×

“หยุดฆ่าประชาชน” ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคน ประท้วง ปธน. ดูเตร์เต จอมเผด็จการ

22.09.2017
  • LOADING...

     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 ก.ย.) ชาวฟิลิปปินส์หลายพันคนร่วมเดินขบวนประท้วงประณามเหตุการใช้ความรุนแรงกับประชาชนของรัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต (Rodrigo Duterte) พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะนำพาประเทศเข้าสู่ยุคมืดของระบอบเผด็จการอีกครั้ง

 

 

     ประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งนักการเมือง คนพื้นเมือง นักบวช นักการศาสนา กลุ่มนักธุรกิจ รวมถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้ายได้ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้ดูเตร์เตประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกและนโยบายตาต่อตา ฟันต่อฟัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทำสงครามต่อต้านยาเสพติดและลดอัตราการเกิดของอาชญากรรมภายในประเทศ

     ป้ายสัญลักษณ์และข้อความ ‘หยุดเข่นฆ่า(ประชาชน)’ และ ‘เราไม่เอากฎอัยการศึก’ ที่ถูกนำมาใช้ในการเดินขบวนครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความหวาดหวั่นใจของประชาชนที่มีต่อคณะรัฐบาลที่ใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา ซึ่งการร่วมเดินขบวนประท้วงในครั้งนี้ยังเป็นการรำลึกถึงความโหดร้ายและป่าเถื่อนของฟิลิปปินส์ที่ตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จของประธานาธิบดีเฟอร์ดินาน มาร์กอส (Ferdinand Marcos) ที่ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปี 1972 หรือเมื่อ 45 ปีก่อน

 

 

     ดูเตร์เตเป็นนักการเมืองที่ชื่นชมประธานาธิบดีมาร์กอสอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับครอบครัวอดีตประธานาธิบดีเผด็จการคนนี้จนถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาชนะการเลือกตั้งและได้รับคะแนนเสียงอย่างถล่มทลายจากการชูนโยบายปราบปรามยาเสพติดและลดการเกิดอาชญากรรมภายในประเทศอย่างจริงจังจนก้าวขึ้นเป็นผู้นำของฟิลิปปินส์ได้ในที่สุด

 

 

     ฝ่ายสนับสนุนดูเตร์เตออกมาต่อสู้กับฝ่ายต่อต้าน พร้อมทั้งกล่าวว่า “นี่จะเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นี่ พวกเราคือประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศที่ชื่นชมการทำงานของรัฐบาล” ทั้งนี้ฝ่ายสนับสนุนยังชื่นชมความเป็น ‘คนจริง’ ของดูเตร์เตที่ติดดิน เข้าถึงประชาชน เด็ดขาด และความไม่สมบูรณ์แบบในเรื่องต่างๆ ของเขา จนทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่ยังคงครองคะแนนนิยมและเป็นความหวังให้กับชาวฟิลิปปินส์ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้

     ทางด้าน เรเน ซากิสัก (Rene Saguisag) อดีตสมาชิกวุฒิสภาฟิลิปปินส์และนักกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวต่อสถานการณ์การปราบปรามยาเสพติดภายในประเทศว่า “มันดูเหมือนว่า สิ่งที่พวกเราเคยต่อสู้เมื่อปี 1972 ได้กลับมาอีกครั้ง ทั้งการไม่เคารพสิทธิในการชีวิตอยู่ของผู้อื่น ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้เราลุกขึ้นต่อสู้ในครั้งนั้น”

 

Photo: AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising