“วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ ในฐานะกัปตันต้องตัดสินใจหยุดพักโครงการชั่วคราว เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยประเทศและโลกในการฝ่าวิกฤตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พวกเราทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ อย่างน้อยก็ดีใจที่ได้ร่วมสร้างรอยยิ้มให้กับหลายๆ คน และเชื่อว่าเราจะได้เจอกันใหม่ในเร็วๆ นี้” โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์
หลังจากวางแผนฟิตซ้อมร่างกายสำหรับโปรเจกต์ ‘One Man & The Sea หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย’ มาตลอดระยะเวลา 4 เดือน และเริ่มออกว่ายน้ำข้าม 12 เกาะพร้อมกับทีมงานมาได้ 16 วัน โตโน่ก็ต้องตัดสินใจยกเลิกโปรเจกต์เป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบจากการประกาศ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด
One Man & The Sea เป็นโปรเจกต์ที่โตโน่ตั้งเป้าท้าทายตัวเองด้วยภารกิจสุดหิน ว่ายน้ำตัวเปล่าข้าม 12 เกาะ จุดเริ่มต้นจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปสิ้นสุดจุดหมายปลายทางที่เกาะสมุย รวมระยะทางทั้งหมดถึง 82 กิโลเมตร
เพื่อหวังช่วยปลุกจิตสำนึกให้คนไทยยกระดับความใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติก และตระหนักถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเลให้มากยิ่งขึ้น โดยระหว่างทางได้ชักชวนให้เพื่อนๆ ศิลปินและชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงร่วมกิจกรรมรณรงค์การเก็บขยะบนชายหาดและคัดแยกให้ถูกวิธี (กิจกรรมส่วนนี้ถูกยกเลิกไปก่อน เพราะเรื่องความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างนิสัยช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น
ระหว่างกิจกรรม ทุกคนสามารถร่วมบริจาคเงินและสมทบทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือเครื่องมือแพทย์เพื่อมอบให้กับศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร จังหวัดภูเก็ต ส่วนงานช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เกาะมันใน จังหวัดระยอง รวมไปถึงโรงพยาบาลริมชายฝั่ง
โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา โตโน่และทีมงานสามารถว่ายผ่านเกาะต่างๆ ได้ 9 เกาะ คือ เกาะริกัน, เกาะนกเภา, เกาะเหยี่ยว, เกาะกา, เกาะวัวจิ๋ว, เกาะส้ม, เกาะเชือก, เกาะทะลุ และมาสิ้นสุดภารกิจที่เกาะพะลวย ทำระยะทางได้ 27 กิโลเมตร และมียอดบริจาคจากพี่น้องคนไทยที่เห็นความสําคัญของท้องทะเลและสัตว์ทะเลอยู่ที่ 2,463,077 บาท
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า