ศัลยแพทย์ระบบสืบพันธ์ุจากอิตาลีเตือนการทำเลเซอร์ปรับสภาพสีผิวอวัยวะเพศชายให้ขาวขึ้นในประเทศไทยอาจไม่ปลอดภัย เชื่อคนทำต้องพร้อมรับความเสี่ยงหลายอย่างกับศัลยกรรมที่เห็นผลไม่ชัดเจน
มัสสิมิลาโน แบรมบิลา (Massimiliano Brambilla) ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสืบพันธ์ุประจำเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่าการทำศัลยกรรมเลเซอร์สีอวัยวะเพศชายให้ขาวขึ้นที่กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยนั้นอาจจะอันตรายกว่าที่คิด เนื่องจากการใช้เลเซอร์ กรด หรือสารเคมีกับจุดดังกล่าวอาจจะทำให้ผิวหนังไหม้ มีแผลเป็น ผิวตึง เป็นด่าง และมีสีที่เข้มขึ้นกว่าตอนแรกได้
“ผมคิดว่าถ้าผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องทำก็เลี่ยงไว้จะดีกว่า
“สารส่วนใหญ่ที่ใช้ในการฟอกขาว (Whitening) ค่อนข้างที่จะอันตราย ต้องบอกเลยว่าสารฟอกขาวเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างให้ความระมัดระวังในการใช้งานเป็นอย่างมาก”
ความเห็นของศัลยแพทย์รายนี้เป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยสะท้อนความกังวลที่มีต่อการทำศัลยกรรมเปลี่ยนสภาพสีผิวอวัยวะเพศชายในประเทศไทย หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา (4 ม.ค.) โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีได้โปรโมตคอร์สเลเซอร์ปรับสภาพจุดซ่อนเร้นดังกล่าวให้สว่างใสขึ้นจนกลายเป็นข่าวดัง และประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอยู่พักใหญ่ สนนค่าใช้จ่ายต่อครั้งอยู่ที่ประมาณ 4,900 บาท (รวมทั้งคอร์สต้องรักษา 5 ครั้ง ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท)
ในช่วงเวลาดังกล่าวโรงพยาบาลที่ว่าได้ออกมาชี้แจงให้สังคมไทยทราบว่าการทำเลเซอร์อวัยวะเพศไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด เพราะใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานและการรับรองจาก อย. และทางโรงพยาบาลก็มีผู้เข้ารับการรักษาในคอร์สนี้มากกว่า 100 คนต่อเดือน หลังเพิ่งเปิดตัวทรีตเมนต์นี้ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ดี พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมในช่วงเวลานั้นว่า การทำศัลยกรรมโดยวิธีการใช้เลเซอร์ปรับสภาพผิวอวัยวะเพศชายให้ขาวขึ้นในทางการแพทย์ไม่เคยมีการทำมาก่อน เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดผลกระทบข้างเคียงตามมา เพราะเป็นบริเวณสำคัญที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่เคยมีการรับรองผลการรักษาว่าจะได้ผล 100% ด้วย
จากการเปิดเผยของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS)) เมื่อปี 2016 พบว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 21 ของประเทศที่มีจำนวนการทำศัลยกรรมมากที่สุดในโลก ด้วยยอดศัลยกรรมรวม 112,821 ครั้งในปีดังกล่าว ส่วนประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา บราซิล และญี่ปุ่น นำเป็นอันดับที่ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ
อ้างอิง:
