ในฤดูร้อนของปี 2012 ที่เอสเซ็กซ์ในอังกฤษ ห้าสิบไมล์ห่างลอนดอนไปทางตะวันออก ไม่ไกลจากเมืองพักผ่อนชายทะเลที่ชื่อ แคล็กตันออนซี (Clacton-on-Sea) จู่ๆ ผู้คนก็เห็น ‘สิงโต’ เยื้องย่างเดินผ่านผู้คนที่กำลังตั้งแคมป์กันอยู่
มันไม่ใช่แมว มันมีขนาดใหญ่มากเกินกว่าจะเป็นแมว และผู้ที่เห็นสิ่งมีชีวิตนี้ไม่ได้มีคนหรือสองคน แต่ทุกคนที่อยู่ในจุดตั้งแคมป์นั้นล้วนเห็นเหมือนกันหมด
“มันคือสิงโต!” บางคนตะโกนอย่างนั้น และให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ในเวลาถัดมาว่า มันคือแมวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับแกะสองตัวรวมกัน เพราะฉะนั้น มันจะเป็นแมวไปไม่ได้
ค่ำนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจออกลาดตระเวน เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ติดอาวุธเป็นปืนยาสลบออกไล่ล่า เฮลิคอปเตอร์บินวนว่อน และใช้เทคโนโลยีตรวจจับความร้อนด้วยแสงอินฟราเรดกราดหา มีการอพยพคนออกจากจุดตั้งแคมป์ทั้งหมด ทวิตเตอร์ของทั้งประเทศเต็มไปด้วยคำว่า Lion of Essex หรือสิงโตแห่งเอสเซ็กซ์
แต่เอสเซ็กซ์ (หรืออังกฤษทั้งประเทศ) จะมีสิงโตอยู่ในป่าได้อย่างไรกัน มันไม่น่าเป็นไปได้
หลังจากค้นหากันอยู่นาน ไม่มีใครพบแม้แต่ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้เลย แล้วข่าวก็ค่อยๆ เงียบหายไป ผู้คนเริ่มลืมเลือน จากที่จริงจัง สิงโตแห่งเอสเซ็กซ์ก็กลายเป็นวลีล้อเลียน
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกคุณว่า ปรากฏการณ์ประหลาดแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เอสเซ็กซ์แห่งเดียว แต่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นแทบจะทั่วโลก โดยเรียกเจ้าแมวยักษ์ที่ว่านี้ว่า Phantom Cat หรือ ‘แมวผี’ หรือบางทีก็เรียกว่า Alien Big Cat หรือ ABC และในบางที่ก็มีชื่อเฉพาะแยกย่อยลงไปอีก
เจ้าแมว ABC หรือแมวผีที่ว่านี้ มีการพบเห็นส่วนใหญ่ในยุโรป อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งก็แน่นอนว่ามีจำนวนหนึ่งเป็นแมวปลอม คือมีการสร้างข่าวลือข่าวลวง หรือไม่ก็เป็นแมวป่าขนาดใหญ่ (เช่น เสือดาวหรือเสืออื่นๆ) ที่หลุดออกมาจากกรง
แมว ABC ที่พบในพื้นที่อย่างออสเตรเลียนั้น พอจะมีคำอธิบายอยู่บ้าง อย่างเช่นแมวผีที่เรียกว่า Gippsland Phantom Cat ซึ่งพบเห็นได้ในพื้นที่ Gippsland ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐวิกตอเรียนั้น แท้จริงคือเสือคูการ์ที่ทหารอเมริกันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองพามันมาด้วยในฐานะที่เป็นสัตว์นำโชค แล้วก็เอามาปล่อยไว้ในป่าออสเตรเลีย ทำให้มันกลายเป็น Alien Species หรือสัตว์ต่างถิ่นไป โชคดีที่ยังไม่ได้สร้างผลเสียทางระบบนิเวศมากนัก แต่ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งคราวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีเสือแพนเธอร์ในแถบบลูเมาเทนส์ ทางตะวันตกของซิดนีย์อีก เรียกว่า Blue Mountains Panther ซึ่งก็จัดเป็น Phantom Cat เหมือนกัน มีรายงานการพบเห็นอยู่เนืองๆ มาเป็นศตวรรษแล้ว ซึ่งก็ประหลาดมาก เพราะเสือแพนเธอร์ไม่ได้เป็นสัตว์ในธรรมชาติของถิ่นนั้น มีการคาดการณ์กันว่า เสือนี้อาจจะหลุดออกจากสวนสัตว์หรือคณะละครสัตว์ แล้วก็ออกลูกออกหลานออกมา
อย่างไรก็ตาม มีการถ่ายคลิปเจ้าเสือแพนเธอร์นี้ได้ มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ กลับพบว่ามันไม่ใช่เสือแพนเธอร์ แต่คือแมวบ้านธรรมดาๆ นี่เอง ทว่ามีขนาดใหญ่กว่าแมวปกติถึง 2-3 เท่า โดยไม่มีใครอธิบายได้ว่าถ้าเป็นแมวบ้านจริง ทำไมมันถึงตัวใหญ่ได้ถึงขนาดนั้น
ที่น่าประหลาดอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เคยมี ‘แมวผี’ แบบนี้แหละครับ ออกอาละวาดในแถบเมือง Tantanoola ซึ่งอยู่ทางออสเตรเลียใต้ หลายคนคิดว่าเป็นเสือ เลยเรียกชื่อว่า Tantanoola Tiger แต่ปรากฏว่ามีการยิงสัตว์ชนิดนี้ได้ ในปี 1895 ปรากฏว่ามันคือหมาป่าที่เรียกว่า Assyrian Wolf หรือหมาป่าอัสซีเรีย ที่ประหลาดก็คือ หมาป่าชนิดนี้ไม่ใช่สัตว์ที่อยู่ในท้องถิ่น
ในสหรัฐอเมริกาก็คล้ายๆ กัน แม้จะมีรายการพบเสือหรือแมวยักษ์พวกนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นแคลิฟอร์เนีย ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นเสือคูการ์หรือสิงโตภูเขาที่ถูกรุกล้ำที่อยู่อาศัยของมัน นานๆ ทีก็เลยมาปรากฏตัวให้เห็นบ้าง
เอาเป็นว่า แมวผียักษ์ทั้งหลายที่พบในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือสหรัฐอเมริกานั้น ไม่ค่อยน่าประหลาดใจเท่าไร เพราะเป็นประเทศใหญ่ที่มีพื้นที่ธรรมชาติกว้างขวางมากพอที่แมวยักษ์พวกนี้จะซ่อนตัวอยู่ได้ไม่ยาก
แต่ถ้าเป็นอังกฤษล่ะครับ อังกฤษเป็นประเทศเกาะที่ไม่น่ามีสัตว์เลี้ยวลูกด้วยนมขนาดใหญ่แบบเสือมาเพ่นพ่านอยู่ในธรรมชาติมากนัก แต่ปรากฏว่า นับตั้งแต่ยุคหกศูนย์เป็นต้นมา มีรายงานการพบ ‘แมวยักษ์’ ทั่วทั้งเกาะอังกฤษ เคยมีการสำรวจโดยสมาคมที่ชื่อ British Big Cats Society ในปี 2003-2004 พบว่ามีการพบเห็นแมวยักษ์เหล่านี้มากถึง 2,052 ครั้ง โดยพบทางตะวันตกเฉียงใต้ 21%, ตะวันออกเฉียงใต้ 16%, อีสต์แองเกลีย 12%, สกอตแลนด์ 11% และเวสต์มิดแลนด์ 9% นั่นคือพบกระจายไปทั่วทั้งเกาะก็ว่าได้
ในเดนมาร์กก็เช่นเดียวกัน มีรายงานการพบ ‘สิงโต’ (ที่อาจจะเป็นเสือพูม่าก็ได้) ในเดือนพฤษภาคม 1995 แต่พบอยู่บนเกาะชื่อ Funen ซึ่งคนที่พบเห็นยืนยันมั่นเหมาะว่าเป็นเสือหรือสิงโตแน่ๆ หลังจากนั้นมีการสืบสวนดูว่าสิงโตในสวนสัตว์ใกล้ๆ หายไปหรือเปล่า ก็ปรากฏว่าไม่หาย มีการสงสัยว่าเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ตัวหนึ่งชื่อแมกนุสหรือเปล่า แต่ปรากฏว่า ในบ่ายอีกวันที่แมกนุสนอนอยู่ในบ้าน ก็มีคนพบเห็นเจ้า ‘สิงโต’ ที่ว่านี้อีก แถมยังเจอรอยเท้าที่มีขนาด 6-7 เซนติเมตรด้วย ทำให้หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นแมวป่าลิงซ์ ทว่าในที่สุดก็ไม่มีใครเจอตัวมัน ทำให้ปริศนานี้ยังไม่ไขกระจ่าง
ไม่เหมือนเจ้าแมวผีที่พบในเนเธอร์แลนด์ปี 2005 ซึ่งตอนแรกคนคิดว่าเป็นเสือคูการ์สีดำ แต่ต่อมาสามารถหาตัวมันพบ และรู้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นแค่ลูกผสมของแมวบ้านกับแมวป่า แล้วบังเอิญตัวใหญ่ผิดปกติเท่านั้นเอง
แมวผีอีกตัวหนึ่งที่ค่อนข้างโด่งดังและยังไม่มีคำอธิบายก็คือแมวยักษ์ที่ปรากฏตัวในฟินแลนด์ช่วงปี 1992 มีคนพบเห็นหลายครั้ง รัฐบาลส่งนักชีววิทยาออกตามล่าเพราะหลายคนคิดว่ามันคือสิงโต แต่ก็หาตัวไม่พบ มีรายงานว่ามันออกจากฟินแลนด์ไปทางรัสเซีย มีการพบรอยเท้าที่พรมแดนของฟินแลนด์กับรัสเซีย แต่ก็ไม่มีใครค้นพบตัว ทำให้ไม่รู้ว่ามันคือสิงโตจริงหรือเปล่า
ในอินเดียก็มีแมวทำนองนี้อยู่เหมือนกันนะครับ เรียกว่า Pogeyan ซึ่งแปลว่า ‘แมวที่ไปและมาเหมือนสายหมอก’ แสดงให้เห็นว่ามันเป็นแมวยักษ์ที่มีความลึกลับพอสมควร เชื่อว่า Pogeyan น่าจะเป็นเสือดาวอินเดีย (Indian Leopard) ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ในท้องถิ่นอยู่แล้ว
ในศรีลังกาก็เคยมีนักวิจัยแมวป่า ที่พบว่าการรุกล้ำของเมืองเข้าไปสู่ถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ ทำให้แมวยักษ์อย่างเช่นเสือปลา มาปรากฏตัวในเมืองบ่อยครั้งขึ้น ส่วนใหญ่จะมากินอาหารหรือล่าสัตว์ (โดยเฉพาะปลาเลี้ยงสวยงาม) ในบริเวณบ้านของผู้คน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของแมวผียักษ์ที่บางกรณีก็อธิบายได้ บางกรณีก็อธิบายไม่ได้ ซึ่งกรณีที่อธิบายไม่ได้นี่แหละ ที่ทำให้เกิดความเชื่อแบบเหนือธรรมชาติต่างๆ กับเจ้าแมวเหล่านี้
คุณล่ะครับ, คิดอย่างไรกับเจ้าเหมียวเหล่านี้บ้าง
ภาพประกอบ: Dreaminem
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์