผังเมืองของตำบลเขาดินและพื้นที่ใกล้เคียงถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียว ใช้สำหรับเป็นพื้นที่เกษตรกรรม และห้ามจัดสรรที่ดินเพื่ออุตสาหกรรม แต่ร่างผังเมืองรวมอีอีซีใหม่กำหนดให้เป็นพื้นที่สีม่วงสำหรับใช้ทำนิคมอุตสาหกรรม
ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ได้มีการดำเนินการขุดดินถมที่และก่อสร้างอาคาร ซึ่งส่งผลกระทบกับการไหลของน้ำ ทำให้น้ำท่วมขัง ส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ประชาชนบางส่วนยังต้องสูญเสียที่ดินทำกินเนื่องจากถูกยกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน รวมถึงถูกไล่รื้อ ทำให้มีประชาชนไร้ที่ดินทำกินไม่ต่ำกว่า 75 ครอบครัว หรือประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดินเองก็ถูกบีบบังคับให้ต้องขายที่ดินด้วยการถมที่ดินล้อมบ้านและที่ดินทำกิน
ทั้งนี้คณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนที่ตำบลเขาดิน อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่การพัฒนาประเทศควรต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ และที่สำคัญไม่ว่าจะพัฒนาประเทศไปทางอุตสาหกรรมหรือจะเป็นเกษตรกรรม ประชาชนควรจะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในฐานะเจ้าของประเทศคนหนึ่ง
ซึ่งการลงพื้นที่ตำบลเขาดินครั้งนี้มี 2 วัตถุประสงค์หลักคือ ดูศักยภาพเชิงพื้นที่ทางการเกษตร และเพื่อพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อรับฟังถึงปัญหาและแนวทางการแก้ไขในโอกาสต่อไป
โดยพิธาระบุหลังรับฟังปัญหาว่า “ทางพรรคเห็นด้วยกับการสร้างความเจริญเติบโตให้กับประเทศด้วยการส่งเสริมการลงทุน ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ แต่การพัฒนาต้องทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะพื้นที่เขาดิน ซึ่งเห็นชัดเจนว่ามีต้นทุนด้านทรัพยากรที่หลากหลาย จึงอาจจำเป็นที่ต้องพิจารณาดูว่าจะทำอย่างไรให้การพัฒนาเกิดขึ้น โดยดึงเอาศักยภาพของพื้นที่มาส่งเสริมให้เป็นเกษตรอัตลักษณ์ และสร้างการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นจริงเพื่อให้การพัฒนานั้นเป็นไปอย่างเหมาะสม”
ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้กำลังส่งผลกระทบต่อกระดุมเม็ดแรกคือเรื่องที่ดิน ที่ทำกิน และจะส่งผลให้การใช้ชีวิตจากนี้เกิดความยากลำบาก ดังนั้นในบทบาทหน้าที่ของผู้แทนราษฎรจึงคาดหวังให้เกิดการพูดคุยหาทางออกจากทุกฝ่าย เพื่อหาจุดร่วมการพัฒนาที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญาไว้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์