นักวิเคราะห์ทางการเงินชื่อดังและผู้ชื่นชอบทองคำอย่าง Peter Schiff เผยว่า อัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจะทำให้ทองคำเตรียมก้าวไปสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ เพราะมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) ของทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่การพุ่งขึ้นของบิทคอยน์ (BTC) เป็นเพียงการถูกปั่นราคาให้สูงแล้วเตรียมเจอแรงเทขายเท่านั้น
Peter Schiff วิเคราะห์ถึงความซับซ้อนของอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และแนวโน้มของทองคำ
Schiff แสดงความกังวลอย่างมากต่ออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งสูงขึ้นเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ตรงกันข้ามกับความหวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงไปสู่เป้าหมายที่ 2% เขาชี้ว่าแม้ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่การใช้จ่ายภาครัฐและผู้บริโภคก็ไม่มีการชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าความพยายามในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้ผลมากนัก
ด้วยเหตุนี้เอง Schiff จึงมีมุมมองในแง่บวกต่อราคาทองคำ เขามองว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำ ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนหน้านี้ เป็นปัจจัยตั้งต้นที่อาจทำให้ทองคำก้าวไปสู่จุดสูงสุดใหม่ได้ เพราะมูลค่าที่แท้จริง (Intrinsic Value) ของทองคำในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยความผันผวนของราคาเมื่อเร็วๆ นี้ถูกมองว่าเป็นความผันผวนชั่วคราวในตลาดที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ซึ่งเกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเป็นเหตุให้มูลค่าของทองคำพุ่งสูงขึ้น Schiff คาดว่าความสนใจในทองคำจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากขึ้นตระหนักถึงข้อจำกัดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการจัดการภาวะเงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการเสริมบทบาทของทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งที่หลบภัย (Safe Haven) และเป็นแหล่งสะสมมูลค่าที่เชื่อถือได้ การพุ่งขึ้นของราคาบิทคอยน์ (BTC) เป็นเพียงการเก็งกำไรครั้งใหม่
แม้ว่า Peter Schiff จะมีมุมมองตลาดกระทิงต่อราคาทองคำ แต่เขากลับมองว่าการเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์เป็นเพียงกระแสความคลั่งไคล้ในตลาดที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ โดยเป็นเพียงการปั่นราคาให้สูงและจะร่วงลงในอนาคต สาเหตุการเพิ่มขึ้นของ BTC ครั้งนี้มาจากเงินทุนที่ไหลมาจากกองทุน Spot Bitcoin ETF ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ Schiff ยังคงไม่เชื่อในประสิทธิภาพของบิทคอยน์ในการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับทองคำ ความเห็นของเขาสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางที่ระมัดระวังต่อ BTC โดยเน้นย้ำถึงความผันผวนและลักษณะการเก็งกำไรในสกุลเงินดิจิทัล
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
อ้างอิง: