×

สุชาติ ชมกลิ่น เด็กในบ้านใหญ่-เด็กในบ้านป่าฯ ถึงปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 5 รทสช.

โดย THE STANDARD TEAM
17.04.2023
  • LOADING...
สุชาติ ชมกลิ่น

การเลือกตั้งปี 2562 ที่จังหวัดชลบุรี พรรคพลังประชารัฐคว้าชัยชนะใน 5 เขตเลือกตั้ง ส่วนอีก 3 เขตเลือกตั้งถูกปักธงทางการเมืองโดยพรรคอนาคตใหม่

 

ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ชัยชนะเป็นของ สุชาติ ชมกลิ่น ด้วยคะแนน 38,268 คะแนน เป็นชัยชนะเหนือคู่แข่งจากพรรคอนาคตใหม่อยู่ 1 หมื่นแต้ม

 

ในเขตเลือกตั้งที่ 6 ความพ่ายแพ้เป็นของ อิทธิพล คุณปลื้ม ห่างคู่แข่งจากพรรคอนาคตใหม่ที่คว้าชัยไปเพียง 6,000 แต้ม

 

ทว่าในบัญชีรายชื่อของคณะรัฐมนตรีชุดแรกในรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ปรากฏชื่อของอิทธิพล ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งทั้งพี่ชาย-พี่สะใภ้คุณปลื้ม ต่างเคยขึ้นกุมอำนาจในกระทรวงนี้

 

อิทธิพลขึ้นเป็นรัฐมนตรีได้ เป็นผลจากคำสัญญา และคำเชิญร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐที่ผู้ใหญ่ใน 3 ป. ได้รับปากไว้กับพี่ชาย สนธยา คุณปลื้ม แม้ชัยชนะในชลบุรีจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่บ้านใหญ่ได้เคยรับประกันไว้

 

ภาพจำในความรับรู้คือชลบุรีเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ร่มใหญ่แห่งบ้านคุณปลื้ม ทว่าในเวลาต่อมา ภาพจำนี้ผิดแผกออกไป

 

 

บารมีของ สุชาติ ชมกลิ่น ก่อตัวหลังการเลือกตั้งปี 2562 โดยการกวาดต้อนผู้นำท้องถิ่นหลายแห่งเข้าสู่สังกัด เป็นผู้นำท้องถิ่นทั้งจากเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด นายอำเภอ และนายตำรวจในพื้นที่ สุชาติยังผูกมิตรกับกลุ่มธุรกิจ-การค้าในจังหวัดอย่างเหนียวแน่น

 

เครื่องมือในการจูงใจสู่สังกัดคือการอุปถัมภ์ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะน้ำใจในยามยาก และโอกาสในยามต้องการความก้าวหน้าทุกประเภท

 

สุชาติขึ้นสู่จุดสูงสุดในวงการเมือง โดยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ตำแหน่งรัฐมนตรีที่สุชาติได้ครอบครอง เป็นภาพสะท้อนความไม่เป็นหนึ่งเดียวใต้ร่มเงาบ้านใหญ่คุณปลื้ม

 

ที่ห้องทำงานของสุชาติ ทั้งที่กระทรวงแรงงาน และสำนักงานส่วนตัวในจังหวัดชลบุรี จะมีกรอบรูปสองรูปใหญ่ติดไว้ที่ผนังห้อง โดยติดอยู่ในระดับที่เสมอกัน นั่นคือภาพของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนัยให้ผู้มาเยี่ยมเยือนได้รับรู้ถึงร่มเงาใหม่ที่เขาสังกัด

 

ร่มเงาที่ให้โอกาสได้ก้าวเป็นรัฐมนตรี ทั้งขึ้นมารับบทนำในวงอำนาจบ้านป่ารอยต่อ ก่อนตัดสินใจคุม 104 เขตเลือกตั้ง ปั้นลุงตู่เป็นนายกฯ สมัยที่ 3

 

 

สองนิทานเรื่องหมา: หมาเริ่มก้าวร้าว-หมาถูกทำร้าย

 

กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สนธยา คุณปลื้ม พี่ใหญ่ของบ้านใหญ่ ใช้หลายประโยคยิงตรงไปที่สุชาติ ทั้ง ‘อยากจะสร้างอาณาจักร’ และ “การที่คนคนหนึ่งจะพูดเท็จหลายเรื่องในที่ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูดีนั้นก็เห็นอยู่ดาษดื่น มีเพิ่มมาอีกคนก็ไม่แปลก

 

“คล้ายกับเวลาหมาเห่า ถ้าไม่สร้างปัญหาร้ายอะไร เราก็ไม่ควรไปดุ เพราะหมาก็ทำตามสัญชาตญาณของหมา แต่คราวนี้ต่างไป เพราะผมเริ่มรู้สึกว่าหมาเริ่มก้าวร้าว ทั้งที่อุ้มชูมายาวนาน”

 

ปมความขัดแย้งที่ทำให้ระอุในเวลานั้นคือบารมีของสุชาติที่เด่นชัดและล้ำหน้าขึ้นทุกวัน

 

ในเวลาไม่นานนัก สุชาติก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งต่างๆ ล้ำหน้าบ้านใหญ่คุณปลื้ม ทั้งก้าวเป็นรัฐมนตรีแรงงานที่เมื่อเทียบชั้นรัฐมนตรีวัฒนธรรมแล้ว ถือเป็นคนละเกรด

 

ก้าวไปรับบทนำในบ้านป่ารอยต่อในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ พงศาวดารกระซิบเล่าว่า ในช่วงเวลาอันเป็นที่โปรดปราน ทุกเช้าตั้งแต่ตีห้าครึ่ง สุชาติจะทำหน้าที่จัดคิวนักการเมือง นักเลือกตั้งทั่วประเทศเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประวิตร แต่ที่ท้าทายสุชาติที่สุดคือการจัดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ลงชิงในเขตเลือกตั้งของจังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากบ้านใหญ่

 

สุชาติโต้กลับโดยเล่านิทานเรื่องหมาต่างไปจากสนธยา “ผ่านมาชีวิตจริง ผมไม่เคยเห็นหมาตัวไหนมันทิ้งเจ้าของ เห็นมีแต่เจ้าของนั่นแหละที่ชอบเอาหมาไปทิ้ง ไปปล่อยวัด มีเหตุผลไม่กี่ข้อที่หมาจะหายไป นั่นก็คือหลงทาง กับการถูกทำร้ายบาดเจ็บ จนถูกบ้านหลังใหม่เก็บเอาไปเลี้ยง”

 

ในรายการหนึ่งเขาเล่านิทานอีกเรื่องมาประกอบ โดยมีพื้นหลังอยู่ที่ความขัดแย้งระหว่าง แม่ทัพอัลไซเมอร์กับขุนศึกบาดเจ็บ

 

“เมื่อเสร็จศึกแม่ทัพกลับเป็นอัลไซเมอร์ ไม่ดูแลขุนศึก เมื่อขุนศึกบาดเจ็บอยู่ข้างทาง เจ้าเมืองผ่านมาเห็นจึงดูแลอุ้มชู ขุนศึกคนนี้จะถวายหัวให้เจ้าเมืองหรือแม่ทัพที่เป็นอัลไซเมอร์ ผมจึงเล่าให้ฟัง และการเมืองไม่ใช่การสร้างอาณาจักร มันเป็นการรวมตัวกันของคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง”

 

ภาพ: เฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น

 

ฉายา: ‘สุชาติ ชมเก่ง’

 

ปลายปี 2564 รัฐมนตรีแรงงานได้รับฉายาจากนักข่าวประจำทำเนียบว่า สุชาติ ชมเก่ง เพราะในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อต้องพูดถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลหรืองานในความรับผิดชอบ สุชาติจะต้อง ‘ชื่นชม’ ‘ยกยอ’ 2 ป. ก่อนทุกครั้ง

 

นอกเหนือจาก ‘ชมเก่ง’ ในบัญชีรายชื่อของคณะตรวจราชการ ตรวจติดตามงานของทั้งนายกฯ ประยุทธ์ และรองนายกฯ ประวิตร จะต้องมีชื่อของสุชาติเป็นองค์ประกอบอยู่เสมอ

 

ตัวเขาเองยิ้มรับกับฉายา “ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสามารถทำทุกอย่างได้ตามเป้า ช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน ช่วยเหลือคนแรงงานในทุกๆ มาตรานั้น เพราะทั้ง 2 ท่าน ได้ทำการสนับสนุนและร่วมผลักดันมาตลอด ถ้าไม่มีท่าน ตนก็ไม่สามารถเดินหน้าแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วเช่นอย่างวันนี้”

 

ความเป็น สุชาติ ชมเก่ง ยังพบเห็นได้ในทุกการเปิดงาน ทุกการพบปะพี่น้องแรงงาน ทุกการสัมภาษณ์กับสื่อ ไปจนถึงสารวันแรงงานที่แจกทั่วประเทศในวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี

 

“รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และท่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลและกำกับกระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน”

 

ถึงที่สุด สุชาติเลือกแล้วที่จะชื่นชมเพียง ป. เดียว เช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 สุชาติเข้ากราบลา พล.อ. ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่บ้านป่ารอยต่อ พร้อมลาออกจากกรรมการบริหารพรรค เป็นอันปิดฉากความสัมพันธ์กับหนึ่งในร่มเงาใหม่ที่ในหนหนึ่งได้เคยให้โอกาสเด็กในบ้านใหญ่คนหนึ่งก้าวชั้นเป็นรัฐมนตรี

 

“ผมรักเคารพลุงป้อมมาก ท่านให้โอกาสผมทำงาน ท่านเมตตาผมมาโดยตลอด ซึ่งท่านทราบเหตุผลที่ผมจะลาออกดี ขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ทำให้ผมเติบโตทางการเมือง แต่ผมมีภารกิจที่จะต้องไปกับลุงตู่”

 

 

มือการเมือง: คุม 104 เขตเลือกตั้ง ปั้นลุงตู่เป็นนายกฯ สมัย 3

 

ความสำคัญและบารมีของสุชาติในพรรครวมไทยสร้างชาติเปล่งประกายเพียงใด พิจารณาได้จากการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค โดยเขาอยู่ในลำดับที่ 5 ของบัญชี

 

ขณะที่หากพิจารณาจากความเป็นมือการเมือง เขาอยู่ในลำดับที่ 3 ของบัญชี

 

เป็นรองเพียง ‘พีระพันธุ์’ ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรค เป็นรองเพียง ‘เอกนัฏ’ ที่เป็นเลขาธิการพรรคเท่านั้น

 

ทั้งยังเหนือกว่าเสนาธิการทางการเมืองของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่ติดตามกันมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ที่ประกอบด้วย ‘ธนกร-อนุชา-เสกสกล-ทิพานันท์’

 

สุชาติในวันนี้จึงเป็นเสนาธิการทางการเมืองวงในที่สุดของ พล.อ. ประยุทธ์ เทียบชั้นกับพีระพันธุ์ และเสนาธิการทหารที่รายล้อมรอบลุงตู่

 

ในการเลือกตั้งปี 2566 สุชาติส่ง ‘แยม-ณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์’ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลเสม็ด ซึ่งเป็นน้องสาวภรรยาลงชิงเขต 1 จังหวัดชลบุรี

 

“หน้าที่ขอบเขตความรับผิดชอบของผม ณ วันนี้ ต้องดูแลในภาพใหญ่ รวมทั้งสิ้นกว่า 104 เขต และดูแล ส.ส. ทั้งจังหวัดชลบุรี ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคกลาง ฯลฯ

 

“ถ้าผมลง ส.ส. เขต คงต้องใช้เวลาหาเสียงดูแลเขตของตัวเอง แต่พื้นที่รับผิดชอบอื่นๆ ก็คงทำไม่ได้เต็มที่ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ ‘ลุงตู่’ เป็นนายกฯ อีกสมัย”

 

นี่คือคำเฉลยถึงความสำคัญและบารมีของสุชาติในพรรครวมไทยสร้างชาติ

 

จาก ‘เด็กในบ้านใหญ่คุณปลื้ม’ ก้าวเป็น ‘เด็กในบ้านป่ารอยต่อ’ วันนี้สุชาติก้าวไปถึง ‘ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับ 5 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ’

 

ในการจัดงาน จัดกิจกรรมต่างๆ ของสุชาติในช่วงเทศกาลสำคัญ ทั้งวันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันเกิด ซึ่งเปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆ เข้าเยี่ยมคารวะ จะต้องมีป้ายติดอยู่ว่า ‘พวกกันสำคัญเสมอ’ ภาพนายตำรวจติดยศใหม่ที่เข้าเยี่ยมคารวะสุชาติ พร้อมพวงมาลัยใส่พาน หลังประกาศเลื่อนยศได้ไม่กี่วัน คือคำตอบของประโยคนี้

 

ในการเลือกตั้งที่กำลังมาถึง จึงเป็นการวัดความเป็นพวกเดียวกันที่สุชาติได้สั่งสมไว้อย่างแน่นหนาตลอดสี่ปีที่ถืออำนาจนำ โดยมีเดิมพันคือภารกิจชิงชัย 104 เขตเลือกตั้งในความรับผิดชอบ ทั้งการจัดวางคน ยุทธศาสตร์ และทรัพยากร พร้อมด้วยเป้าหมายใหญ่อยู่ที่ตำแหน่งรัฐมนตรีในสมัยหน้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising